องค์ประกอบที่ 1 การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง
1.6 การศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้
องค์ประกอบที่ 1 การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง
1.6 การศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้
🛑 งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนาตามข้อตกลง ใน 1 รอบการประเมิน
- มีการศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนาการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน
- วิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล
- จัดกลุ่มนักเรียน
- วางแผนพัฒนานักเรียนตามศักยภาพและความแตกต่างระหว่างบุคคล
🛑 ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลงที่คาดหวังให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน
1. นักเรียนได้รับการแก้ปัญหาหรือพัฒนาในด้านการเรียนรู้
2. นักเรียนได้รับการแก้ปัญหาหรือพัฒนาด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
3. นักเรียนได้รับการแก้ปัญหาหรือพัฒนาด้านสมารรถนะสำคัญผู้เรียน
🛑 ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น
1. ร้อยละ 80 ของผู้เรียน มีความรู้ผ่านเกณฑ์การประเมินของสถานศึกษา
2. ร้อยละ 80 ของผู้เรียน มีผลการประเมินในด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญตามหลักสูตรที่สูงขึ้น เป็นไปตามค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลนักเรียนรายบุคคล รายวิชาวิทยาการคำนวณ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3–6 พบว่า
ด้านสภาพเศรษฐกิจและอาชีพผู้ปกครอง พบว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมถึงร้อยละ 82.9 รายได้ครัวเรือนอยู่ระหว่าง 5,000–10,000 บาทต่อเดือน ร้อยละ 62.9 แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่มีฐานะยากจน
ด้านสภาพครอบครัว พบว่านักเรียนส่วนใหญ่มีผู้ปกครองอยู่ด้วยกัน ร้อยละ 91.4 ซึ่งถือเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ดีต่อการดูแลเอาใจใส่และพัฒนาการเรียนรู้ ขณะที่การพักอาศัย นักเรียนส่วนใหญ่พักอยู่กับบิดามารดาและมีบ้านพักเป็นของตนเอง คิดเป็นร้อยละ 80 การเดินทางมาโรงเรียนส่วนใหญ่ผู้ปกครองเป็นผู้มาส่ง ร้อยละ 82.9 และค่าใช้จ่ายรายวันที่นักเรียนได้รับต่ำกว่า 50 บาท
ผลการเรียนเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดี ระหว่าง 3.00–4.00 คิดเป็นร้อยละ 51.4 ขณะที่ร้อยละ 25.7 อยู่ระหว่าง 2.00–3.00 และมีบางส่วนอยู่ในระดับ 1.00–2.00 ร้อยละ 22.9 แสดงให้เห็นว่านักเรียนส่วนใหญ่มีผลการเรียนที่น่าพอใจและมีศักยภาพที่จะพัฒนาต่อไปได้
ความสนใจในรายวิชา พบว่านักเรียนชื่นชอบวิชาพลศึกษาและภาษาอังกฤษมากที่สุด ร้อยละ 28.6 ด้านวิชาที่นักเรียนไม่ชอบมากที่สุดคือภาษาไทย ร้อยละ 37.1 รองลงมาคือสังคมศึกษา ร้อยละ 34.3
สำหรับการใช้เทคโนโลยี พบว่านักเรียนส่วนใหญ่ไม่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ร้อยละ 91.4 และใช้คอมพิวเตอร์เฉลี่ยเพียงสัปดาห์ละ 1–2 ชั่วโมง โดยใช้เพื่อการเรียนการสอนเป็นหลัก ร้อยละ 85.7 มีเพียงส่วนน้อยที่ใช้เล่นเกมหรือค้นคว้าข้อมูล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดด้านโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ
สรุปผลการวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การใช้โปรแกรมฝึกพิมพ์ Revivatype เพื่อแก้ปัญหาทักษะการใช้แป้นพิมพ์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 คน
1. คะแนนการฝึกพิมพ์ความถูกต้องหลังเรียนของนักเรียนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับคะแนนก่อนเรียน โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 32.60 เปอร์เซ็นต์
2. นักเรียนมีความเร็วในการพิมพ์เพิ่มขึ้นจากก่อนฝึกพิมพ์ 21.69 นาที
3. นักเรียนมีพฤติกรรมการเรียนรู้ที่ดีขึ้น เช่น มีความตั้งใจ สนใจ และสามารถวางมือตามตำแหน่งได้ถูกต้องมากขึ้น
อภิปรายผล
สาเหตุที่นักเรียนมีพัฒนาการดีขึ้น อาจมาจากปัจจัยต่อไปนี้:
1. โปรแกรม Revivatype มีระบบฝึกแบบเป็นขั้นตอน ชัดเจน และเข้าใจง่าย เหมาะสมกับวัยของนักเรียนระดับประถมศึกษา
2. การฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง และการประเมินผลหลังการฝึกทำให้นักเรียนเห็นความก้าวหน้าและเกิดแรงจูงใจในการเรียน
3. นักเรียนรู้สึกสนุกและไม่กดดันขณะฝึก ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