หน่วยที่ 4 การจัดการสื่อประเภทภาพเคลื่อนไหวและเสียง

หน่วยที่ 4 การจัดการสื่อประเภทภาพเคลื่อนไหวและเสียง

4.1 การจัดการสื่อประเภทภาพเคลื่อนไหว

4.1.1 การแทรกภาพเคลื่อนไหว

4.1.2 คุณสมบัติของสื่อประเภทภาพเคลื่อนไหว

4.1.3 การปรับแต่งสื่อประเภทภาพเคลื่อนไหว


4.2 การจัดการสื่อประเภทเสียง

4.2.1 การแทรกเสียง

4.2.2 คุณสมบัติของสื่อประเภทเสียง

4.2.3 การปรับแต่งสื่อประเภทเสียง

การสร้างภาพเคลื่อนไหวด้วยโปรแกรม Adobe Captivate 4.0 Step by Step

คลิกที่ Software Simulation



Step 2 จะปรากฏหน้าต่าง New project


เลือกโปรแกรมที่เปิดอยู่ที่ต้องการจะ Record

– Custom size สำหรับการ Capture movie แบบกำหนดขนาดหน้าจอภาพได้

– Application window สำหรับการ Capture movie โปรแกรมที่เราต้องการ Capture ทั้งหมด

– Application Region สำหรับ capture พื้นที่ทำงานในโปรแกรมที่เราจะ capture

เมื่อต้องการให้คลิก OK

Software Simulation ใช้สำหรับจับภาพการเคลื่อนไหวของหน้าจอภาพ แสดงออกมา ในรูปแบบของสถานการณ์จำลอง

Application สำหรับการจับภาพของหน้าต่างที่เปิดใช้งานอยู่ (Active window) Custom size สำหรับการจับภาพหน้าจอที่กำหนดขนาดของขอบเขตได้ Full Screen สำหรับการจับภาพทั้งจอภาพ

Demonstration หมายถึง โปรแกรมจะจับหน้าจอตามการกระทำที่เกิดขึ้น มีการ เคลื่อนไหวของเมาส์ มีกรอบโต้ตอบกับผู้เรียน

Assessment โปรแกรมจะบังคับให้ผู้เรียนกระทำตามที่ได้บันทึกหน้าจอไว้ เช่นถ้ามีการบันทึกการคลิกเมาส์ไว้ เมื่อเล่นมาจนถึงช่วงที่ต้องคลิกเมาส์โปรแกรมจะหยุด เล่นจนกว่าจะมีการคลิกเมาส์และหากคลิกผิดที่จะมีกล่องข้อความขึ้นมาบอกว่าต้องคลิก ที่ใด เมื่อผู้เรียนคลิกเมาส์ถูกต้อง โปรแกรมจะเล่นต่อไปจนกว่าจะมีเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้น

Training หมายถึงการจับหน้าจอแบบการฝึกอบรม โปรแกรมจะทำการบันทึก หน้าจอทั้งหมด เมื่อมีการเล่นโปรแกรมจะแสดงกล่องข้อความโต้ตอบให้ผู้เรียนทำตาม การบันทึกหน้าจอแบบนี้เหมาะสำหรับสอนการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งนี้สามารถ บันทึกเสียงบรรยายไปพร้อมกันได้ด้วย

Custom โปรแกรมจะให้เราเข้าไปกำหนดค่าในการบันทึกได้ด้วยตนเองและสามารถแก้ไข ได้อีกในภายหลัง

การ Capture movie หน้าจอภาพเป็นการใช้งานที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะสามารถ นำไปใช้เป็นสื่อเรียนรู้แบบมัลติมีเดีย ที่ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี ซึ่งขั้นตอนการ Capture movie หน้าจอภาพทำได้ดังนี้

1 คลิก ปุ่มสีแดง ก็จะเริ่ม Record

2. ถ้าหากต้องการยกเลิกคลิกปุ่ม กากะบาท

3 กดปุ่ม บนแป้นพิมพ์เมื่อสิ้นสุดการ Record แล้วทำการบันทึกงานให้เรียบร้อ


4. ปรากฏสไลด์ Movie (Movie Frame) ซึ่งจำนวนสไลด์จะขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่คลิก เมาส์ เช่น หากมีการคลิกเมาส์ 10 ครั้งก็จะได้จำนวนสไลด์เท่ากับ10 สไลด์ หรือ 10 เฟรม สไลด์ Movie (Movie Frame)

