ลูกเสือวิสามัญ

ลูกเสือวิสามัญ

ลูกเสือ และเนตรนารีวิสามัญ

มีเกณฑ์อายุอยู่ระห่วาง 17-23 ปีและกำลังเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลาย อาชีวศึกษา หรืออุดมศึกษา

คำปฏิญาณของลูกเสือวิสามัญ

ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า…

ข้อ 1 ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ข้อ 2 ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ

ข้อ 3 ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ

คติพจน์ : บริการ (Service)

กฎของลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ และลูกเสือวิสามัญ

ข้อ 1 ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้

ข้อ 2 ลูกเสือมีความจงรักภัคดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ

ข้อ 3 ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น

ข้อ 4 ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคน และเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก

ข้อ 5 ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย

ข้อ 6 ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์

ข้อ 7 ลูกเสือเชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดา และผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ

ข้อ 8 ลูกเสือมีใจร่าเริงและไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก

ข้อ 9 ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์

ข้อ 10 ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ

ข้อ 1 “ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้” (A scouts is to be Trusted) ลูกเสือจะต้องยึดมั่นในความซื่อสัตย์ ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาอย่างเคร่งครัด มั่นคงอยู่ในคุณงามความดี ไม่ยอมแพ้แก่สิ่งยั่วยุหรืออำนาจฝ่ายต่ำ กระทำตนให้เป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจแก่ผู้อื่นได้เสมอ

ข้อ 2 “ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ” (A scout is loyal) เป็นการยืนยันในคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้อย่างมีเกียรติ ด้วยการแสดงออก ปฏิบัติจริงทุกวิถีทาง เพื่อปกป้องสถาบันชาติ สถาบันศาสนาและสถาบัยพระมหากษัตริย์ รวมถึงจะต้องยึดมั่นในความซื่อสัตย์กตัญญูต่อผู้มีพระคุณทุกท่าน

ข้อ 3 “ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น” (A scout duty is to be useful and to help others) ลูกเสือจะต้องเป็นคนไม่เห็นแก่ตัว พร้อมอยู่เสมอที่จะบำเพ็ญประโยชน์และเป็นที่พึ่งแก่ผู้อื่นได้ ซึ่งหมายความว่าจะต้องพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ความสามารถ และพึ่งตนเองได้ด้วย

ข้อ 4 “ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคนและเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก”

(Scout is a friend to all and a brother to every other Scout) ลูกเสือจะต้องเป็นผู้ที่มองโลกในแง่ดี มีจิตใจ โอบอ้อมอารี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนทุกคนโดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา และชั้นวรรณะ รวมทั้งมีความตระหนักในหลักภารดรภาพคือ ความรู้สึกเสมือนเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก

ข้อ 5 “ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย” (A scout is Courteous) ลูกเสือจะต้องเป็นผู้มีกิริยาวาจาสุภาพอ่อนโยนอ่อนน้อม มีสัมมาภารวะต่อบุคคลทั่วไป ไม่ยกตนข่มท่าน

ข้อ 6 “ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์” (A scout is a Friend to animals) ลูกเสือจะต้องเป็นผู้มีใจเมตตากรุณาสงสารสัตว์ ไม่รังแกหรือทรมานสัตว์ให้ได้รับความเจ็บปวดหรือเมื่อพบสัตว์ได้รับความลำบากก็ต้องให้การช่วยเหลือมันจนพ้นภัย

ข้อ 7 “ลูกเสือต้องเชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดาและผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ” (A scout obeys orders of his parents patrol leader of Scoutmaster with out question) ในฐานะที่บิดามารดาเป็นผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเราจนเติบใหญ่ขึ้นมา รวมไปถึงบรรดาครู อาจารย์ และผู้บังคับบัญชาท่านเหล่านี้ล้วนเป็นที่ผู้ที่มีประสบการณ์ชีวิตมากว่าเรา ดังนั้น คำสอน ดำชี้แนะ หรือคำสั่งของท่านจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าลูกเสือจึงจะต้องเคารพเชื่อฟังและปฏิบัติตามโดยฉับไว ไม่ลังเลใจ อันเป็นวินัยซึ่งเกิดจากภายในมิใช่เป็นการถูกบังคับให้กระทำ

ข้อ 8 “ลูกเสือมีใจร่าเริงและไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก” (A scout Smiles and under difficulties) ลูกเสือจะต้องเป็นผู้มี่อาการยิ้มแย้มแจ่มใสและร่าเริงอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะตกอยู่ในความยากลำบากปานใดก็ตามก็จะไม่แสดงอาการย่อท้อให้เห็น

ข้อ 9 “ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์” (A scout is Thrifty) ลูกเสือจะต้องเป็นผู้รู้จักประหยัดทรัพย์ทั้งของตนและผู้อื่น รู้จักเก็บหอมรอมริบ สำหรับใช้บำรุงตนไม่เบียดเบียนผู้อื่นในเรื่องทรัพย์สินเงินทอง

ข้อ 10 “ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ” (A Scout is clean in thought word and deed) ลูกเสือจะต้องรู้จักสำรวมและระวังกาย วาจา ใจ ไม่ให้มีความอิจฉา ริษยา คิดเบียดเบียนหรือทำให้ร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่นเดือดร้อนและชำรุดเสียหาย รวมไปถึงการไม่พูดคำหยาบ คำเท็จ โดยพยายามยัดหลักว่า “สิ่งที่คิด กิจที่ทำ คำที่พูด” จะต้องไม่ทำให้ทั้งตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน ซึ่งถ้าปฏิบัติได้ดังนี้ ก็เท่ากับว่าเราได้ดำรงตนอยู่ในศิลธรรมอันดี มีความประพฤติชอบทั้งกาย วาจา และใจแล้ว