เนื่องจากในช่วงนี้พลังงานแสงอาทิตย์ จากโซล่าร์เซลล์กำลังมาแรง โดยเฉพาะ Solar Roof Top หรือ โซล่าร์เซลล์บนหลังคาบ้าน แต่หลายๆ คนยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับโซล่าร์เซลล์ ดังนั้นในฐานะที่ผมอยู่ในวงการนี้ และรู้เรื่องเหล่านี้บ้าง จึงอยากจะเรียบเรียง และถ่ายทอดออกมาให้ครบที่สุดครับ มี 10 ข้อที่ประชาชนควรรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับ "โซล่าร์เซลล์หลังคาบ้าน" เนื้อหายาวจึงขอแบ่งเป็น 1 โพสกับ 9 คอมเมนต์นะครับ ^^
บทความต่อไปทางผมเขียนมาจากประสบการณ์โดยตรง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน ส่วนไหนดีก็บอกว่าดี ไม่ดีก็จะไม่กั๊ก ถ้ามีคำแนะนำใดๆ เพิ่มเติม ยินดีแลกเปลี่ยน และรับฟังความคิดเห็นทุกท่าน คอมเมนต์มาได้เลยครับผม ^_^
1. ติดแล้วได้ประโยชน์อะไรบ้าง ?
การติดตั้งโซล่าร์เซลล์ หรือพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยนั้น มีมานานหลายปีแล้ว แต่ที่เริ่มแพร่หลายจริงๆ จังๆ ก็ไม่เกิน 5-7 ปี โดยเติบโตขึ้นมากกว่า 320% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เทรนดังกล่าวชี้วัดได้ว่า มันไม่ใช่สิ่งที่ติดเพื่อคุยโม้โอ้อวด แต่ติดเพื่อประโยชน์จริงๆ วัดจากประสบการณ์การติดตั้งใน 5 ปีที่ผ่านมา ผมขอสรุปประโยชน์ของการติดแผงโซล่าร์เซลล์ดังนี้ครับ
>>>ติดตั้งเพื่อขายไฟให้การไฟฟ้า
คือการแปลงสภาพหลังคาบ้านอันว่างเปล่าของเรา ไปเป็นโรงผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดเล็ก และขายคืนให้กับการไฟฟ้าเลย ย้ำนะครับว่า “ไม่เกี่ยวกับการใช้ไฟในบ้านเราเลย”
หลายคนสงสัยว่า แล้วการไฟฟ้าจะรับคืนไฟฟ้าได้อย่างไร คำตอบคือ “รับไฟมาทางไหน ก็จ่ายไฟคืนไปทางนั้น” แหล่ะครับ แหะๆ พูดง่ายๆ คือ กระแสไฟฟ้ามันไหลได้สองทางนั่นเอง ครับผม แต่อย่างไรก็ตาม การไฟฟ้าจะไม่อนุญาติให้จ่ายไฟย้อนมิเตอร์เดิมของบ้าน (ถึงทำได้ก็ผิดกฎหมาย เข้าใจตรงกันนะครับ ^^)
ดังนั้น เมื่อติดแผงโซล่าร์เซลล์แล้ว จะต้องมี “มิเตอร์ขายไฟ” เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตัว ครับ เพื่อรับไฟจากบ้านเราคืนกลับไปยังการไฟฟ้า สรุปบ้านเราจะมีทั้ง “มิเตอร์ขายไฟ” และ “มิเตอร์ซื้อไฟ”(มิเตอร์เดิม) เรียกได้ว่า “ซื้อส่วนซื้อ ขายส่วนขาย” มิเตอร์ขายไฟหน้าตาประมาณด้านล่างนี้ครับ
กระทู้สนทนา
รูปที่ 1 มิเตอร์ขายไฟ โซล่ารูฟท็อป
การขายไฟให้การไฟฟ้า โดยการติดแผงโซล่าร์ นั้น มีสองหน่วยงานที่รับซื้อ คือ
(1) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) สำหรับคนอยู่ต่างจังหวัด และ
(2) การไฟฟ้านครหลวง (MEA) สำหรับในกรุงเทพและปริมณฑล
รูปที่ 2 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นครหลวง
สาเหตุที่การไฟฟ้ารับซื้อไฟจากประชาชน เพื่อลดภาระในการผลิตกระแสไฟฟ้า แทนที่จะไปลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ และรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันผลิตกระแสไฟฟ้าขึ้นมาจะดีกว่าครับ เรียกได้ว่า “ร่วมด้วยช่วยกัน” เพื่อให้ประเทศเรามีไฟฟ้าใช้อย่างพอเพียง
ทีนี้มาดูกันว่า เงื่อนไข ที่แต่ละบ้านจะมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เป็นของตัวเอง มี 4 ข้อคือ
- การไฟฟ้ายอมให้ผลิตได้ไม่เกิน 10kW ต่อหลังคาเรือน และมีโควต้าต่อชุมชนด้วย ซึ่งต้องปรึกษาการไฟฟ้าที่รับผิดชอบในชุมชนของท่าน
- มิเตอร์ไฟฟ้าต้องเป็น ประเภทที่ 1 (เพื่ออยู่อาศัย) เท่านั้น วิธีการสังเกตว่า บ้านเราเป็นมิเตอร์ประเภทที่ 1 หรือไม่ ให้ดูจากบิลค่าไฟ ที่เราได้รับทุกเดือน ดังรูปครับ
- จะต้องมีหลังคาบ้าน หรือโครงหลังคาบ้านที่พร้อมให้ติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ พลังงานแสงอาทิตย์
- จะต้องขออนุญาติกับการไฟฟ้าใกล้บ้านท่าน ภายใน มิถุนายน 2558 และจะต้องเริ่มขายไฟเข้าระบบ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558
รูปที่ 3 บิลค่าไฟประเภทที่ 1
ติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์เพื่อขายไฟ เป็นทางเลือกที่ “เกิดให้ประโยชน์ทางการเงินสูงสุด” เพราะการไฟฟ้ารับซื้อไฟในอัตราที่แพงกว่า ค่าไฟปกติที่เราจ่ายกันยังไงล่ะครับ
พูดง่ายๆ ก็คือ การไฟฟ้าขายไฟให้เราที่หน่วยละ 3-4 บาท (update พ.ค.2558) แต่การไฟฟ้ารับซื้อไฟจากเราในอัตราหน่วยละ 6.85 บาท ดังนั้นเราจึงไม่ควรติดตั้งแผงโซล่าร์เพื่อใช้ไฟในบ้านแต่เพียงอย่างเดียว ถ้ามีโอกาสขายได้ เน้นขายเถอะครับ คุ้มกว่ากันเยอะ
ประเทศไทยเคยมีโครงการรับซื้อไฟจากประชาชนมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกการไฟฟ้าให้ที่ราคา 6.96 บาท ส่วนครั้งล่าสุดให้ราคาที่ 6.85 บาท แนวโน้มดูจะลดลงนะครับ
สรุปการลงทุนเพื่อขายไฟ โดยการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์บนหลังคา แล้วจ่ายไฟให้กับการไฟฟ้าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสุด เพราะไม่ต้องมีแบตเตอรี่ ไม่ต้องไปเกี่ยวข้องกับการใช้ไฟในบ้าน ทำให้เกิดการคืนทุนเร็วสุด ได้ผลตอบแทนคงที่ประมาณ 20% ตลอดระยะเวลาสัญญา 25 ปี จะรออะไรอีกล่ะครับ ^^
>>>ติดตั้งเพื่อใช้เอง
การติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์อีกรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถดำเนินการได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาติการไฟฟ้า ซึ่งหลักการคล้ายกับการติดตั้งเพื่อขายไฟเลย เพียงแต่กระแสไฟฟ้าที่ได้ จะนำมาใช้ภายในบ้าน นั่นเอง
การติดตั้งเพื่อใช้ไฟเองในบ้านสามารถแบ่งออกได้หลากหลายมากๆ เลยครับ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เท่าที่พบเจอกันบ่อยๆ มีดังนี้นะครับ
(1) ต้องการลดค่าไฟฟ้าในบ้าน โดยให้แผงโซล่าร์ช่วยจ่ายกระแสไฟฟ้าในตอนกลางวัน (ตอนที่มีแดด)
(2) ต้องการใช้งานตอนไม่มีไฟ หรือไฟดับ ซึ่งต้องใช้ แบตเตอรี่ เป็นตัวช่วยกักเก็บพลังงาน
(3) ต้องการใช้กับกิจกรรมที่ไม่สะดวกที่จะใช้ไฟจากการไฟฟ้า เช่น ปั้มน้ำที่อยู่นอกบ้าน บ่อน้ำ ไฟถนน ไฟริมรั้ว กล้องวงจรปิดนอกตัวอาคาร เป็นต้น
รูปที่ 4 Solar Lighting โซล่าร์เซลล์สำหรับแสงสว่าง หลอด LED
รูปที่ 5 Solar Pump โซล่าปั้ม เครื่องสูบน้ำ
รูปที่ 6 ใช้โซล่าเซลล์ ควบคู่กับพลังลม Wind turbine
รูปที่ 7 Solar Mobile แบบเคลื่อนที่ได้ เหมาะกับใช้งานนอกสถานที่
รูปที่ 8 Solar ลดค่าไฟในโรงงาน สำหรับโรงงานที่มีค่าไฟเกิน 50,000 บาท ขึ้นไป
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็แล้วแต่ ขอให้พึงระลึกไว้เสมอเลยนะครับว่า การติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ จะต้อง “มีการใช้ไฟ ถึงจะคุ้ม” ครับ ตราบใดที่ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ได้ แต่ถ้าเราไม่มีการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าใดๆ เลย พลังงานที่ได้จะสูญเปล่า นอกจากจะมี “แบตเตอรี่” ไว้กักเก็บพลังงานครับ
