ถึง เพื่อนครู นักเรียนและผู้ปกครองทุกคน

เป้าหมายการบริหารการศึกษาใน๒ ปีการศึกษาต่อไปนี้ คือภายในปีการศึกษา ๒๕๕๖โรงเรียนมุ่งมั่นจัดการศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาของชาติ และได้คุณภาพ สามารถแข่งขันกับประเทศต่าง ๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ โดยยึดหลักคุณธรรมนำความรู้ และปลูกฝังค่านิยม ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจะเห็นว่าเป็นความท้าทายความรู้ความสามารถ ของผู้บริหารและคณะครู อย่างมากมาย ที่จะขับเคลื่อนองค์กรเล็ก ๆ ที่มีข้อจำกัดด้านทรัพยากร มีข้อจำกัดด้านนักเรียนที่เป็นตัวป้อน(Input)ซึ่งส่วนมาก เป็นนักเรียน ที่อยู่ในพื้นที่ยากจนมีฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัว ไม่ค่อยดีนัก ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้ ค่อนข้างจะเป็นปัญหาพื้นฐาน ของประเทศไทยไปเสียแล้ว เรายกมาเป็นข้ออ้างข้อจำกัดในการพัฒนาผู้เรียนเป็นเรื่องหลักก็คงไม่ได้ ปัจจัยสำคัญ ที่โรงเรียนมีอยู่ขณะนี้คือ จำนวนครูในโรงเรียน(เกินเกณฑ์)มีครบทุกสาขาวิชา สอนได้ตรงตามวิชาเอกที่ถนัด ครูมีวิทยฐานะ เป็นครูชำนาญการ ครูชำนาญการพิเศษและครูเชี่ยวชาญเป็นจำนวนมากเมื่อเปรียบเทียบโรงเรียนอื่น ๆในภาคใต้ด้วยกัน ขณะที่นักเรียนมีจำนวนน้อย(๑๘๕ คน) ดังนั้นหากผู้บริหารสามารถใช้ศักยภาพการบริหารที่มีประสิทธิภาพ จนสามารถ ขับเคลื่อนงานออกมาจนเกิดประสิทธิผลได้ ส่วนครูก็ใช้ความสามารถที่มีอยู่ ไปใช้ในการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ให้กับนักเรียนที่ขาดโอกาสหรือด้อยโอกาสเช่นนี้แล้ว ความฝันที่ร่วมกันสานขึ้น น่าจะเป็นฝันที่เป็นจริงได้ หากเราได้ร่วมทำงานด้วยความจริงจัง จริงใจ ดังนั้น หากเราร่วมกัน

“ ทำงานด้วยใจรัก แม้งานจะหนัก ก็ไม่รู้สึกเหนื่อย แต่หากเราทำงานไปเรื่อย ๆแม้งานไม่เหนื่อย แต่เราก็หนัก(ใจ)เมื่อเราต้องเหลียวดู ผลผลิตที่ออกมาก”

เป้าหมายการศึกษาที่ร่วมกันวางไว้จึงต้องบริหารจัดการให้เกิดคุณภาพที่ผู้รับบริการมีความเชื่อมั่นและพึงพอใจ การวางระบบการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเป็นมาตรการหนึ่งที่จะนำไปสู่คุณภาพดังกล่าวได้ การตรวจสอบ คุณภาพการศึกษาจากองค์การภายนอก ก็เป็นมาตรการที่สร้างเชื่อมั่นในคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนต่อสังคมภายนอก(ในระดับหนึ่ง) ได้เช่นกัน โรงเรียนเราได้รับตรวจสอบคุณภาพการศึกษาจากองค์กรภายนอก(สำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน)หรือเรียกโดยย่อว่า “สมศ.”มาแล้ว ๒ ครั้ง

ครั้งแรกเมื่อปีการศึกษา ๒๕๔๗ ครั้งที่สองเมื่อปีการศึกษา ๒๕๕๐ ทั้งสองครั้งได้รับรับมาตรฐาน ปีการศึกษา ๒๕๕๕ นี้จะเป็นการประเมินอีกครั้งหนึ่งในระหว่างวันที่ ๒๕-๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๕ ผลการประเมิน จะเป็นยืนยัน ถึงคุณภาพการศึกษา ในอดีต-ปัจจุบันและเป็นเครื่องทำนาย(Predict) ถึงคุณภาพการศึกษาในอนาคตของโรงเรียน

จึงขอฝากไว้ข้อคิดสำหรับเพื่อนครูทุกคนได้จงตระหนักในภาระหน้าที่ความรับผิดชอบให้ดีที่สุด สำคัญที่สุดคือขอได้ช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาของนักเรียนที่ด้อยโอกาสเหล่านี้ให้จงได้

ประทีป อินทสระ

(นายประทีป อินทสระ)

อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนตรีนิมิตรวิทยา