ทฤษฎี เป็นข้อความที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของปรากฏการณ์ต่าง ๆ เพื่อสรุป หรืออธิบายหรือ ทำนายปรากฏการณ์ต่าง ๆ
องค์ประกอบของทฤษฎีทางการศึกษา
1. ทฤษฎีการออกแบบหลักสูตร การออกแบบหลักสูตร (Curriculum Design) หมายถึง การจัดส่วนประกอบองค์ประกอบของหลักสูตร ซึ่งได้แก่ จุดหมาย เนื้อหาสาระ กิจกรรมการเรียน และการประเมินผล ออกแบบหลักสูตรได้ 9 รูปแบบ
2. ทฤษฎีวิศวกรรมหลักสูตร หมายถึง กระบวนการทุกอย่างที่จำเป็นในการทำ ให้ระบบหลักสูตรเกิดขึ้นในโรงเรียน
2.1 รูปแบบการบริหาร (The administrative model) เป็นกระบวนการดำเนินงานจาก เบื้องบนไปสู่ล่าง
2.2 รูปแบบการปฏิบัติการจากเบื้องล่าง (The grass roots model) โดยมีพื้นฐานความเชื่อที่ว่า การพัฒนาหลักสูตรจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าหากครูผู้ใช้หลักสูตร ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำหลักสูตรด้วย นอกจากนี้ยังสมควรจะเปิดโอกาสให้ผู้เรียน ผู้ปกครอง ตลอดจนประชาชนในท้องถิ่น มีส่วนร่วมในการจัดทำหลักสูตรด้วย
2.3 รูปแบบการสาธิต (The demonstration model)
ลักษณะแรก การวิจัยเพื่อ ในส่วนลักษณะหลัง จะเป็นการดำเนินการไม่ค่อยเป็นทางการมากนัก โดยมีคณะครูที่มี ความสงสัยหรือไม่พึงพอใจส่วนหนึ่งส่วนใดของหลักสูตร อาจจะร่วมกันแสวงหาสิ่งใหม่
2.4 รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (The systematic action-research model) ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อทดลอง แต่วางแผนเพื่อปรับปรุง ใช้นำหลักสูตรสู่การสอน
2.5 รูปแบบการใช้คอมพิวเตอร์เป็นฐานในการจัดทำ (Computer-based model) หลักสูตรจะจัดทำขึ้นโดยการให้ผู้เรียนและผู้สอน กรอกข้อมูลลงในบัตรรายการ เป็นรากฐานในการจัดทำหลักสูตร
3. ทฤษฎีการสร้างหลักสูตร ทฤษฎีเกี่ยวกับกระบวนการสร้างหลักสูตรของนักการศึกษาทั้งไทยและต่างประเทศ จะได้
นำเสนอรายละเอียดในบทที่3 การพัฒนาหลักสูตร
4. ทฤษฎีการนำหลักสูตรไปใช้ หลักสูตรแม้จะสร้างขึ้นมาดีเพียงใดก็ตาม การนำหลักสูตรไปใช้อย่างขาดประสิทธิภาพ หลักสูตรนั้นอาจจะล้มเหลวได้ ในที่นี้จะเสนอแนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
5. ทฤษฎีการประเมินหลักสูตร การประเมินหลักสูตร เป็นกระบวนการสำคัญอีกกระบวนการหนึ่งในการพัฒนาหลักสูตรเพราะ เป็นกระบวนการที่สะท้อนความสำเร็จของหลักสูตร เพื่อน าไปสู่การพัฒนาปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง สามารถจำแนกออกได้หลายรูปแบบ
รูปแบบของหลักสูตร
แต่ละรูปแบบก็มีแนวความคิด จุดมุ่งหมาย โครงสร้างแตกต่าง กันออกไป ซึ่งจำแนกได้ 9 แบบ ดังนี้
1. หลักสูตรแบบเน้นเนื้อหาวิชา เป็นรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุดในการสอนศาสนา เน้นถ่ายทอดเนื้อหา สาระ ความรู้ โดยครูเป็นผู้ดำเนินการ
ข้อดี
ง่ายต่อการเลือกเนื้อหานำมาสอน ประเมินผลการเรียนรู้ง่าย สร้างระเบียบวินัยในห้องเรียนได้ดี
ข้อด้อย
เน้นแต่ด้านวิชาการ ไม่ครอบคลุมพฤติกรรมและการพัฒนาด้านอื่นของผู้เรียน ไม่ส่งเสริมการแสดงความคิดเห็นของผู้เรียน ทั้งบรรยากาศในห้องเรียนมีความตึงเครียดทำให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่ายได้ง่าย