แบตเตอรี่จะต้องเป็นแบบ Deep Cycle Battery เท่านั้น ถึงจะเหมาะสมกับการเก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์ เพราะความสามารถในการจ่ายประจุได้ลึก สูงสุดถึง 75% ของความจุแบตเตอรี่ (มันถึงเรียกว่า Deep ไง) ทำให้ในแบตความจุเดียวกัน แบตเตอรี่แบบนี้จ่ายไฟได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่า แต่มีข้อเสียคือ ราคาสูง และไม่เหมาะกับการ ใช้ เปิด-ปิดโหลดบ่อยๆ เช่นการสตาร์ทรถยนต์ เพราะแบตเตอรี่ชนิดนี้ มีความสามารถในการทน trigger charge ต่ำ
รูปที่ 9 Deep cycle battery แบตเตอรี่ความจุสูง
ล่าสุด (2558) บริษัท Tesla ผลิตแบตเตอรี่ความจุสูง ที่มีคุณสมบัติสำหรับเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมีจุดเด่นคือสามารถชาร์จไฟอ่อน เข้าแบตเตอรี่ได้ตลอดเวลา แต่ราคาค่อนข้างสูงอยู่
รูปที่ 10 Tesla Powerwell นวตกรรมใหม่ของแบตเตอรี่
ถ้าต้องการใช้ไฟเฉพาะเวลาที่มีแดด ไม่ต้องมีแบตเตอรี่ แต่ถ้าต้องการใช้ไฟเวลาที่ไม่มีแดดด้วย จะต้องมี แบตเตอรี่ ด้วยครับ ซึ่งเรื่องแบตเตอรี่ เป็นสิ่งที่ต้องคุยกันยาวๆ ไว้คราวหน้าละกันครับ ^^
ทีนี้เมื่อมีข้อจำกัดเพิ่มขึ้นมาดังกล่าว จึงทำให้การติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ไฟเองโดยตรง จะคุ้มค่าน้อยกว่าการขายไฟให้กับการไฟฟ้า
แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่น่าลงทุนนะครับ ตรงกันข้าม มันมีแนวโน้มจะคุ้มค่าไปเรื่อยๆ เนื่องจากค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทุกปี และถือเป็นพลังงานสะอาด ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม อีกอย่าง ถ้าเราติดตั้งเพื่อใช้ไฟไปแล้ว ในอนาคตเราอาจจะสามารถขายไฟให้การไฟฟ้าได้ ถ้ารัฐบาลเปิดสิทธิ์รอบใหม่ ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก เพราะได้ยินแว่ว ๆ ว่าจะมีการเปิดเสรีโซล่ารูฟท้อปส์ ซึ่งร่างกฎหมายนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาครับ (หวังว่าจะไม่ทะเลาะกันนานเกินไปนะครับ รีบออกมาเสียที ฮาๆ)
และยิ่งถ้าคุณใช้ไฟในเวลากลางวัน จำนวนมากๆ และสม่ำเสมอแล้วล่ะก็ การติดแผงโซล่าร์เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ ก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่าไม่น้อย ยิ่งตอนนี้ มีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์โซล่าร์เซลล์ ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ 6-8%) ทำให้เราไม่ต้องลงทุนเงินก้อนโตมาก เพียงแต่แบ่งกำไรจากการประหยัดค่าไฟให้กับผู้ปล่อยสินเชื่อเท่านั้นเอง
(อีก 9 ข้อกำลังตามมาครับ)
Tsundere no tsukaima ถูกใจ, พุ่มไม้ใบหญ้า ถูกใจ, vision12345 ถูกใจ, รหัส Z ถูกใจ, Jalor ถูกใจ, red-racket ทึ่ง, PM_GIA ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1648865 ถูกใจ,MachineGun ถูกใจ, ต้นโพธิ์ต้นไทร ถูกใจรวมถึงอีก 111 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
89 ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
2. ความรู้พื้นฐานสำหรับโซล่าร์เซลล์ ?
