สังฆธรรมนูญว่าด้วยพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับศิลปะศักดิ์สิทธิ์

Posted on สิงหาคม 21, 2013 | ใส่ความคิดเห็นด้านล่าง

ศักดิ์ศรีของศิลปะศักดิ์สิทธิ์

122. เป็นการถูกต้องที่จะนับศิลปกรรมเป็นกิจกรรมสูงส่งอย่างยิ่งของสติปัญญามนุษย์ โดยเฉพาะศิลปะทางศาสนา ซึ่งมีศิลปะศักดิ์สิทธิ์เป็นส่วนยอด ศิลปะเหล่านี้โดยธรรมชาติแล้ว มุ่งจะแสดงความงดงามไร้ขอบเขตของพระเจ้าออกมาโดยผลงานของมนุษย์ ศิลปะเหล่านี้จะมุ่งไปหาพระเจ้าเพื่อสรรเสริญและถวายพระเกียรติแด่พระองค์ได้มากที่สุด ถ้าไม่มีจุดประสงค์อื่น นอกจากส่งเสริมให้โน้มน้าวจิตใจของมนุษย์ไปหาพระเจ้าอย่างศรัทธาด้วยผลงานของตน

ดังนั้น พระศาสนจักรมารดาศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นมิตรกับศิลปกรรมอยู่เสมอ และเสาะหาผลงานศิลปกรรมมาช่วยเสมอมิได้ขาด โดยเฉพาะเพื่อทำให้ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคารวกิจศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่มีศักดิ์ศรี ความเหมาะสมกลมกลืน และความงดงามอย่างแท้จริง เพื่อเป็นเครื่องหมายและสัญลักษณ์ของความเป็นจริงเหนือธรรมชาติ พระศาสนจักรจึงอบรมศิลปินเพื่อจุดประสงค์นี้ ยิ่งกว่านั้น พระศาสนจักรยังคิดว่าตนมีสิทธิที่จะตัดสินผลงานศิลปกรรมได้เสมอ ว่าผลงานใดของบรรดาศิลปินสอดคล้องกับความเชื่อ ความเลื่อมใสศรัทธา และกฎที่ถ่ายทอดกันต่อมาด้วยความเอาใจใส่อย่างศรัทธา และเหมาะสมที่จะนำไปใช้ในคารวกิจได้หรือไม่

พระศาสนจักรจึงเอาใจใส่กวดขันเป็นพิเศษ ให้เครื่องใช้ในโบสถ์มีศีกดิ์ศรีและความงดงามสมกับคารวกิจ ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในการใช้วัสดุ รูปแบบและการตกแต่ง ที่เกิดขึ้นตามยุคสมัยจากความก้าวหน้าด้านวิชาการ ดังนั้น บรรดาพระสังฆราชผู้ร่วมประชุมสังคายนาจึงวางกฎในเรื่องดังกล่าว ดังต่อไปนี้


รูปแบบศิลปะ

123. พระศาสนจักรไม่เคยมีรูปแบบศิลปะใดเป็นของตนโดยเฉพาะ แต่ยอมรับรูปแบบศิลปะของแต่ละยุคสมัยมาใช้ตามลักษณะเฉพาะและสภาพแวดล้อมของชนชาติต่างๆ และตามความต้องการของจารีตพิธี ดังนี้ จึงได้สร้างขุมทรัพย์ด้านศิลปะขึ้นมากมายในระยะเวลาหลายศตวรรษที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องเอาใจใส่รักษาไว้อย่างดีที่สุด แม้ศิลปะในยุคสมัยของเราและของชนทุกชาติทุกถิ่น ควรมีอิสระที่จะแสดงผลงานในพระศาสนจักรได้เช่นเดียวกัน ขอแต่ให้ศิลปะนั้นช่วยส่งเสริมทั้งความน่าเคารพและศักดิ์ศรีที่สอดคล้องกับอาคารสถานที่และจารีตพิธีศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ดังนี้ ศิลปะร่วมสมัยก็จะร่วมเสียงกับศิลปินยิ่งใหญ่ในอดีต ที่ได้เปล่งเสียงเป็นเกียรติแก่ความเชื่อคาทอลิกในหลายศตวรรษที่ผ่านมา

124. บรรดาประมุขผู้ปกครองท้องถิ่น ควรสนับสนุนและส่งเสริมศิลปะศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง โดยเอาใจใส่เสาะหาความงดงามชนิดที่ยกจิตใจให้สูงขึ้น ยิ่งกว่าจะแสวงหาเพียงความโอ่อ่าหรูหราแต่อย่างเดียว ควรใช้หลักการนี้สำหรับอาภรณ์และเครื่องประดับศักดิ์สิทธิ์ด้วย

บรรดาพระสังฆราชควรเอาใจใส่ขจัดศิลปกรรมที่เข้ากันไม่ได้กับความเชื่อ ศีลธรรม ตลอดจนความเลื่อมใสศรัทธาของคริสตชน รวมทั้งศิลปกรรมที่ทำร้ายความรู้สึกแท้ทางศาสนา หรือเพราะมีรูปแบบเลวทราม หรือเพราะไร้ค่าหรือไม่ค่อยมีค่าทางศิลปะ หรือเพราะเป็นศิลปะจอมปลอม ออกจากบ้านของพระเจ้าและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ

