นักผจญเพลิง (Hikeshi—火消 )
ฮิเกชิ หรือ นักผจญเพลิง เป็นหนึ่งในประชากรรราว 10 เปอร์เซ็นต์ที่สามารถดึงดูด และ/หรือ มองเห็น สิ่งมีชีวิตที่คนทั่วไปมองไม่เห็น ซึ่งคนจากสมาพันธ์จะคอยสอดส่องหาพวกเขาเพื่อคุ้มครองและเฝ้าดูไม่ให้เกิดอันตราย (หรือไปทำอันตรายกับคนอื่น) และกลุ่มคนเหล่านี้บางส่วนเมื่อทางสมาพันธ์เล็งเห็นว่าพวกเขามีศักยภาพที่จะเรียนรู้การใช้ศาสตร์เวทมนตร์ได้ จะถูกเรียกตัวเข้ามาเป็นหนึ่งใน นักผจญเพลิง ของสมาพันธ์
อายุของ นักผจญเพลิง นั้นจะอยู่ที่ 15-45 ปี ขึ้นอยู่กับความสมัครใจและประสบการณ์
การหา นักผจญเพลิง ของสมาพันธ์ มาจากทั้งการส่งเทียบเชิญให้กับคนที่อยู่ในความดูแลของทางสมาพันธ์อยู่แล้ว อาจเป็นสายตระกูลที่มีแนวโน้มพบความสามารถเหล่านี้เป็นทุนเดิมจึงจับตามองมาอย่างยาวนาน หรือคนที่เจอระหว่าง นักผจญเพลิง คนอื่นปฏิบัติงานภาคสนาม
อีกส่วนมาจากการได้รับข้อมูลจากองเมียวจิจากพื้นที่อื่นๆ เมื่อคนเหล่านั้นย้ายมาในเขตที่อยู่ในการดูแลและไม่มีสังกัดเป็นพิเศษจึงส่งเทียบเชิญไปให้
และเนื่องจากเป็นความสมัครใจบางคนอาจเริ่มงานของ นักผจญเพลิง ตั้งแต่อายุยังน้อย ในขณะที่บางคนอาจเริ่มงานเมื่อเข้าวัยกลางคนก็ได้
การส่งเทียบเชิญของสมาพันธ์นั้นสามารถตอบตกลงหรือปฏิเสธได้—สำหรับกรณีที่เคยปฏิเสธแล้วหากต้องการจะเป็นฮิเกชิ ก็สามารถติดต่อสมาพันธ์อีกครั้งหนึ่งได้เช่นกัน
หลังจากนั้นจะอยู่ในลักษณะของการ "ฝึกงาน" หรือทดสอบการใช้อุปกรณ์ว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ ระยะเวลาโดยประมาณจะอยู่ที่ 3-6 เดือน และไม่เกิน 1 ปีและอยู่ในการดูแล/ฝึกสอนจากคนในเขตที่พนักงานนั้นพักอาศัยหรือสะดวกที่สุด (และในระหว่างฝึกงาน หากเห็นว่าตัวเองไม่สามารถทำงานได้ก็สามารถถอนตัวได้เช่นกัน) จากนั้นจึงค่อยบรรจุตามหน่วยเพื่อลงภาคสนามต่อไป
ถึงแม้ว่าการเข้าปะทะกับ ฮินิน จะมีให้เห็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ทางสมาพันธ์ขอความร่วมมือให้พนักงานปฏิบัติหน้าที่อย่างสงบสุขเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นแนวทางการทำงานของกลุ่ม นักผจญเพลิง จะได้รับการแนะนำให้เลือกวิธีที่สร้างความเสียหายกับสภาพแวดล้อมรอบด้านน้อยที่สุด
สมาพันธ์จะแจ้งให้ นักผจญเพลิง ทุกคนเก็บเรื่องการทำงานเป็นความลับไว้ และถ้าต้องการ ทางสมาพันธ์จะดำเนินเรื่องออกตำแหน่งงานที่เป็นหน้าฉากให้ โดยมักจะเป็นงานที่อยู่ในการดูแลหรือบริหารโดยทางสมาพันธ์เอง (เช่นงานของศาลเจ้าอย่างเช่นมิโกะ หรือบริษัทในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ศาลเจ้า)
อย่างไรก็ตาม นักผจญเพลิง บางคนก็ไม่ได้ทำตามที่สมาพันธ์แจ้ง และส่วนมากผู้ที่ได้ยินมักจะไม่เชื่อ เป็นต้นว่ามองว่าเป็นเรื่องเหลวไหลเสียมากกว่า
เกณฑ์ความสามารถของนักผจญเพลิง
สัมผัสที่หก (ESP—Extrasensory perception): ความสามารถในการติดต่อสิ่งมีชีวิตที่คนทั่วไปมองไม่เห็น
ระดับเบื้องต้นอาจจะได้ยินเสียงแว่ว หรือเห็นสิ่งผิดปกติทางหางตา จนไปถึงเห็นความผิดปกติของคนที่ถูกเข้าสิงได้อย่างชัดเจน แต่สำหรับนักผจญเพลิงขั้นต่ำสุดคือเห็นและได้ยินพวกนั้น (อาจจะเห็นแค่ระยะใกล้ แต่จำเป็นต้องเห็น)
สำหรับคนที่มีประสาทสัมผัสที่หกดีเป็นพิเศษจะสามารถสื่อสารกับสิ่งเหล่านั้น (หรือเรียกว่าได้รับการยอมรับ) ได้
คนที่มีสัมผัสที่หกดี มีแนวโน้มที่จะใช้เวทมนตร์ได้ดีตามกันไปด้วย รวมถึงอาจจะมีความสามารถในการดึงดูดสิ่งเหนือธรรมชาติสูงตามไป