ในฐานะที่ทำงานเป็นวิศวกรไฟฟ้ามา 15 ปี ผมทราบดีครับว่าคนส่วนใหญ่มักจะส่ายหน้ากับการอธิบายในเชิงเทคนิก และมีศัพท์วิชาการมากมาย เช่น กระแสไฟ แรงดัน กำลังไฟ อะไรต่อมิอะไร เอาเป็นว่าผมขอทิ้งรายละเอียดเชิงเทคนิกไปทั้งหมดก่อน เรามาเน้นอธิบายให้ชาวบ้านฟังดีกว่าเนอะ (ถ้าอยากได้ข้อมูลเชิงเทคนิก ผมกำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับโซล่าร์เซลล์ เดี๋ยวถ้าเขียนเสร็จจะมาแชร์ให้อ่านนะครับ ^^)
ระบบไฟฟ้ากล่าวโดยสรุปแบบง่ายๆ มันประกอบด้วย ผู้ผลิตไฟ และผู้ใช้ไฟ
197
วันเสาร์ เวลา 14:58 น.
รูปที่ 11 หลักการง่ายๆ ของผู้ขายไฟ ผู้ซื้อไฟ และระบบกริด Grid
ผู้ผลิตไฟสามารถมีได้หลายคน โดยแต่ละคนจะช่วยกันผลิตไฟแล้วจ่ายมายังที่เดียวกัน เป็นโครงข่ายของระบบจัดจำหน่าย หรือ พาวเวอร์ กริด (Power Grid) ที่เรามักจะเรียกสั้นๆ ว่า Grid (ไม่ต้องสนใจมาก จำชื่อไว้ก็พอ ^^) เงื่อนไขของผู้ผลิตไฟก็คือ จะต้องผลิตไฟให้อยู่ในรูปแบบเดียวกัน ในทางไฟฟ้า มันคือ แรงดัน(V) และความถี่(Hz) ผู้ผลิตไฟจะต้องผลิตไฟให้ค่าสองตัวนี้ ให้ตรงกันเสมอ ถึงจะร่วม Grid กันได้ สำหรับประเทศไทย แรงดัน และความถี่ของ Grid คือ 220โวลต์-V 50เฮิร์ต-Hz (สำหรับไฟ 1 เฟส)
ทำไมต้องเป็น แรงดัน 220V ความถี่ 50Hz เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าบ้านเราต้องใช้แรงดัน และความถี่เท่านี้ไงล่ะครับ แต่ยังไงก็ดี เริ่มมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่รับไฟจากโซล่าร์เซลล์ได้โดยตรง ไม่ต้องแปลงเป็นกระแสสลับ เริ่มมีวางจำหน่ายแล้วครับ เช่น หม้อหุงข้าว หลอดไฟ แอร์
ส่วนผู้ใช้ไฟก็พวกเราๆ ท่านๆ นี่แหล่ะครับ มีได้หลายคนแน่นอน
และเมื่อวันหนึ่งการไฟฟ้าอนุญาติให้เราผลิตกระแสไฟฟ้าจากหลังคาบ้านเราได้ แสดงว่าเขายินยอมให้เราเป็น “ผู้ผลิตไฟ” นั่นเองครับ
สำหรับพระเอกเบอร์ 1 ของเรานั่นคือ แผงโซล่าเซลล์ นั่นเอง แต่คุณสมบัติทางไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซล่าร์เซลล์ จะเป็น 12V หรือ 24V และไม่มีความถี่ เราเรียกว่าแรงดันกระแสตรง (DC) ไม่สามารถต่อเข้ากับ Grid ของการไฟฟ้าได้โดยตรง จะต้องอาศัยอุปกรณ์ที่เรียกว่า อินเวอร์เตอร์ (Inverter) นั่นเอง
รูปที่ 12 แผงโซล่าร์เซลล์
พระเอกเบอร์ 2 ของเราหรือ อินเวอร์เตอร์ (Inverter) จะทำหน้าที่แปลงกระแสตรง(DC) 24V 0Hz ที่ได้จากแผงโซล่าร์เซลล มาเป็นกระแสสลับ (AC) 220V 50Hz จะได้ต่อเข้ากับ Grid ของการไฟฟ้าได้นั่นเอง
รูปที่ 13 Solar Inverter
สำหรับผู้ช่วยพระเอกอีกคน ของเราคือ แบตเตอรี่ (Battery) จะทำหน้าที่คู่กับตัวควบคุมการชาร์จ (Charge controller) เพื่อทำการสำรองไฟไว้ใช้งานยามที่แผงโซล่าร์ไม่ทำงาน โดยทำให้ประสิทธิภาพของระบบดียิ่งขึ้น
เพราะถ้าไม่มี แบตเตอรี่ การใช้ไฟจะขึ้นอยู่กับปริมาณโหลดที่ถูกใช้ ณ ขณะนั้นๆ เช่นถ้าเราต่อโหลดแค่ 50% ของบ้าน แต่โซล่าร์เซลล์สามารถจ่ายได้ถึง 100% ส่วนที่เหลืออีก 50% จะไม่ได้ถูกกักเก็บ ก็จะสูญเปล่าไป