5. ดับเบิลคลิกสไลด์ เพื่อแก่ไขสไลด์

6. การปรับแต่ง Timeline

ปกติแต่ละสไลด์จะมีค่า Timeline อยู่ที่ 3 วินาที ในรูปข้างล่างจะเป็น Slide 4 (4.0s)สามารถปรับแต่งเพิ่มหรือลดค่า Slide Timeline ได้

วัตถุที่วางบนสไลด์จะวางเรียงกันเป็นเลเยอร์(Layer) ถ้าต้องการปรับแต่ง Timeline วัตถุใดก็ให้คลิกที่วัตถุนั้นแล้วลากซ้ายขวาคลิกแล้วลากเพื่อปรับแต่ง Timeline โปรแกรมจะสร้างข้อความให้อัตโนมัติ สามารถดับเบิลคลิกเพื่อแก้ไขข้อความไ

การนำเข้าไฟล์เสียง

การนำเข้าไฟล์เสียงใน Captivate สามารถใช้ได้ 3 ลักษณะ คือ

1. การนำเข้าไฟล์เสียงจากภายนอก

2. การบันทึกเสียงจากไมโครโฟน

3. แปลงข้อความเป็นเสียง โดยติดตั้งซอฟต์แวร์แปลงข้อความเป็นเสียง (Text-to-speech software)

บทเรียนนี้จะสอนเฉพาะการใช้เสียงจากไฟล์ที่นำเข้าเท่านั้น การใช้เสียงในโปรแกรมมี 3 ลักษณะคือ

1. เสียง Background

2. เสียงสไลด์

3. เสียงวัตถุจากสไลด์ เช่น เสียงประกอบปุ่ม ภาพ ข้อความ Feedbackในข้อสอบ เป็นต้น


การใช้ไฟล์เสียง

ไฟล์เสียงที่จะนำมาใช้งานได้คือไฟล์ .wav ของ Microsoft และไฟล์ Mp3 ในกรณีที่เลือกเสียงที่เป็น wav โปรแกรมจะแปลงให้ เป็นMp3 ก่อนการนำมาเข้าการใช้งานในโปรเจค

- เสียง Background สามารถนำเสียงประกอบเป็น Background ของโปรเจค โดยเสียงจะเล่นตั้งแต่ต้นจนจบทุกสไลด์ หากพบว่ามี สไลด์แผ่นใดมีเสียงอยู่ในสไลด์นั้น เสียงนี้จะเบาลง เพื่อให้ได้ยินเสียงประจำสไลด์ โดยปกติจะใช้เสียงเพลงบรรเลงเป็นเสียง Background

ประกอบ มีขั้นตอนดังนี้

1. ให้นักเรียนเปิดโปรเจคใหม่หรือใช้โปรเจคที่มีอยู่แล้วก็ได้

2. ไปที่เมนู Audio > Import to > Background

3. เลือกไฟล์เสียงจากในเครื่องคอมพิวเตอร์

4. จะเปิดหน้าจอต่อไปนี้ให้กำหนดค่าตามต้องการ






5. ถ้าต้องการปรับแต่งเสียงให้คลิกปุ่ม Edit เพื่อปรับแต่งเสียงได้

6. คลิก Close เพื่อกลับไปยังหน้าจอปกติ การใช้งานเสียงในโปรเจค การใช้ไฟล์เสียง

7. ทดสอบโดยไปที่ File > Preview > Project

8. เอาเสียง Background ออก ไปที่ Audio > Remove > Background


เสียงประจำสไลด์

เป็นเสียงประกอบสไลด์จะเล่นเมื่อสไลด์ปรากฏเท่านั้น และจะหยุดเล่นเมื่อสไลด์นั้นออกไปจากหน้าจอ มีวิธีการดังนี้

1. เปิดโปรเจคใหม่ สร้างสไลด์เปล่า 3 แผ่น หรือใช้โปรเจคที่มีอยู่แล้วก็ได้ แต่จะต้องมีสไลด์ 3-4 แผ่น

