การสานหมวกจากต้นกก
ภูมิปัญญาท้องถิ่น : การสานหมวกจากต้นกก
ส่วนใหญ่ประชากรอำเภอจัตุรัส ติดบึงละหานซึ่งมีต้นกก หรือผือนา ขึ้นอยู่ในบึงละหานเป็นจำนวนมาก และชาวบ้านมีอาชีพทำเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ เมื่อว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรม ก็มีการประกอบอาชีพเสริม เช่นการทอสื่อกก กันมาก บางครัวเรือนได้ยึดเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้ให้กับครอบครัวซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ การทอเสื่อกก มีการสืบทอดมาตั้งแต่สมัย ปู่ย่า ตายาย โดยเริ่มแรกมีการใช้กกเหลี่ยม หรือที่เรียกว่าผือนา ยังไม่มีการย้อมสีผลิตภัณฑ์ หรือทาลวดลาย ส่วนใหญ่นามาใช้ในครัวเรือน ส่วนในปัจจุบันนิยมใช้ กกกลม มาใช้แทนกกเหลี่ยม เนื่องจากหาง่ายในแหล่งธรรมชาติ และเมื่อนามาทอสื่อแล้ว มีคุณสมบัติเหนียว และเป็นมันวาว ซึ่งมีการพัฒนาลวดลายบนผืนเสื่อเป็นลวดลายต่างหลากหลาย มีความสวยงามโดดเด่น จึงมีการนาเอาเสื่อกกมาออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น การทาที่รองแก้วหมวกซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ภูมปัญญาท้องถิ่น ให้สามารถยึดเป็นอาชีพหลัก และอาชีพรองได้
วัสดุและอุปกรณ์
1. ต้นกกตากแห้ง
2. สี (ตามต้องการ)
3. เข็ม
4. เข็มถักเบอร์ 5
5. ขันน้ำพลาสติก
6. มีดคัตเตอร์
7. แปรงปัดฝุ่น
8. เศษผ้า
9. กรรไกร (ใช้ตัดแต่งต้นกกสำหรับแกนและตัดตอกสำหรับสานหมวก)
10. กรรไกรตัดเล็บ
(ใช้ตัดตอกที่รอยต่อของหมวกช่องแคบ ๆ)
11. ลูกมะพร้าวแห้ง (ทำแบบ)
12. แลคเกอร์ (เคลือบหมวก)
13. ริบบิ้น ช่อดอกไม้
(สำหรับตกแต่งหมวก)
ขั้นตอนและการปฏิบัติงาน
1. คัดเลือกต้นกกที่สมบูรณ์ อายุ 4 – 5 เดือน
2. ตัดต้นกกที่คัดเลือกแล้วนำไปตากแดด ให้แห้ง ประมาณ 5 – 7 วัน
3. เตรียมแบบพิมพ์ส่วนหัวหมวก โดยคัดเลือกจากลูกมะพร้าวแห้ง ขนาดพอเหมาะสมกับขนาดของหมวกที่ต้องการ
4. เฉือนตัดแต่งลูกมะพร้าวให้ได้รูปทรงของส่วนหัวหมวก ด้วยใบมีดที่คม (ซึ่งต้องอาศัยความ
ชำนาญพอสมควร)
5. นำต้นกกมาฉีกโดยใช้เข็มแต่งให้ได้ขนาดเท่ากัน แล้วนำไปแช่น้ำให้อ่อนก่อนที่จะสาน
6. เริ่มลายสานหมวกโดยใช้ต้นกกเป็นแกนหลัก จำนวน 4 ต้น (เริ่มต้นสานส่วนหัวของหมวก) แล้วสานขึ้นเป็นรูปวงกลม โดยใช้ลายสานไขว้ไปไขว้มา และเสริมหลักเข้าไปเรื่อย ๆ จนได้แผ่นกลางส่วนบนหมวกเป็นวงกลม (รัศมีประมาณ 4 นิ้ว)
7. นำส่วนบนของหมวกที่ได้ไปวางกับแบบพิมพ์ แล้วใช้หมุดตอกยึดติดกับแบบพิมพ์ เพื่อที่จะสานส่วนหัวหมวกตามลายที่ต้องการซึ่งมีหลากหลายแบบ โดยใช้ลายสานไขว้ไปไขว้มา และเสริมหลักเข้าไปเรื่อยๆ จนได้ขนาดความลึกของหมวกตามต้องการ จึงถอดออกจากแบบพิมพ์
8. การสานปีกหมวก หลังจากถอดออกจากแบบพิมพ์แล้ว ทำการสานต่อไปจนได้ความกว้างของปีกหมวกตามต้องการ
9. ทำการเก็บริมหมวกให้สวยงาม คงทน ไม่หลุดง่าย