แต่ถ้ามี แบตเตอรี่ ส่วนที่เหลือจากการใช้ไฟในบ้าน จะถูกจัดเก็บลง แบตเตอรี่ทั้งหมด เป็นการบริหารพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เพื่อความเข้าใจมากขึ้นในการทำงาน เมื่อมีแสงแดดมาตกกระทบแผงโซล่าร์เซลล์ จะเกิดการเปลี่ยนจากพลังงานแสงเป็นพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง (DC Current) ผ่านตัวควบคุมการชาร์จ(Charge controller) เพื่อควบคุมว่าจะปล่อยไปใช้เท่าไหร่ และจะเหลือเก็บลงแบตเตอรี่เท่าไหร่
ส่วนที่ปล่อยไปใช้งาน จะต้องผ่านอินเวอร์เตอร์ เพื่อแปลงเป็น ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Current) ก่อนนำไปใช้งานกับโหลดต่างๆ
รูปที่ 14 รูปแบบการใช้งานโซล่าเซลล์
ในวงการไฟฟ้าจะชอบแบ่งประเภทของโซล่าร์เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นไปตามการต่อ Grid ซึ่งผมมองว่ามันไม่จำเป็นต้องรู้เท่าไหร่ แต่เพื่อให้ครบองค์ความรู้ จะขอกล่าวไว้ตรงนี้สักหน่อย
(1) Off grid หรือ Stand-Alone
คือระบบที่ใช้พลังงานจากโซล่าร์เซลล์เพียงอย่างเดียว ไม่ต่อกับแหล่งจ่ายไฟอื่นๆ เลย เป็นระบบที่มักจะทำงานควบคู่กับแบตเตอรี่ เพื่อให้เกิดการจ่ายไฟอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ใช้งานมากที่สุดทั่วโลก เหมาะสำหรับสถานที่ ที่มีโหลดคงที่ เช่นตู้หยอดเหรียญ ไฟถนน ไฟสวน ปั้มสูบน้ำ หรือโหลดแบบเจาะจงตามบ้าน ข้อเสียคือไม่สามารถต่อโดยตรงเข้ากับไฟเมนของบ้าน ต้องออกแบบระบบให้แน่นอนก่อน เปลี่ยนแปลงโหลดได้ยากในอนาคต
รูปที่ 15 การต่อวงจรแบบ Off grid solar system
ข้อดีอย่างหนึ่งของระบบ Off grid คือสามารถทำในรูปแบบของชุดคิตสำเร็จรูปได้ง่าย (Solar Kit) ดังรูปครับ
รูปที่ 16 ชุดคิตโซล่าร์เซลล์ รูปแบบหนึ่งของ Off grid ขนาดเล็ก
(2) On grid หรือ Grid-tie
คือระบบที่ต่อกับการไฟฟ้าเพื่อขายไฟ ให้กับการไฟฟ้า เป็นระบบที่ลงทุนน้อยที่สุดและคุ้มค่ามากที่สุด แต่ต้องอาศัยนโยบาลของรัฐบาลช่วยผลักดัน ระบบนี้มีข้อจำกัดก็คือ การไฟฟ้าไม่สามารถรับไฟได้แบบไม่อั้น เพราะข้อจำกัดเรื่องขนาดหม้อแปลงของการไฟฟ้า ดังนั้นในอนาคตระบบนี้จะต้องหมดโควต้าอย่างแน่นอน ในประเทศไทย ตอนนี้มีนโยบายรับซื้อไฟ ซึ่งจะหมดเขตในเดือนมิถุนายน 2558 รีบๆ หน่อยนะครับ (ตอนเขียนบทความนี้ยังไม่หมดเขตครับ ^^)
รูปที่ 17 Ongrid solar system จะมีมิเตอร์ขาย และมิเตอร์ซื้อแยกกัน
(3) Grid-tie with power backup
หรือ Grid interactive system เหมือนระบบ On grid เพียงแต่มีแบตเตอรี่ เพื่อสามารถจ่ายไฟในช่วงเวลาไฟดับได้ด้วย หรือสามารถเซ็ตระบบ ให้สามารถจ่ายไฟได้ในกรณีที่มีไฟตก ไฟกระพริบ ระบบนี้จะแพงกว่า On grid ประมาณ 12-20%
รูปที่ 18 การต่อแบบ Grid-tie with power backup หรือ Grid interactive system
(4) Grid fallback
เป็นระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ไฟในบ้าน ไม่ได้ทำการขายไฟให้กับการไฟฟ้า แต่ต่อเข้าโดยตรงกับไฟบ้านผ่านสวิตช์ตัดต่อ สวิตช์ตัดต่อดังกล่าวเรียกว่า Automatic transfer switch มีหลักการทำงานคือ เมื่อมีแสงแดด สวิตช์ตัวนี้ จะแบ่งโหลดส่วนหนึ่งมารับไฟจากโซล่าร์เซลล์ จนเมื่อแสงแดดหมดแบตเตอรี่จะจ่ายไฟต่อจนแบตหมด หลังจากนั้นสวิตช์จะเปลี่ยนไปใช้ไฟจากการไฟฟ้าให้อัตโนมัติ โดยโหลดไม่สะดุดเลย ระบบนี้จะเป็นระบบหลักของโลกในอนาคต เมื่อการไฟฟ้าไม่รับซื้อไฟอีกต่อไป เราจึงต้องหันมาพึ่งตัวเองครับ ^_^ (ปล.หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อระบบว่า Smart hybrid แต่จริงๆ แล้วก็คือ Grid fallback และก็มีมานานแล้วด้วยครับ ระบบนี้)
