นางลำดวน พร้าโต
ประธานกลุ่ม“การทอผ้ามัดหมี่”
นางลำดวน พร้าโต
ประธานกลุ่ม“การทอผ้ามัดหมี่”
ผ้าทอผ้ามัดหมี่บ้านป่าซ่าน
การทอผ้ามัดหมี่เป็นภูมิปัญญาของหมู่บ้านป่าซ่าน ที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ นอกจากจะนิยมทอกันไว้ใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับตนเอง และสมาชิกภายในครัวเรือนแล้ว ยังมีการทอขึ้นเพื่อใช้ในพิธีกรรม ประเพณีต่าง ๆ ความเชื่อทางศาสนาและสังคมด้วย คำว่า “ผ้ามัดหมี่” เป็นชื่อที่เรียกกรรมวิธีการทอผ้าอย่างหนึ่ง ที่นำเอาเส้นด้ายมามัดเป็นเปลาะๆ ตามลายแล้วนำไปย้อมสีให้เกิดสีสัน และลวดลายตามที่ต้องการเรียกวิธีการมัดย้อมแบบบ้านหมี่ ต่อมาจึงเหลือเพียง “มัดหมี่” ผ้าที่ทอจากเส้นด้ายที่มัดหมี่ จึงเรียกว่า “ผ้ามัดหมี่” ซึ่งความงดงามและความเป็นเอกลักษณ์ของผ้ามัดหมี่ คือ รอยสีที่ค่อย ๆ ซึมในเนื้อผ้าที่ติดกับลวดลาย ทำให้ได้ลวดลายที่แปลกตา เพิ่มความงดงามและความมีเสน่ห์ให้แก่ผ้ามัดหมี่ ในสมัยก่อนจะทอกันในช่วงเวลาที่ว่างเว้นจากฤดูทำนา ผ้าที่นำมาทอจะเป็นผ้าซิ่นลายมัดหมี่ ผ้าขาวม้า และเครื่องนุ่งห่ม เพื่อใช้ในครัวเรือน ในปัจจุบันการทอผ้ามัดหมี่ถือเป็นอาชีพหลักที่สร้างรายได้ให้กับครอบครัว จึงได้มีการรวมกลุ่มสมาชิกทำการจัดตั้งกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรขึ้นมา โดยได้มีแรงจูงใจในการอนุรักษ์ลายโบราณ และเพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว และชุมชน รวมถึงหาแหล่งเงินทุนสนับสนุนในการประกอบอาชีพทอผ้ามัดหมี่ และเป็นการสืบทอดเอกลักษณ์ ภูมิปัญญาของท้องถิ่นในการทอผ้ามัดหมี่
ซึ่งในปัจจุบันมีผู้นิยมใช้ผ้าไทยกันอย่างแพร่หลาย ตามนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ใช้ผ้าไทย กลุ่มฯ จึงได้มีการพัฒนา สร้างสรรค์ลวดลายให้มีความหลากหลายและทันสมัย แต่ยังคงคุณลักษณะผ้าทอพื้นเมืองแบบดั้งเดิมอยู่ โดยการผสมผสานลวดลายโบราณตามความเชื่อ ความศรัทธา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และตามจินตนาการ ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าทออันประณีตและทรงคุณค่า อีกทั้งเป็นการสืบทอดภูมิปัญญาควรค่าแก่การอนุรักษ์
นางลำดวน พร้าโต เกิดวันที่ 9 ธันวาคม 2505 อายุ 54 ปี เป็นคนในหมู่บ้านป่าซ่าน ตำบลบ้านพร้าว เป็นประธานกลุ่ม“การทอผ้ามัดหมี่” อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านพร้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
กระบวนการ ขั้นตอน วิธีการ
1. การลอกกาวเส้นไหมทั้งเส้นยืนและเส้นพุ่ง
1.1 ทำการเลือกเส้นไหม ทั้งส่วนที่ใช้ทำเป็นเส้นยืน และเส้นพุ่ง โดยเลือกใช้เส้นไหมที่มีมาตรฐานคุณภาพ คือมีการสานเส้นไหมเป็นลักษณะตาข่าย ขนาดเส้นรอบวงไจไหม น้ำหนักไจไหม การทำไพไหม เพื่อการง่ายและสะดวกรวดเร็วในการปฏิบัติงาน
1.2. ทำการเตรียมสารลอกกาวธรรมชาติ โดยใช้ผักโขมมาตากแดด แล้วนำมาเผาให้เป็นขี้เถ้านำขี้เถ้าที่เผาได้มาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน นำมากรองด้วยผ้าบาง ก็จะได้น้ำด่างธรรมชาติเพื่อการลอกกาว
1.3 นำเส้นไหมที่เตรียมไว้มาทำการต้มลอกกาวด้วยสารลอกกาวธรรมชาติที่เตรียมไว้ โดยใช้อัตราส่วนระหว่างสารลอกกาวกับเส้นไหมเท่ากับ 50 ลิตรต่อเส้นไหม 1 กิโลกรัม แล้วทำการต้มลอกกาวในระดับอุณหภูมิที่ 95 องศาเซลเซียส นานประมาณ 45 นาที แล้วให้ทดสอบโดยการใช้มือสัมผัสว่ากาวได้ถูกต้มออกหมดแล้ว นำเส้นไหมมาล้างด้วยน้ำร้อนที่ไม่น้อยกว่า 90 องศาเซลเซียส แล้วล้างด้วยน้ำอุ่น และน้ำธรรมดา จากนั้นบีบน้ำออกจากเส้นไหม แล้วทำการกระตุกเส้นไหมก่อน นำไปผึ่งตากแห้ง