ระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียน
นักเรียนที่ประพฤติฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของโรงเรียนจะถูกพิจารณาลงโทษตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียน พ.ศ. 2548 ดังต่อไปนี้
1. ว่ากล่าวตักเตือน
2. ทำทัณฑ์บน
3. ตัดคะแนนความประพฤติ
4. ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
การพิจารณาโทษจะกระทำตามลำดับความผิด ดังนี้
1. ความผิดสถานเบาและสถานกลาง
1.1 แต่งกายผิดระเบียบของโรงเรียน
1.2 หนีการเรียนแต่ไม่ได้ออกนอกบริเวณโรงเรียน
1.3 จอดรถ ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ถูกต้องตามระเบียบ
1.4 ส่งเสียงเอะอะบนอาคารเรียนหรือห้องเรียน โดยไม่มีเหตุผล
1.5 เล่นเกมต่าง ๆ บนอาคารเรียน และนอกสถานศึกษา
1.6 ไม่รักษาความสะอาดของห้องเรียนหรืออาคารเรียน
1.7 ปกปิดความลับของนักเรียนที่กระทำความผิดโดยนิ่งเงียบทั้ง ๆ ที่รู้
1.8 มาโรงเรียนสายโดยไม่มีเหตุผลพอควร
1.9 แสดงกิริยาวาจาหยาบคายต่อครูและผู้อื่น
1.10 ขัดคำสั่งครูในเรื่องที่เกี่ยวกับการเรียนการสอน
1.11 หลีกเลี่ยงหลบซ่อนไม่เข้าแถวเคารพธงชาติตอนเช้า
1.12 สูบบุหรี่หรือมีบุหรี่ไว้ในครอบครอง
1.13 หนีออกนอกบริเวณโรงเรียนโดยไม่ทำบัตรให้ถูกต้องตามระเบียบ
1.14 ขีดเขียนข้อความตามฝาผนังหรือสิ่งก่อสร้างของโรงเรียน
1.15 ประพฤติตนส่อในทางชู้สาว (ไม่ถึงขั้นร้ายแรง)
1.16 แสดงกิริยาวาจาไม่สมควรต่อครูและบุคลากรทางการศึกษา
1.17 พูดจาขู่กรรโชกเพื่อนนักเรียน สารวัตรนักเรียน
1.18 เที่ยวกลางคืน ดึกดื่นหรือเข้าในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม
1.19 ทะเลาวิวาทกับเพื่อนนักเรียนด้วยเหตุผลเฉพาะหน้าด้วยตัวของตัวเอง
1.20 เล่นการพนันทั้งในและนอกโรงเรียน
1.21 พฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมให้อยู่ในดุลพินิจของครูที่พบเห็น
2. ความผิดสถานหนัก ความผิดขั้นร้ายแรง
2.1 นักเรียนขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของโรงเรียนเกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับหรือคำสั่งครู จนเกิดความเสียหายแก่โรงเรียน
2.2 นักเรียนแจ้งความเท็จต่อครู เพราะเหตุจากการแจ้งความเท็จนั้นทำให้เกิดความเสียหายแก่โรงเรียน
2.3 นักเรียนแต่งกายในเครื่องแบบนักเรียนไม่เรียบร้อยหรือประพฤติตนไม่เรียบร้อยขณะอยู่ในเครื่องแบบนักเรียนปรากฏในที่สาธารณะจนทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติคุณของโรงเรียน
2.4 นักเรียนทำลายทรัพย์สินของโรงเรียนหรือสาธารณสมบัติของแผ่นดินให้บุบสลายใช้การไม่ได้โดยเจตนา
2.5 แสดงอาการกระด้างกระเดื่องหรือกิริยาลบหลู่ดูหมิ่นครูและบุคลากรทางการศึกษา
2.6 ทำร้ายร่างกายหรือแสดงท่าทีจะทำร้ายครู
2.7 หลบหลีกขัดขืนเมื่อครูลงโทษตามระเบียบของโรงเรียน
2.8 เจตนาขโมยทรัพย์สินหรือสิ่งของผู้อื่น
2.9 เสพสุราหรือสิ่งเสพติดให้โทษต่าง ๆ เช่น ยาบ้า บุหรี่ กัญชา ฝิ่น เฮโรอีน หรือยาเสพติดอื่น ๆ และมีไว้ในครอบครอง
2.10 นำสิ่งเสพติดให้โทษเข้ามาเผยแพร่ซื้อขายในโรงเรียน
2.11 เป็นผู้ยุยงให้แตกแยกความสามัคคีต่อต้านระเบียบวินัยของโรงเรียน
