เรื่อง พระอชิตเถระในวัฒนธรรมจีน
โดย พระมหาวุฒิมา ปญฺญาวุฑฺโฒ วัดป่าธรรมคีรี
…………………………………………………………
พระเมตไตรย คือ พระเมตไตรย 彌勒眞彌勒
แบ่งกายเป็นพันหมื่นโกฏิ 化身千百億
ให้คนได้เห็นทุกเวลา 廣度諸衆生
แต่คนกลับไม่เกิดปัญญา 衆生都不識
หลายท่านคงได้เคยเข้าไปวัดจีนหรือศาลเจ้า
จะพบว่ามีรูปเคารพหลวงพ่อพระยิ้มใจดี อ้วนพุงพลุ้ย ในมือถือถุงย่ามและลูกประคำ
พระองค์นั้นคือ พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ ไม่ใช่พระสังกัจจายน์ อย่างที่คนไทยหลายท่านเข้าใจ
พระศรีอริยเมตไตรยมหาโพธิสัตว์ คือ พระอชิตเถระในสมัยพุทธกาล
พระองค์จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตกาลแห่งภัทรกัปป์นี้
หลังจากสิ้นยุคของพระศาสนาสมเด็จพระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ประทับอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นดุสิต เตรียมการมาประสูติในโลกมนุษย์
เพื่อจะได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดเหล่าเวไนยสัตว์ และประกาศพระพุทธศาสนา
ให้รุ่งเรืองต่อไป คนจีนออกเสียงเรียกพระนามท่านว่า
# มีเล็กผ่อสัก (彌勒菩薩)
พระโพธิสัตว์พระองค์นี้ ปรากฏรูปเคารพประดิษฐานอยู่ตามพระอารามทั่วไป
เป็นรูปพระสงฆ์จีนครองจีวรแบบจีน เปิดส่วนท้องให้เห็นพุงพลุ้ยใหญ่ รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์
ใบหน้าหัวเราะร่าเริงมาก และมีถุงย่ามขนาดใหญ่ อยู่ในมือข้างขวาของท่าน
ส่วนข้างซ้ายถือลูกประคำ ในที่บางแห่งจะเห็นมีรูปเด็กปีนป่าย ขึ้นไปบนร่างของท่าน
ซึ่งเป็นเครื่องแสดงว่าท่านเป็นพระที่ใจดีมาก ไม่มีวิตกกังวลและห่วงใย
ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไร เป็นที่เคารพรักของพวกเด็กๆ เป็นอย่างมาก
คนจีนโบราณนิยมบูชาพระศรีอาริย์ในรูปหลวงพ่อย่ามใหญ่มีเด็กผู้ชายปีนป่ายอยู่ 5 คน
เป็นคำพรที่หมายถึง ความเจริญยั่งยืนไปอีก 5 ช่วงอายุ ตรงกับคำมงคลว่า อู่ฝู (五福)
สำเนียงแต้จิ๋วอ่านว่า โหงวฮก แปลตรงตัวก็คือ บุญวาสนา 5 ประการ (ความสุข 5 ประการ)
คำว่า ร่ำรวย (#ฟู่ #富) และ คำว่า สูงส่ง หรือ สูงศักดิ์ (#กุ้ย #贵)
หากนำมาเชื่อมโยงกัน ก็คือ # ฟู่กุ้ย (富贵) ชาวแต้จิ๋ว นิยมเรียกกันว่า #ปู้กุ้ยฮุก 富贵佛
ท่านคือหลวงพ่อถุงย่าม 布袋和尚 ซึ่งชาวจีนเชื่อว่า
ท่านคือนิรมานกายของ หมีเล่อฝอ 弥勒佛 พระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้า
รูปเคารพแทนองค์พระโพธิสัตว์พระองค์นี้ ความจริงแล้วเป็นรูปปั้นของพระ หลวงพ่อถุงย่ามใหญ่
ซึ่งเป็นพระภิกษุในยุค 5 ราชวงศ์ ท่านเป็นชาวเมืองฮ่องฮัว มณฑลเม่งจิว มีฉายานามว่า
เข่ยชื้อ (慈氏) แปลว่า ผู้เมตตา
เชียงเทงจื๊อ (一生補處) แปลว่า พระผู้มีเอกชาติปฏิพันธ์
หรือพระผู้เกี่ยวข้องกับการเกิดอีกเพียงชาติเดียว ก็จักได้บรรลุพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง มิต้องหวนกลับมาเวียนว่ายในสังสารวัฏอีก
ท่านมีลักษณะเฉพาะคือ มีความสุขเบิกบานอยู่ตลอดเวลา ไปไหนมาไหน
ท่านจะมีถุงย่ามใบใหญ่ติดตัวเสมอ ในถุงย่ามนั้นบรรจุยารักษาโรค เงินทอง และอาหาร
