“ตั้งแต่อดีตมา มนุษย์เห็นหอยเป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา และมองว่าหอยเป็นทรัพย์สมบัติของโลก หอยจึงเป็นเครื่องประดับหรูหราของชนชั้นสูง เพราะเปลือกหอยมีสีสันสวยงาม” มีการค้นพบ
“หอยตีนช้างสีแดง (Cypraecassis rufa)” ในถ้ำอัลตามีรา ประเทศสเปน ซึ่งหอยชนิดนี้มีต้นกำเนิดจากมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย แต่กลับมีการค้นพบในยุโรป แสดงถึงการเดินทางไกลของมนุษย์ที่พกหอยติดตัวไปด้วย
นอกจากหอยจะเป็นเครื่องประดับแล้ว ก่อนที่มนุษย์จะใช้เหรียญและธนบัตรแทนเงินตราอย่างทุกวันนี้ มนุษย์เคยใช้หอยแทนเงินตรามาก่อน โดยจะพบในแถบจีน อินเดีย ยุโรป แอฟริกา และตะวันออก รวมถึงในไทยเองก็ค้นพบหลักฐานที่มีการใช้หอยเบี้ยมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงอยุธยา ทำให้การขุดค้นทางโบราณคดี มักมีการค้นพบหอยอยู่ด้วยเสมอ
หอยยังเกี่ยวข้องกับเรื่องความเชื่อ มีการค้นพบในประเทศอียิปต์ที่มีการฝังเปลือกหอยไว้ในหลุมศพ
เพื่อใช้กันภูติผีปีศาจได้ ทางฝั่งบ้านเราเองก็มีเรื่องแก้ฟันผุ หรือหอยบางชนิดที่ใช้คล้องคอเด็กเพื่อไม่ให้น้ำลายไหล
หอยที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อของไทยเรามีชื่อเรียกว่า “เบี้ยแก้” ซึ่งเป็นเปลือกหอยที่นำมาปลุกเสกตามความเชื่อทางไสยศาสตร์
ปัจจุบันมนุษย์กับหอยได้เปลี่ยนความสัมพันธ์จากเรื่องความเชื่อกลายเป็นเรื่องของการบริโภคแทน มีการเพาะเลี้ยงเพื่อใช้สำหรับการบริโภคโดยเฉพาะ เห็นได้จากเมนูอาหารตั้งแต่เมนูพื้นบ้านไปจนถึงเมนูระดับภัตตาคารที่ใช้หอยเป็นวัตถุดิบ การบริโภคเนื้อหอยจะให้โปรตีน แต่ขณะเดียวกันก็มีคอเลสเตอรอลที่สูง อาจมีผลเสียต่อร่างกายได้ถ้าหากบริโภคมากเกินไป