รูปที่ 19 การต่อแบบ Grid fallback ที่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด
ก็ครบหมดแล้วทั้ง 4 รูปแบบการใช้งานโซล่าร์เซลล์สำหรับบ้าน จะมีสิ่งหนึ่งที่อยากจะเน้นย้ำอีกครั้งหนึ่งนะครับ กันความสับสน
- ถ้าติดเพื่อขายไฟ ไม่ต้องสนใจโหลดว่าต้องใช้ไฟเท่าไหร่ ให้สนใจว่าจะลงทุนเท่าไหร่ มีพื้นที่หลังคาพอหรือไม่ (ซึ่งจะกล่าวถึงอีกครั้งหนึ่ง)
- ถ้าติดเพื่อใช้ไฟเอง จะต้องมีการคำนวณโหลดที่ต้องการรับไฟจากโซล่าร์เซลล์ ให้จำนวนแผงเหมาะสมกับปริมาณโหลดที่จะใช้
พุ่มไม้ใบหญ้า ถูกใจ, shineman ถูกใจ, peh_chai ถูกใจ, kurapy ถูกใจ, ForDed ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2345380 ถูกใจ, maxtao ถูกใจ, noksamui ถูกใจ, moccavipkreamถูกใจ, เปลี่ยนชื่อ 3 รอบแล้วเพิ่งผ่าน ถูกใจ รวมถึงอีก 16 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
∨ดู 1 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 2
3. แล้วโซล่าร์เซลล์แบบไหนเหมาะสมกับเรา ?
เมื่ออ่านถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะพอรู้แล้วล่ะครับว่าต้องการระบบพลังงานแสงอาทิตย์แบบไหน เดี๋ยวผมจะขอฟันธงให้ท่านอีกรอบละกัน 55 เพราะจริงๆ มันมีเพียงแค่ 2 รูปแบบเท่านั้น คือ
3.1 แบบขายไฟให้การไฟฟ้า
แบบนี้พิจารณาได้ไม่ยากเลยครับ มีแค่เงื่อนไขเดียวคือ
“ท่านต้องมีสัญญาขายไฟให้การไฟฟ้า”
การที่จะได้สัญญาขายไฟกับการไฟฟ้านั้น ท่านจะต้องติดตามข้อมูลข่าวสาร แหล่งต่อไปนี้
สำหรับพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ติดตามจากสัญญารับซื้อไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ให้ดูประกาศตามลิงก์ต่อไปนี้
http://www.mea.or.th/profile/index.php?l=th&tid=3&mid=2996&pid=2995
สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัด ติดตามจากสัญญารับซื้อไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ให้ดูประกาศตามลิงก์ต่อไปนี้
https://www.pea.co.th/vspp/Pages/home.aspx
หรือติดตามข่าวสารจากบทความนี้ได้ครับ เพราะผมจะ update ข้อมูลตลอดเวลา ขอให้ดูในข้อต่อไป (ข้อที่ 4) ได้เลยครับ
และจงจำไว้เสมอนะครับ “ขายไฟ” ย่อมดีกว่า “ใช้ไฟ” เสมอ เพราะ
- ลงทุนต่ำกว่าหรือเท่ากัน เพราะไม่ต้องสำรองพลังงานในแบตเตอรี่ เท่าไหร่ก็ขายจนหมด
- ไม่ต้องบังคับให้ใช้โหลด เพราะแม้ไม่ได้ใช้ไฟเลย แต่พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ยังคง เกิดขึ้นตลอดเวลา ตราบใดที่แสงแดดยังไม่หมดไปจากโลก (55 ^^)
3.2 แบบใช้ไฟเอง
คือการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์เพื่อนำมาใช้กับโหลดโดยตรง ไม่ได้ขายให้ใคร
แบบนี้สามารถทำได้เลย ไม่ต้องขออนุญาติการไฟฟ้า เพียงแต่ท่านต้องไม่ทำให้มิเตอร์การไฟฟ้าหมุนกลับทาง (เข้าใจตรงกันนะ ^^) การใช้ไฟเอง มีได้หลากหลาย ท่านลองพิจารณาว่าตรงกับข้อใดข้อหนึ่ง ต่อไปนี้หรือไม่ครับ
- “โรงงานที่ต้องการลดค่าไฟ”
