1 วันพ่อแห่งชาติ
วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทุกวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี คือ "วันพ่อแห่งชาติ" เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ รัชกาลที่ 9 รวมถึงเป็นการให้ความสำคัญกับบทบาทของพ่อในครอบครัว "วันพ่อแห่งชาติ" ยังถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการประจำปีในประเทศไทย อีกด้วย ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 รัฐบาลประกาศ "วันพ่อแห่งชาติ" ยังคงไว้ให้เป็นวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี 2. วันชาติ ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 รัฐบาลประกาศ "วันพ่อแห่งชาติ" ยังคงไว้ให้เป็นวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี
. 3.วันดินโลก
วันดินโลก" (World Soil Day) วันสำคัญแห่งการตระหนักถึงทรัพยากรดินทั่วโลกเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556 ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสมัชชาที่ 68 ได้มีมติรับรองให้ "วันดินโลก" (World Soil Day) ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี และให้ปี 2558 เป็นปีดินสากล (International Year of Soil in 2015) มีผลตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป วันดินโลกอยู่ในปฏิทินการปฏิบัติงานขององค์การสหประชาชาติอย่างเป็นทางการ ทุกวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ 193 ประเทศ จะจัดงานเฉลิมฉลองวันดินโลกโดยทั่วกัน การเฉลิมฉลองวันดินโลกในไทย ครั้งแรก เมื่อองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) มีมติให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็น วันดินโลก ได้มีการจัดกิจกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินเป็นหน่วยงานหลัก ในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเผยแพร่พระอัจฉริยภาพด้านการพัฒนาที่ดินให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบ การเฉลิมฉลองวันดินโลกอย่างเป็นทางการครั้งแรก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 - 5 ธันวาคม 2555
ในปีนี้ 2567 กรมพัฒนาที่ดิน ได้จัดกิจกรรม "วันดินโลก" ระหว่างวันที่ 5 - 11 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ดินและน้ำ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
asdfasdfasdf
วันคริสต์มาส (Christmas) ถือเป็นเทศกาลฉลองของชาวคริสต์ในวันที่ 25 ธันวาคม เพื่อเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู หรือ “พระเมสสิยาห์” ผู้เป็นศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ แม้ส่วนใหญ่จะมีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมตะวันตก แต่คริสต์มาสก็เป็นเทศกาลที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก
คำว่า “Christmas” นั้นมีที่มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณ Cristes-messe (Christ’s Mass) หรือ “การบูชามิสซาของ พระคริสตเจ้า” โดยในปัจจุบันคำนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas ชาวคริสต์นิยมร่วมพิธีมิสซาในวันคริสต์มาส
คริสต์มาส คือวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในศาสนาคริสต์ นอกจากจะเป็นโอกาสให้สมาชิกครอบครัวได้มาพบปะเฉลิมฉลองร่วมกันแล้ว แก่นแท้ของคริสต์มาสนั้นอยู่ที่การรำลึกถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ โดยการโปรดให้บุตรหรือพระเยซูมาเกิดในโลกเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติ
ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ามีการกำหนดให้วันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันประสูติของพระเยซูตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งนี้ ตามหลักฐานที่มีพบว่านักประวัติศาสตร์ Sextus Julius Africanus ระบุว่าวันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันประสูติของพระเยซูเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 221 จากนั้นก็ได้กลายเป็นวันที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย
หนึ่งในเหตุผลที่นักประวัติศาสตร์กล่าวไว้ คือ งานฉลอง “dies solis invicti nati” (Day of the Birth of the Unconquered Sun) ซึ่งเป็นงานฉลองสำคัญของผู้คนในจักรวรรดิโรมัน ที่เฉลิมฉลอง Winter Solstice หรือ เหมายัน อันเป็นสัญลักษณ์การกลับมาของพระอาทิตย์ ที่จะทำให้ฤดูหนาวผ่านพ้นไป และต้อนรับการกลับมาของฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนที่จะสร้างความอุดมสมบูรณ์ หรือการเกิดใหม่อีกครั้ง (Rebirth) ทั้งนี้ หลังจากวันที่ 25 ธันวาคม ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายว่าเป็นวันประสูติของพระเยซูแล้ว นักเขียนและนักประวัติศาสตร์คริสเตียนหลายคนมักกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Rebirth of the Sun (การกลับมาของพระอาทิตย์) และ Birth of the Son (การเกิดของบุตรของพระเจ้าซึ่งก็คือพระเยซู) ที่มา: https://www.twinkl.co.th/te
เทศกาลคริสต์มาสเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ซึ่งตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม และเป็นการฉลองความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์ ด้วยการส่งบุตร คือ "พระเยซู" ลงมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยเหลือ ชาวคริสต์หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์มากมายทั่วโลกนิยมส่งบัตรอวยพร ให้ของขวัญแก่สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อน ๆ รวมทั้งประดับตกแต่งบ้านเรือนด้วยแสงไฟและต้นคริสต์มาสอย่างสวยงาม สถานที่ต่าง ๆ โดยทั่วไป เช่น ห้างสรรพสินค้า ก็มีการประดับต้นคริสต์มาส และจัดแสดงแสง สี เสียง ให้เข้ากับบรรยากาศคริสต์มาส คล้ายกับในช่วงปีใหม่สำหรับชาวไทย ชาวคริสต์และชาวตะวันตกนิยมเดินทางกลับบ้านเพื่อพบปะสังสรรค์กับสมาชิกในครอบครัวในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยมักจะมีการทำกิจกรรมและรับประทานอาหารร่วมกัน อาหารที่ได้รับความนิยมได้แก่ ไก่งวง (Turkey) ทานคู่กับซอสแครนเบอร์รี่ และเครื่องดื่ม เช่น ไวน์เครื่องเทศอุ่น ๆ (Mulled Wine) นอกจากนี้ หลายคนยังนิยมทำขนมอบ เช่น คุกกี้รูปมนุษย์ขนมปังขิงอีกด้วย