ความสามารถในการดึงดูดสิ่งเหนือธรรมชาติ
เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดและทำให้เพิ่มขึ้นหรือลดลงไม่ได้ คล้ายๆ กับฟีโรโมนที่ปล่อยออกมาตามธรรมชาติ ยิ่งมีเยอะยิ่งดึงดูดปรากฏการณ์เหล่านั้นได้ดี กรณีนี้จะเหมือนคนที่เชื่อว่าตัวเองโชคร้ายหรือเจออุบัติเหตุบ่อยๆ นั่นเอง
มีแนวโน้มที่ความสามารถนี้จะถูกส่งต่อให้กับคนในตระกูลเดียวกัน (เช่นรุ่นลูกหรือรุ่นหลาน) แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนในตระกูลนั้นจะได้รับความสามารถไป
ความสามารถนี้เป็นดาบสองคม เพราะถ้าลงทำงานภาคสนามจะตกเป็นเป้าหมายคนแรกๆ และเป็นกลุ่มคนที่จะโดนวิญญาณสิงสู่ได้ง่ายด้วย
พวกฮินินเชื่อว่าการได้ “เผาผลาญ” (หรือกัดกิน) คนประเภทนี้จะทำให้อายุขัยหรือความสามารถของตนเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้สามารถ “ลบ” ได้ชั่วคราว เช่นการพกเครื่องรางคุ้มครองจะช่วยได้ระดับหนึ่ง
※ สำหรับสัมผัสที่หกและความสามารถในการดึงดูดสิ่งเหนือธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ติดตัวกับคนคนนั้นมาตั้งแต่แรกแล้ว (และประสาทสัมผัสมีแนวโน้มจะคมชัดเมื่อโตขึ้น)
สำหรับกรณีที่ประสบอุบัติเหตุและได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะจากคนที่มีความสามารถ ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสได้รับความสามารถนั้น แต่ถือว่ามีโอกาสนั้นค่อนข้างน้อย และไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับการที่ความสามารถไม่ได้ถูกส่งต่อจากคนในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นเสมอไป
สมรรถภาพทางกาย
ความหมายตรงตัว เพราะสุดท้ายแล้วร่างกายที่แข็งแรงก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น ขั้นต่ำสุดของนักผจญเพลิงคือวิ่งแล้วไม่เป็นลมกลางทาง
หน่วยและกลุ่ม
นักผจญเพลิง จะประจำตำแหน่งพื้นที่ภาคสนามตามหน่วย โดยยึดจากพื้นที่ทำงาน 23 แขวงพิเศษในกรุงโตเกียว โดยที่แต่ละหน่วยจะถูกแบ่งกลุ่ม จำนวนตั้งแต่ 3-7 กลุ่มขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ประจำการ
เนื่องจากงานภาคสนามนั้นมักปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลากลางคืน อีกทั้งบางคนรับงานทั้งสองฝั่ง (เช่นทำงานเป็นพนักงานบริษัทในช่วงกลางวัน) หรืออาจจะเป็นนักเรียนอยู่ เพราะเหตุนั้นในแต่ละเขตจึงจำเป็นต้องมีมากกว่า 1 กลุ่มเพื่อสลับกันลงพื้นที่ภาคสนาม และจำเป็นต้องไปกันเป็นกลุ่มเสมอ ห้ามทำงานคนเดียวโดยเด็ดขาด
ปกติแล้วการบรรจุ นักผจญเพลิง จะเลือกหน่วยที่ใกล้กับที่พักอาศัยหรือสะดวกกับคนนั้นๆ เพื่อความรวดเร็วในการมาปฏิบัติงาน
ในทางเนื้อเรื่องแล้ว นักผจญเพลิง สามารถยื่นความจำนงเปลี่ยนหน่วยที่ต้องการบรรจุได้ทุกครึ่งปี และมีการปรับเลื่อนตำแหน่งทุกหนึ่งปี
สำหรับหัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยจะถูกเลือกจากความเหมาะสม ทั้งความสามารถในการทำงาน และความเป็นผู้นำที่ดี รวมถึงประสบการณ์ลงภาคสนาม ดังนั้นจึงมีหลายกลุ่มที่หัวหน้าและรองหัวหน้ามีอายุไม่มากนัก
ข้อกำหนดในการจัดตั้งกลุ่ม
จำนวนสมาชิกในกลุ่มขั้นต่ำสุดอยู่ที่ 5 คน และสูงสุดที่ 7 คน
จำเป็นจะต้องมีอาวุธครบทุกประเภท: มาโตอิ/โทบิกุจิ/ดาบ/เฮียวชิกิ/โคม
หัวหน้ากลุ่มจะเป็นคนถือมาโตอิ และรองหัวหน้ากลุ่มจะเป็นคนถือโทบิกุจิ