วัดธรรมจักร

วัดธรรมจักร

แนะนำโดย นายกิตติภาส ศรีวาระกุล 504405103

คอมพิวเตอร์ธุรกิจ กลุ่ม 2

ภาพแผนที่แสดงตำแหน่งของวัดธรรมจักร

สำหรับวัดธรรมจักรนั้น จะเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองจังหวัดพิษณุโลก

ซึ่งเราได้รับทราบข้อมูลของวัดธรรมจักรนี้จากพระครูปลัดพุทธิวัฒน์ ที่ซึ่งอธิบายประวัติของวัดให้เราฟังว่า

แต่เริ่มเลย เรารู้จักชื่อของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ในชื่อเรียกของชาวบ้านว่า "วัดใหญ่" ที่เป็นที่รู้จักของคนไทยทั่วทั้งประเทศ

และหากมองกลับมาดูวัดธรรมจักรนี้นั้น วัดนี้จะถูกเรียกว่า "วัดน้อย" ซึ่งถือเป็นวัดบริวารของวัดใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก

แล้วถ้าหากย้อนกลับไปประมาณ80กว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นบริเวณวัดธรรมจักรแต่เดิมเป็นป่าช้า ภายในป่าช้าจะมีวัดอยู่ แต่เป็นวัดเก่าและบริเวณวัดมี

ต้นสักมาก ชาวบ้านเลยเรียกว่าวัดป่าสักหรืออุทยาน เมื่อวัดน้อยย้ายเข้ามาในวัดอุทยาน ภายในบริเวณวัดอุยานแห่งนี้ก็จะปรากฏโบราณวัตถุอยู่

เยอะแยะมากมาย แต่น่าเสียดายปัจจุบันนี้โบราณวัตถุเหล่านี้ไม่เหลืออยู่แล้ว ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อวัดอุทยานน้อยหรือวัดน้อย เป็นวัดธรรมจักร

โดยถือเอาพระพุทธธรรมจักรเป็นสัญลักษณ์ และทำการสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้นมา ซึ่งอุโบสถของวัดธรรมจักรนั้นจะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก

หรือหันหน้าสู่ทางแม่น้ำน่าน

หากมองจากด้านหน้าของวัดแล้วนั้น

อาจเห็นได้ว่ามีทั้งทางรถไฟ ทั้งถนนที่มีผู้คนและรถวิ่งไปมาอยู่มากมาย

แต่หากพอเข้ามาภายในวัดธรรมจักรนี้แล้วนั้น จะเห็นได้ว่ามีบรรยากาศที่ร่มรื่น

เงียบสงบเหมาะแก่การตั้งจิตศีลภาวนาได้อย่างดี

มีอุโบสถที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ชนิดต่างๆ สร้างบรรยากาศที่ดี

อีกทั้งยังมีความงดงาม ถึงแม้จะถูกนำมาบูรณะใหม่บ้างบางส่วน แต่ก็ยังคงความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ของวัดธรรมจักร

ภายในอุโบสถ มีองค์พระประธาน ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของวัด

ที่มีส่วนจากการเปลี่ยนชื่อจากวัดน้อยมาเป็นวัดธรรมจักร ซึ่งก็คือพระพุทธธรรมจักร

พระพุทธธรรมจักร มีคาถาในการเคารพบูชาองค์ท่านโดยเฉพาะด้วย

หากตั้งจิตปฏิบัติตามแล้วนั้นจะส่งผลให้เจริญรุ่งเรือง มีความก้าวหน้าในชีวิต

บริเวณโดยรอบของอุโบสถมีภาพความเป็นมาของพระพุทธเจ้าติดไว้ให้ผู้มาเยี่ยมชมได้ชม

ภายในวัดยังประกอบไปด้วยโรงเรียนที่ซึ่ง เรียกว่า โรงเรียนเทศบาล ๔ เป็นโรงเรียนที่สอนในระดับชั้นประถม

ภายในวัดนั้นได้ทำการสร้างตึกเรียนเพิ่มขึ้น เพื่อให้พอเพียงต่อผู้ที่จะเข้ามาเรียนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกๆปี

ในวันที่เราได้ไปทำการสำรวจและสอบถามถึงความเป็นมาของวัดแล้วนั้น พอดีกับในวันนั้นเป็นวันพระพอดี

ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาบ่ายโมงแล้ว แต่ก็มีคุณยายสองคนนั่งพักอยู่ใต้ร่มไม้ จึงเข้าไปสอบถาม ...

กิตติภาส : หวัดดีครับผม มานั่งรอหลานเรียนหนังสือรึรออะไรอยู่หรอครับ

ยาย คนที่1 : อ๋อ ป่าวหรอก มานั่งเล่นเฉยๆน่ะ...

ยายคนที่2 : (ยิ้มให้)

กิตติภาส : อ่าว แล้วยายกลับกันยังไงหรอครับ

ยายคนที่2 : บ้านยายอยู่แถวนี้แหละ ยายมาทำบุญแต่เช้าแล้วล่ะ ว่างๆก็เลยมานั่งเล่นในวัดนี่แหละ บรรยากาศดี

ยายคนที่1 : อืมๆ มานั่งดูอะไรไปเรื่อยอ่ะแหละ ไม่อยากจะกลับบ้าน อยู่ที่นี่สบายใจกว่าอยู่บ้านเยอะ ไม่ต้องปวดหัวด้วย

กิตติภาส : หรอครับ ถ้ายังไงผมขอตัวกลับก่อนละกันนะครับ หวัดดีครับ

ยายคนที่1-2 : (ทำท่า งงๆ แล้วก็รับไหว้...)

จากการได้พูดคุยกับยายสองคน ถึงได้อะไรมาไม่มาก แต่ก็พอให้ทราบได้ว่าวัดนี้มีความร่มเย็น สงบเงียบ

อีกทั้งบรรยากาศดีจริงๆมีลมพัดผ่านมาเป็นช่วงๆ เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนหย่อนใจอย่างคุณยายทั้งสองท่านอย่างดี

สุดท้าย ข้าพเจ้า ขอขอบพระคุณ

พระครูปลัดพุทธิวัฒน์ ที่ให้เราได้ทำการสอบถามข้อมูลต่างๆภายในวัดและให้ข้อมูลความรู้ต่างๆเป็นอย่างดี

และขอบคุณ คุณป้าอรพิณ แม่บ้านของโรงเรียนเทศบาล ๔ ในวัดธรรมจักร ที่เอื้ออำนวยให้เราถ่ายภาพต่างๆภายในวัด

โดยป้าได้ทำการแนะนำให้ไปทำการถ่ายภาพตามมุมต่างๆของวัดและได้ภาพออกมาอย่างที่เห็น...

วัดธรรมจักรถือได้ว่าเป็นวัดที่สงบร่มเย็น เหมาะแก่การหย่อนใจและมากราบไหว้องค์พระเป็นอย่างดี

อีกทั้งยังอยู่ในตัวเมืองพิษณุโลกซึ่งหาไม่ยากนัก เพื่อนๆหรือผู้อ่านที่เห็นข้อความนี้แล้วนั้น

หากต้องการมากราบไหว้ หรือแวะมาท่องเที่ยวก็ลองแวะมาชมมาศึกษาวัดธรรมจักรนี้กันดูได้นะครับ ขอบคุณครับ....(^_^)*