ในการสร้างอาคารศักดิ์สิทธิ์ จะต้องเอาใส่อย่างพิถีพิถันให้อาคารสถานที่เหล่านี้เหมาะสำหรับประกอบพิธีกรรม และส่งเสริมให้สัตบุรุษมีส่วนร่วมพิธีกรรมได้อย่างแข็งขัน


รูปศักดิ์สิทธิ์

125. ธรรมเนียมการนำรูปศักดิ์สิทธิ์มาประดิษฐานให้สัตบุรุษเคารพในวัดควรรักษาไว้ต่อไป แต่ต้องมีจำนวนพอสมควรและตั้งตามตำแหน่งให้ถูกต้อง เพื่อจะไม่ดึงความสนใจของประชากร คริสตชนมากเกินไป และหลีกเลี่ยงที่จะส่งเสริมความศรัทธาไม่ถูกต้อง

126. เมื่อวินิจฉัยงานศิลปะ ประมุขท้องถิ่นจะต้องฟังความเห็นของคณะกรรมการศิลปะศักดิ์สิทธิ์ของสังฆมณฑล และในบางกรณีก็ต้องฟังความเห็นของผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ รวมทั้งคณะกรรมการตามกฎในข้อ 44, 45, 46

ประมุขท้องถิ่นต้องเฝ้าระวังอย่างกวดขันมิให้เครื่องใช้ศักดิ์สิทธิ์และวัตถุมีค่าอื่นๆ ซึ่งเป็นเครื่องประดับบ้านของพระเจ้า ถูกเปลี่ยนเจ้าของหรือสูญหายไป


การให้การอบรมศิลปิน

127. บรรดาพระสังฆราช ไม่ว่าด้วยตนเอง หรืออาศัยพระสงฆ์เหมาะสมผู้เชี่ยวชาญและรักศิลปะ เอาใจใส่ต่อศิลปิน เพื่ออบรมเขาให้มีจิตตารมณ์ศิลปะศักดิ์สิทธิ์และพิธีกรรม

ยิ่งกว่านั้น ยังเสนอแนะให้ตั้งโรงเรียนหรือวิทยาลัยสอนศิลปะศักดิ์สิทธิ์เพื่ออบรมศิลปินในท้องถิ่นที่เห็นควร

ศิลปินทุกคน ที่อยากใช้ความสามารถของตนในการเทิดพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าในพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ ต้องตระหนักเสมอว่า กิจการของตนเปรียบเสมือนการเอาอย่างผลงานของพระผู้สร้าง และผลงานของตนมีจุดหมายสำหรับใช้ในคารวกิจคาทอลิก เพื่อสั่งสอน ส่งเสริมความเลื่อมใสศรัทธา และให้การอบรมทางศาสนา ของผู้มีความเชื่อ


ระเบียบข้อบังคับสำหรับศิลปะศักดิ์สิทธิ์

128. พร้อมกับการปรับปรุงแก้ไขหนังสือพิธีกรรมต่างๆ ตามกฎในข้อ 25 ควรปรับปรุงแก้ไขประมวลกฎหมายและข้อบังคับของพระศาสนจักรเกี่ยวกับสิ่งของทั้งหลายที่ใช้ในคารวกิจ โดยเฉพาะกฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวกับการสร้างอาคารศักดิ์สิทธิ์อย่างมีเกียรติและเหมาะสม รูปแบบและการสร้างพระแท่นบูชา ความสง่างาม ที่ตั้ง และความปลอดภัยของตู้เก็บศีลมหาสนิท สถานที่ประดิษฐานและศักดิ์ศรีของที่ประกอบพิธีศีลล้างบาป ตลอดจนตำแหน่งตั้งรูปศักดิ์สิทธิ์ เครื่องตกแต่งและของประดับให้ถูกต้องตามระเบียบ กฎระเบียบใดที่ไม่สอดคล้องกับการปฏิรูปพิธีกรรมก็ให้ปรับปรุงแก้ไขหรือยกเลิก กฎใดที่ส่งเสริมการปฏิรูปพิธีกรรม ก็ให้รักษาไว้หรือนำมาใช้

ในเรื่องนี้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับวัสดุและรูปแบบของเครื่องใช้และอาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ สภาพระสังฆราชท้องถิ่นมีอำนาจที่จะปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับความต้องการและประเพณีท้องถิ่นตามกฎในข้อ 22 ของธรรมนูญนี้


การให้การอบรมด้านศิลปะแก่ผู้เตรียมตนเป็นพระสงฆ์

129. ขณะที่ผู้เตรียมตนเป็นพระสงฆ์กำลังศึกษาปรัชญาและเทววิทยา ควรได้รับการศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของศิลปะศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนหลักการที่ถูกต้องในการผลิตผลงานศิลปะศักดิ์สิทธิ์ เพื่อจะได้รู้จักคุณค่าและรักษาปูชนียวัตถุที่น่าเคารพของพระศาสนจักรไว้ และรู้จักให้คำแนะนำที่เหมาะสมแก่ศิลปินในการผลิตงานศิลปะของตน


เครื่องหมายประจำตำแหน่งของพระสังฆราช

130. เป็นการเหมาะสมที่จะสงวนการใช้เครื่องหมายประจำตำแหน่งของพระสังฆราชไว้สำหรับผู้ปกครองของพระศาสนจักรที่มีตำแหน่งสังฆราช หรือผู้มีอำนาจปกครองพิเศษบางประการ