งานประเพณีอัฐมีบูชา วันอัฐมีบูชา เป็นวันที่มีเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันคล้ายวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า ตามพุทธประวัติกล่าวว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ ป่าสาละ เมืองกุสินารา ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เจ้ามัลลกษัตริย์ ผู้ครองนครกุสินารา ได้ทำพิธีสักการบูชาพระบรมศพพระพุทธองค์หลังจากเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานเป็นเวลา ๗ วัน ครั้น ถึงวันที่ ๘ ตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ จึงได้อัญเชิญพระบรมศพไปถวายพระเพลิง ณ มกุฏพันธนเจดีย์ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมือง วันนี้เอง จึงเรียกว่า "วันอัฐมีบูชา” นับเป็นวันที่ชาวพุทธมีความโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากต้องสูญเสีย พระบรมสรีระแห่งองค์พระบรมศาสดา ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันแรม ๘ ค่ำ แห่งเดือนวิสาขะ (เดือน ๖) เวียนมาถึง วันอัฐมีบูชา เวียนมาบรรจบในแต่ละปี พุทธศาสนิกชนจึงพร้อมใจกันประกอบพิธีบูชาขึ้น โดยการประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจำลอง และเรียกวันนี้ว่า "วันอัฐมีบูชา” เพื่อระลึกถึงพระพุทธคุณ ประเพณีวันอัฐมีบูชา หรือวันการถวายพระเพลิงพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า ในปัจจุบัน ได้เลือนหายไปคงเหลือปฏิบัติสืบทอดมาเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย จังหวัดอุตรดิตถ์เป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้มีการสืบสานและสืบทอดประเพณีท้องถิ่นสำคัญของชาวอุตรดิตถ์ โดยการจัดงานประเพณีวันอัฐมีบูชา หรือวันการถวายพระเพลิงพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า ณ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้กำหนดจัดงานประเพณีวันอัฐมีบูชา เริ่มขึ้นในวันวิสาขบูชา คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ถึงวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ รวม ๙ วัน ดังนั้น เพื่อเป็นการสืบสานและสืบทอดงานประเพณีท้องถิ่นสำคัญของชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่จัดงานสืบต่อกันมามากกว่า ๕๐ ปีแล้ว สมควรได้รับการส่งเสริม สนับสนุน ให้เป็นประเพณีท้องถิ่นอันดีงามควรค่า แก่การสืบทอดสู่ลูกหลานต่อไป