2.12 ก่อการทะเลาะวิวาทถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันเป็นหมู่คณะ
2.13 ประพฤติตนในทางชู้สาวที่มีหลักฐานติดต่อกันบ่อยครั้ง
2.14 นำอาวุธเข้ามาในโรงเรียน
2.15 ก่อการทะเลาะวิวาทนอกโรงเรียนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงมาถึงโรงเรียน
2.16 ขโมยทรัพย์สินของโรงเรียนโดยมีหลักฐานจับได้แน่ชัด
2.17 การกระทำใด ๆ อันเป็นความผิดทางอาญาจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีส่งฟ้องศาลแล้วมีความผิดจริงตามกล่าวหา
2.18 พฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมให้อยู่ในดุลยพินิจของครูที่พบเห็น
การควบคุมความประพฤติของนักเรียนโรงเรียนนางรอง
หลักการ
1. เพื่อควบคุมความประพฤติของนักเรียนให้เป็นไปตามระเบียบของโรงเรียน
2. ป้องกันมิให้นักเรียนเกี่ยวข้องกับอบายมุข
3. แก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องของนักเรียน
4. ส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง
5. ให้ผู้ปกครองได้ร่วมมือกับโรงเรียนเพื่อแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง
6. ให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอน
7. ให้คะแนนความประพฤติเป็นเกณฑ์กำหนดพฤติกรรมของนักเรียน
ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ถ้านักเรียนฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่โรงเรียนแจ้งไว้โรงเรียนจะทำการสอบสวนจนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเจตนาโทษที่จะดำเนินการนั้น 4 สถานโดยระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนนักศึกษา พ.ศ. 2548
1. ว่ากล่าวตักเตือน
2. ทำทัณฑ์บน
3. ตัดคะแนนความประพฤติ
4. ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เพื่อให้การดำเนินการควบคุมและดูแลความประพฤติของนักเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสม โรงเรียนจึงได้ทำกำหนดมาตรการการลงโทษนักเรียนที่กระทำผิดระเบียบว่าด้วยการควบคุมและดูแลความประพฤติของนักเรียนดังนี้
ประเภทความผิด
ความผิดสถานเบา ได้แก่ พฤติกรรมอันมีอุปนิสัยไม่ดี (ตักเตือน)
ความผิดสถานกลาง ได้แก่ ทำลายชื่อเสียงโรงเรียนและส่วนรวม (เชิญผู้ปกครองมาพบทำทัณฑ์บน)
ความผิดสถานหนัก ได้แก่ นำความเสื่อมเสียร้ายแรงมาสู่โรงเรียนและส่วนรวม (เชิญผู้ปกครองมาหักคะแนน)
ความผิดขั้นร้ายแรง ได้แก่ การกระทำความผิดที่มีโทษสูงสุด (การทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม)
อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารสถานศึกษา
มาตรการลงโทษและตัดคะแนนความประพฤติ
หมายเหตุ
ความผิดอื่นใดที่นอกเหนือไปจากที่ระบุไว้และมาตรการลงโทษให้อยู่ในดุลยพินิจของฝ่ายบริหารงานบุคคล
คะแนนพฤติกรรม 30 คะแนน เชิญผู้ปกครองมาพบ
คะแนนพฤติกรรม 50 คะแนน ทำทัณฑ์บน
คะแนนพฤติกรรม 80 คะแนน ตัดคะแนนความประพฤติ
คะแนนพฤติกรรม 90 คะแนน ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
คะแนนพฤติกรรม 100 คะแนน เสนอให้กรรมการฝ่ายบริหารงานบุคคลพิจารณา
เพื่อเสนอผู้อำนวยการสถานศึกษา