2. คลิกเลือกแผ่นสไลด์ที่ 1

3. ไปที่เมนู Audio > Import to > Slide

4. เลือกไฟล์เสียง Mp3 ในเครื่องคอมพิวเตอร์

5. การนำไฟล์เสียงเข้าแผ่นสไลด์มีดังนี้

- ถ้าโปรเจคนั้นมีสไลด์เดียวสไลด์แผ่นสุดท้ายที่จะนำเสียงเข้า โปรแกรมจะนำเสียงเข้าทันทีโดยอัตโนมัติ และถ้าความยาวของ สไลด์มีน้อยกว่าความยาวของเสียง โปรแกรมจะขยายความยาวของสไลด์ให้เท่ากับเสียง

- ถ้าโปรเจคมีสไลด์หลายแผ่นและสไลด์ที่นำเสียงเข้าไม่ใช่แผ่นสุดท้ายและสไลด์มีความยาวมากกว่าไฟล์เสียง โปรแกรมจะนำเสียง เข้าที่สไลด์ตามปกติ โดยจะปรากฏหน้าจอให้ปรับแต่งเสียงได้ก่อนนำเข้า




หน้าจอนี้สามารถปรับแต่งเสียงได้เมื่อคลิก Close โปรแกรมจะนำเสียงเข้าสไลด์ทันที

- ถ้าโปรเจคนั้นมีสไลด์หลายแผ่นและสไลด์ที่นำเสียงเข้าไม่ใช่สไลด์สุดท้าย แต่มีความยาวน้อยกว่าไฟล์เสียง โปรแกรมจะให้ เลือกลักษณะที่นำเสียงเข้า 3 ลักษณะ





1) นำเสียงเข้าที่สไลด์นั้นและจะขยายความยาวของสไลด์ให้เท่ากับความยาวของเสียง

2) เฉลี่ยเสียงออกตามจำนวนสไลด์ที่เหลือ โดยจะนำเสียงทั้งหมดเข้าในสไลด์ที่เลือกก่อน จากนั้นจะเปิดหน้าจอให้ปรับว่าจะนำ เสียงไปใช้สไลด์แผ่นใด






การเฉลี่ยทำได้โดยลากเส้นแบ่งขอบเขตของสไลด์แต่ละแผ่นเข้าไปในบริเวณเสียง

3) รักษาความยาวของสไลด์ที่เลือกไว้เหมือนเดิม แต่เฉลี่ยเสียงออกไปตามสไลด์ที่เหลือ ข้อควรระวัง เมื่อนำเสียงที่มีความยาว มากกว่าความยาวของสไลด์ ให้ตรวจสอบตำแหน่งของวัตถุต่างๆที่มีอยู่ก่อนนำเสียงเข้า และเลื่อนปรับตำแหน่งของวัตถุต่างๆให้ เหมาะสม

- ถ้าต้องการนำเสียงประจำสไลด์ออกให้ไปที่ Audio > Remove > Slide



เสียงประจำวัตถุ

วัตถุบนสไลด์สามารถนำเข้าได่ เช่น ภาพ ข้อความได้ โดยเฉพาะข้อความที่เป็น Feedback สำหรับข้อสอบ ก็สามารถนำเสียง เข้ามาได้เช่นกัน มีวิธีการดังนี้

- เปิดโปรเจคใหม่

- นำเข้าภาพโดยไปที่ Insert > Image และเลือกภาพที่ต้องการ

- คลิกที่ภาพ

- ที่แถบ Properties คลิกเปิดแถบ Audio และคลิก Add Audio





- โปรแกรมจะเปิดหน้าจอให้เลือกและปรับแต่งไฟล์เสียง




- คลิกปุ่ม Import เพื่อเลือกไฟล์

- โปรแกรม Captivate มีเสียงประกอบเตรียมไว้ให้เลือกอยู่ในห้องโปรแกรมของ Captivate / Gallery / Sound

- ถ้าต้องการปรับแต่งให้คลิกแถบ Edit

- จากนั้นให้กดปุ่ม Save และ Close ตามลำดับโปรแกรมจะกลับมาที่หน้าจอเดิม

- ทดสอบโดยไปที่ File > Preview > Project