“ผาขี่ควาย” คือ เป็นที่สูงชัน มีเรื่องเล่ากันมาว่า เมื่อครั้งสมัยก่อนพระร่วงเจ้าได้โปรดเล่นว่าว อยู่มาวันหนึ่งพระร่วงเจ้าได้โปรดเล่นว่าวแต่ไม่มีลดพัด พระร่วงเป็นผู้มีฤทธิ์ พระร่วงคิดว่าลมที่พัดมาไม่แรงคงจะมีภูเขาลูกหนึ่งที่กั้นขวางทางลม จึงจะนำควายมาคลาดภูเขาให้ต่ำลงเพื่อจะไม่ขวางทางลมอีกต่อไป จึงได้นำควายของท่านจูงลงมาตามลำน้ำฐาน เพราะว่าควายของพระร่วงนั้นสูงใหญ่มากจึงมาหาที่เทียบเพื่อที่จะขี่หลังควายไปคลาดภูเขาหลังบ้านน้ำคลาด หมู่ 8 (ปัจจุบัน) ตำบลบ้านพร้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ใช้ผาหินก้อนใหญ่อยู่ริมคลองน้ำฐานเป็นที่เทียบขึ้นหลังควายไปคลาดภูเขาให้ต่ำลง เพื่อเปิดช่องทางลมที่จะเล่นว่าวต่อไป จึงได้เรียกภูเขานี้ว่า “ผาขี่ควาย” ผู้คนสมัยโบราณเล่ากันมาว่า ภายใต้ก้อนหินใหญ่ผาขี่ควายแห่งนี้ มีถ้ำขนาดใหญ่และมีสิ่งของศักดิ์สิทธิ์อยู่ในนั้น มีเครื่องใช้สมัยโบราณ เช่น ถ้วย แก้ว ขันโตกเงินและขันโตกทอง เครื่องเพชร และมีผู้มีบุญเฝ้าประตูถ้ำอยู่ ผู้มีบุญเท่านั้นที่จะเข้าไปในถ้ำแห่งนี้ได้ ผู้ที่อยู่ในนั้นเป็นผู้มีบุญ คนโบราณเล่าว่าคนเหล่านั้นกินอาหารทิพย์ ถั่ว งา เป็นโลกอีกมิติหนึ่ง เหมือนกับเมืองลับแลที่เล่ากันมา เมื่อสมัยโบราณผู้คนในหมู่บ้านพร้าว ซึ่งเป็นหมู่เดียวที่อยู่ใกล้ผาขี่ควายแห่งนี้ เมื่อจัดงานประเพณีขึ้นภายในหมู่บ้าน ชาวบ้านจะต้องไปยืมเครื่องใช้ต่างๆ ที่จำเป็นที่ถ้ำผาขี่ควายแห่งนี้เพื่อนำมาใช้ในการจัดงานในหมู่บ้าน