2. หลักสูตรหมวดวิชา เป็นรูปแบบหลักสูตรสหสัมพันธ์และหลักสูตรแบบผสมผสาน โดยการนำเนื้อหาวิชาหลายๆ วิชา มาผสมรวมกัน เช่น หมวดวิชา คณิตศาสตร์ จะรวมวิชาเลขคณิต พีชคณิต ตรีโกณมิติ เรขาคณิตไว้ด้วยกัน การจัดการ การวัดผลการเรียนรู้จึงมุ่งเน้นวัดความรู้ที่ได้เป็นหลัก
ข้อดี
เนื้อหาวิชาที่เรียนไม่ซ้ำซ้อนกัน ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ได้หลายรูปแบบ ช่วยให้ผู้เรียนได้มีโอกาสทำกิจกรรม ผู้เรียนไม่เบื่อหน่ายในการเรียน
ข้อด้อย
การสอนอาจไม่สำเร็จ เพราะ ครูต้องสอนหลายวิชาในขณะเดียวกัน
3. หลักสูตรเพื่อชีวิตและสังคม
ยึดสังคมและชีวิตเด็กเป็นหลัก เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน จัดเนื้อหาในสำพันธ์กับชีวิตจริง
ข้อดี
เกิดแรงจุงใจใฝ่เรียนรู้ ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์อย่างกว้างขวาง
ข้อด้อย
ผู้เรียนนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้บางส่วนเท่านั้น การจัดกิจกรรมให้ตรงกับวัตถุประสงค์นั้นทำได้ยาก
4. หลักสูตรแบบแกน มุ่งที่จะสนองความต้องการและความสนใจของผู้เรียนและส่งเสริมการมีส่วนร่วม มุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักการแก้ปัญหา เข้าใจชีวิตและสังคม การวัดผล การเรียนรู้เน้นวัดพัฒนาการทุก ๆ ด้าน
ข้อดี
ตรงกับความสนใจความถนัดของผู้เรียน ส่งเสริมให้ผู้เรียนกระตือรือร้น
ข้อด้อย
มีการจัดเรียงลำดับความรู้น้อย เน้นการสนทนามากเกินไป โรงเรียนส่วนใหญ่ขาดอุปกรณ์และสิ่งอำนวยสดวกที่เอื้อ ต่อหลักสูตรนี้
5. หลักสูตรกิจกรรมหรือประสบการณ์ เรียนรู้ด้วยการกระทำคำนึงถึงความแตกต่างรายบุคคล ความสนใจของผู้เรียนเป็นตัวกำหนดเนื้อหา กิจกรรม ประสบการณ์
ข้อดี
ผู้เรียนได้ประสบการณืตรง ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง
ข้อด้อย
การจัดทำหลักสูตรได้ยาก
6. หลักสูตรบูรณาการ เน้นตัวผู้เรียนเป็นหลัก
ข้อดี
ผู้เรียนได้ประสบการณ์ตรง นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้มาก
ข้อด้อย
การบูรณาการเนื้อหา ประสบการณ์ ทำได้ดีในระดับประถม แต่ในระดับมัธยมและระดับสูงทำได้ยาก เป็นหลักสูตรที่ยากแก่การสอน ต้องใช้สื่อการเรียนรู้หลายอย่าง
7. หลักสูตรสหสัมพันธ์ นำเอาเนื้อหาวิชาต่างๆ ที่สอดคล้องกันมาเชื่อมโยงกันและจัดสอนเป็นเนื้อหาเดียวกัน
ข้อดี
เนื้อหามีความสัมพันธ์สอดคล้องผสมผสานกันดี ทำให้ผู้เรียนได้ความรู้ที่เชื่อมโยงกัน จัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้หลายรูปแบบ ผู้เรียนมีโอกาสเรียนในสิ่งที่ตนสนใจ
ข้อด้อย
การจัดเนื้อหาให้สัมพันธ์กันทำได้ยาก ทำให้คาบเวลายาวนาน
8. หลักสูตรแบบเอกัตบุคคล เป็นหลักสูตรที่จัดทำขึ้นเพื่อสนองความต้องการ ความสนใจของผู้เรียนรายบุคคล
ข้อดี
ผู้เรียนได้เรียนตามความต้องการของตน เหมาะสำหรับการพัฒนาส่วนบุคคล
ข้อด้อย
การเนี้นหลักสูตรนี้จะหย่อนด้านพัฒนาตามเป้าประสงค์ของสังคม เพราะไม่มีการฝึกการมีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคม
9. หลักสูตรแบบส่วนบุคคล ครูและนักเรียน วางแผนร่วมกันตามความเหมาะสมและความสนใจของผู้เรียน เรียกว่า สัญญาการเรียนเพื่อส่งเสริมและ ดึงเอาศักยภาพของผู้เรียนออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้