เหมาะกับโรงงานที่มีค่าไฟตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป สำหรับโรงงานที่มีการใช้โหลดช่วงกลางวันเยอะอยู่แล้ว ถ้าใช้เงินตัวเองลงทุน จะมีการคืนทุนอยู่ประมาณ 6-7 ปี แต่สำหรับผู้ที่มีผลประกอบการดี มีกำไรต่อเนื่อง สามารถที่จะเช่าซื้อเครื่องจักร (Leasing) แทนการลงทุนเอง เท่ากับว่า “ท่านไม่ต้องควักเงินสักบาท” หรือลงทุนไม่เกิน “10%” รายละเอียดสามารถปรึกษาผู้ที่ทำธุรกิจด้านนี้ได้ครับ
อย่าลืมว่าแนวทางการลดค่าไฟ สามารถทำไปพร้อมๆ กันได้หลายทาง ไม่จำเป็นต้องใช้โซล่าร์เซลล์เพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็น “เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟ”, “การลดความร้อนในคอมเพลสเซอร์”, “การเปลี่ยนหลอด LED”, “การติดฉนวนกันความร้อน”, “การติดอินเวอร์เตอร์โหลดที่มีความกระชากสูง เช่น แอร์ ปั้ม” เป็นต้น
- “ต้องการใช้ไฟเฉพาะเวลาที่มีแสงแดด”
เหมาะสำหรับคนที่รู้ตัวอยู่แล้ว ว่ายังไงจะต้องใช้ไฟช่วงกลางวัน เช่น ปั้มสูบน้ำ ที่ทำงานเฉพาะช่วงมีแดด ก็พอเพียงในการกักเก็บน้ำ คือไม่ต้องง้อไฟจากการไฟฟ้า ให้เปลืองค่าเดินสาย ประมาณนั้น
- “ต้องการใช้ไฟในจุดที่เดินสายไฟไปไม่ถึง”
เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเดินสายไฟ บางทีโหลดอาจจะอยู่ไกล เช่นในสวน ไร่นา เพราะการเดินสายไฟเป็นการลงทุนที่สูงเกินไป หรือต้องการเสาไฟที่ไม่ต้องเดินสายไฟ เพื่อจ่ายโหลดกล้องวงจรปิด ไฟถนนเป็นต้น ตรงนี้ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป นะครับ
- “ต้องการใช้ไฟช่วงที่ไฟดับ”
จริงๆ แล้วถือว่าเป็นหน้าที่ของแบตเตอรี่และยูพีเอสมากกว่า เพื่อการสำรองไฟ แต่แทนที่เราจะต้องเสียค่าไฟเพื่อมาสำรองไฟ เราเลือกใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทน
- “ต้องการใช้กับอุปกรณ์ที่เคลื่อนที่ไปมาได้บ่อย”
ถ้าใครอยากได้ รถเข็นพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องกำเนิดพลังงานแสงอาทิตย์แบบโมบาย หรือป้ายไฟแบบเคลื่อนที่ได้ ตรงจุดนี้ถือว่าตอบโจทย์พอสมควร เพราะไม่ต้องไปหาจุดต่อปลั๊กให้เสียเวลาครับ
- “ต้องการให้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งจ่ายไฟ”
ในกรณี เหมือนกับว่า เท่าสามารถมีแหล่งจ่ายไฟหลายแหล่ง เช่น พลังงานลม การไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ และต้องการให้ทุกแหล่งกำเนิดสามารถไปจ่ายโหลดเดียวกันได้ ระบบนี้เรียกว่า Hybrid power system ซึ่งในเมืองไทยเริ่มมีคนนำเข้ามาใช้งานแล้ว จริงๆ ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด
noksamui ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1853632 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2355022 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2343609 ถูกใจ, ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ ถูกใจ, RadiorA ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 2104779 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1175323 ถูกใจ, กุ้งเต้นชามะนาว ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1752968 ถูกใจ รวมถึงอีก 2 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 3
4. ขายไฟให้การไฟฟ้าต้องทำอย่างไรบ้าง ?
