Flow Chart หรือ ผังงาน หมายถึงแผนภาพแสดงลำดับการเคลื่อนไหวหรือการกระทำของคนหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องในระบบต่างๆ ข้อดีของ Flow Chart คือการแสดงภาพรวมและช่วยจัดลำดับขั้นตอนการทำงานในระบบได้อย่างเป็นระเบียบและถูกต้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางาน
ประเภทของ Flow Chart ถูกแบ่งออกมาได้สี่รูปแบบดังนี้
ผังงานเอกสาร (Documents Flow Chart) – หมายถึงการเคลื่อนไหวของเอกสารในระบบ
ผังงานข้อมูล (Data Flow Chart) – หมายถึงการเคลื่อนไหวของข้อมูลในระบบ
ผังงานระบบ (System Flow Chart) – หมายถึงการเคลื่อนไหวของสิ่งของและทรัพยากรในระบบ
ผังงานโปรแกรม (Program Flow Chart) – หมายถึงควบคุมการตัดสินใจโปรแกรมในระบบ
ผังงาน Flow Chart จะถูกแสดงในรูปแบบ ‘กล่อง’ หรือ ‘สัญลักษณ์’ (block) ในรูปทรงต่างๆเพื่อแทนกิจกรรมและการตัดสินใจในระบบ ซึ่ง Flow Chart สามารถถูกใช้เพื่อวิเคราะห์ ออกแบบ จัดเก็บข้อมูล หรือบริหารกระบวนการหลายรูปแบบในหลายอุตสาหกรรม
การ ‘ทำให้เห็นภาพ’ คือข้อดีหลักของการเขียนผังงาน เราจะเห็นได้ว่ากระบวนการทำงานต่างๆจะประกอบไปด้วยกิจกรรมหรือขั้นตอนย่อยมากมาย แต่ละขั้นตอนก็ต้องการข้อมูลและทรัพยากรที่แตกต่าง เพราะฉะนั้นหากเรามี Flow Chart เราก็สามารถหา จุดอ่อน จุดบอด หรือปัญหาคอขวด (Bottleneck) เพื่อพัฒนาระบบของเราได้
ปัญหาหลักของการออกแบบระบบทำงานก็คือการทำงานซ้ำ ทำงานชักช้า ทำงานหลายขั้นตอนเกิดจำเป็น โดยเฉพาะในระบบที่มีคน ทรัพยากร หรือกระบวนการเยอะ ซึ่งส่วนมากหากจะเกิดจากการที่เราใส่ใจกระบวนการ ‘เฉพาะจุด’ มากเกินไป จนลืมดูภาพรวมของทั้งหมด
สัญลักษณ์ Flow Chart แต่ละอย่างจะใช้แทนคำอธิบายกิจกรรมและการตัดสินใจต่างๆ เช่น จุดเริ่มต้น จุดสิ้นสุด จุดประมวลผลการทำงาน เป็นต้น
และทุก สัญลักษณ์ ของ Flow Chart นั้นจะมีมาตรฐานเดียวกัน (มาตรฐาน ANSI และ ISO) สามารถใช้สื่อสารกันได้ทั่วโลก และวิธีการอ่านผังงาน Flow Chart ที่ถูกต้องก็เหมือนกับการอ่านภาษาไทยทั่วไป (จากบนลงล่างและซ้ายไปขวา)
การถ่ายทอดความคิดในการแก้ปัญหาในรูปแบบรหัสลำลอง จะต้องมีจุดเริ่มต้น จุดสิ้นสุด และลำดับก่อนหลังที่ชัดเจน เพื่อให้เห็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ ลักษณะการทำงาน และลำดับในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะช่วยให้การแก้ปัญหา สามารถดำเนินการตามแผนการที่กำหนดไว้ พัฒนาโปรแกรมได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และตรวจสอบได้
แหล่งที่มา : https://thaiwinner.com/flow-chart/