สำหรับนำออกแจกช่วยเหลือดับทุกข์ภัยให้สรรพสัตว์ ท่านจึงได้รับฉายาว่า
หลวงพ่อถุงย่ามใหญ่ (布袋和尚)
เมื่อท่านเอ่ยวาจากล่าวอะไร มักจะเป็นอรรถเป็นธรรม ฉุดช่วยให้พ้นทุกข์
มีความหมายในทางนิกายเซน (ธยาน) ในปีที่ 3 แห่งรัชกาลเจงเม้ง (พ.ศ.1460)
ท่านได้นั่งสมาธิดับขันธ์ มรณะภาพบนแท่นหินวัดงักลิ้ม (岳林寺)
ก่อนที่จะละสังขารท่านได้เขียนโศลกไว้บทหนึ่งว่า
พระเมตไตรย คือ พระเมตไตรย 彌勒眞彌勒
แบ่งกายเป็นพันหมื่นโกฏิ 化身千百億
ให้คนได้เห็นทุกเวลา 廣度諸衆生
แต่คนกลับไม่เกิดปัญญา 衆生都不識
ฉะนั้น..บรรดาพุทธสาวกจึงต่างสันนิษฐานว่าท่านเป็นพระเมตไตรยมาโปรด
แล้วเลยออกฉายาท่านว่า พระเมตไตรยโพธิสัตว์
………………………………………...………
พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ต่างจากพระสังกัจจายน์ คือ
- พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ พระเศียร (หัว) ไม่มีพระเกศา (ผม)
ครองจีวรเปิดด้านหน้า (เห็นพุง) มือข้างหนึ่งถือถุงย่าม ข้างหนึ่งถือลูกประคำ
- พระสังกัจจายน์ พระเศียรมีพระเกศาขมวดเป็นก้นหอย ห่มจีวรเฉียง มีสังฆาฏิพาดไหล่
แบบเดียวกับพระในนิกายเถรวาท ห่มครองผ้าจีวรมิดชิด (ไม่เปิดเห็นพุง)
…………………………………………………
วัดวาอาราม หรือสถานธรรมต่าง ๆ ประดิษฐานรูปเคารพของหลวงพ่อย่ามใหญ่
พระศรีอาริยเมตไตรยไว้ด้านหน้าวัด เพื่อให้ผู้ที่เข้าไปกราบนมัสการก็จะได้เห็นรอยยิ้มที่เป็นสุข
เปี่ยมด้วยมหากรุณาของพระองค์ รอต้อนรับอำนวยพรให้กับสาธุชนทั้งหลาย
พุทธศาสนิกชนมักจะมีคำกล่าวอธิษฐานว่า ขอให้ได้เกิดในยุคพระศรีอาริย์
หลายพระสูตรได้กล่าวถึงยุคที่พระศรีอริย์มาตรัสรู้ว่า
พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองสูงสุด ผู้ได้เกิดร่วมสมัยกับพระองค์จะมีรูปร่างหน้าตาสวยงาม
ปรารถนาสิ่งใดก็ไปอธิษฐานกับต้นแก้วสารพัดนึก ต้นกัลปพฤกษ์
ที่สามารถดลบันดาลให้ทุกคนสมหวัง มีความสมบูรณ์พูนสุข ปราศจากภัยใดๆ
สามารถบรรลุมรรคผล เข้าถึงนิพพานธรรมได้ง่ายดาย
มีอายุยืนยาวนานเสวยความสุขสำราญถึง 8 หมื่นปี
แต่ทั้งนี้ผู้จะไปเกิดเป็นเวไนยนิกรในยุคพระศรีอาริย์ได้ ต้องละความชั่ว
และทำความดีเต็มความสามารถ ความปรารถนานั้นจึงจะสัมฤทธิ์ผล
ขอให้ทุกท่านที่มีจิตศรัทธาในบารมีธรรมแห่งพระศรีอาริยเมตไตรย
จงเร่งละอกุศลที่เป็นการบาปทั้งปวง สร้างกุศลให้ถึงพร้อม สั่งสมจิตตภาวนาชำระจิตให้ขาวรอบ
เพื่อจะส่งผลให้ได้ไปเกิดในพระพุทธศาสนา ใต้ร่มพระบรมโพธิญาณแห่งพระศรีอริยเมตไตรยพระองค์นั้น
……………………………………………….
พระอาจารย์คม อภิวโร เมตตาให้โอวาทว่า
ใครปรารถนาจะไปเกิดยุคพระศรีอาริยเมตไตรย ก็ต้องเร่งขวนขวาย
จะมานอนใจ สักแต่ว่าอธิษฐานเอาอย่างเดียวไม่ได้ เหตุต้องสมควรแก่ผล
ถ้าทำเหตุอ่อนเกินไป ผลก็ไม่ปรากฏ กำลังบุญกุศลต้นทุนความดีของเรา
และเเรงอธิษฐานมีความสำคัญมาก แต่สำหรับผู้มีปัญญาขบคิดปริศนาธรรมแตก
ยุคพระศรีอาริยเมตไตรยก็ไม่ได้แปลกประหลาดอะไร หรืออยู่ที่ไหนห่างไกลจากเราเลย
ท่านใดมีวาสนา อาจจะพบพระศรีอาริยเมตไตรยได้ในทันที ไม่ต้องรออนาคตกาลเบื้องหน้านู้นก็เป็นได้