<update 3 พฤษภาคม 2558>
สัญญาขายไฟให้กับการไฟฟ้า อัพเดตล่าสุด เป็นดังนี้
1. สัญญาซื้อขายเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับภาคอุตสาหกรรม และนักลงทุน โดยสามารถทำบนพื้นดิน (Solar farm) หรือติดตั้งบนหลังคา (Solar roof) ณ ตอนนี้ ปิดรับสมัครไปแล้วนะครับ (เต็มเร็วมาก) สำหรับสิทธิ์เดิมที่ขออนุญาติไปแล้ว ให้ดำเนินการก่อนจะหมดอายุสัญญานะครับ ถ้าใครอยากทำ Solar Farm / Solar Roof เพื่อประกอบกิจการ ณ ตอนนี้คงต้องให้ไปซื้อใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานไฟฟ้า (PPA) จากโครงการกำลังก่อสร้าง หรือที่สร้างเสร็จแล้ว ที่ขายไฟฟ้าให้กับ PEA หรือ MEA หลักฐานที่ต้องการคือ
- สำเนาโฉนดที่ดิน หรือ แบบแปลนโรงไฟฟ้า
- ระบุยี่ห้อ ขนาด สเป็คของแผงโซล่าร์และอินเวอเตอร์
- ทุนจดทะเบียน
- ค่าใช้จ่ายรายเดือนของโรงงาน
เนื่องจากใบ PPA เป็นสิ่งมีค่าที่ทุกคนจับจ้อง จึงมีนายหน้าที่ชอบอ้างว่ามาจากผู้ใหญ่ให้มาเสนอซื้อ เสนอขาย เยอะมาก แต่ไม่มีหลักฐานมาแสดง นอกจากเพียงลมปากเท่านั้น เพื่อเรียกรับเงิน แต่สุดท้ายก็ว่างเปล่า เสียเวลาฟรี เพราะไม่มีอยู่จริง อ้างเจ้าของไม่ขายหรือหาเจ้าของตัวจริงไม่เจอบ้างล่ะ ถ้าท่านใดต้องการซื้อจริง ต้องพิจารณากันดีๆ นะครับ
2. สัญญาซื้อขายเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าภาคครัวเรือน เป็นโครงการเดียวที่เปิดสิทธิ์ให้ ณ ขณะเพื่อให้ครบ 100 เมกะวัตต์ ตามโร้ดแมปของกระทรวงพลังงานที่วางไว้ โดยต้องผ่านเงื่อนไข 4 ข้อดังนี้
- การไฟฟ้ายอมให้ผลิตได้ไม่เกิน 10kW ต่อหลังคาเรือน และมีโควต้าต่อชุมชนด้วย ซึ่งต้องปรึกษาการไฟฟ้าที่รับผิดชอบในชุมชนของท่าน
- มิเตอร์ไฟฟ้าต้องเป็น ประเภทที่ 1 (เพื่ออยู่อาศัย) เท่านั้น วิธีการสังเกตว่า บ้านเราเป็นมิเตอร์ประเภทที่ 1 หรือไม่ ให้ดูจากบิลค่าไฟ ที่เราได้รับทุกเดือน ดังรูปครับ
- จะต้องมีหลังคาบ้าน หรือโครงหลังคาบ้านที่พร้อมให้ติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ พลังงานแสงอาทิตย์
- จะต้องขออนุญาติกับการไฟฟ้าใกล้บ้านท่าน ภายใน มิถุนายน 2558 และจะต้องเริ่มขายไฟเข้าระบบ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558
เอกสารเพื่อประกอบการยื่นมีดังต่อไปนี้ครับ
สำหรับบุคคลธรรมดา
1. สำเนาบัตรประชาชน (พร้อมลงนามรับรองเอกสาร) ของผู้ประสงค์จะขายไฟฟ้า
3. สำเนาบิลแจ้งค่าไฟฟ้า ของอาคารที่จะติดตั้ง หรือ หลักฐานแสดงหมายเลขเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า
(พร้อมลงนามรับรองเอกสาร)
4. กรณีผู้ประสงค์จะขายไฟฟ้าเป็นเจ้าของอาคารเอง
- ให้แนบหลักฐานในการแสดงความเป็นเจ้าของอาคาร(พร้อมลงนามรับรองเอกสาร )
5. กรณีผู้ประสงค์จะขายไฟฟ้า ไม่ได้เป็นเจ้าของอาคาร
- ให้แนบหนังสือยินยอมจากเจ้าของอาคาร หรือ สัญญาเช่า (พร้อมลงนามรับรองเอกสาร)
- หลักฐานในการแสดงความเป็นเจ้าของอาคาร (พร้อมลงนามรับรองเอกสาร)
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของอาคาร (พร้อมลงนามรับรองเอกสาร)
สำหรับนิติบุคคล
1. สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามบริษัทฯ (พร้อมลงนามรับรองเอกสาร)
2. สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคล ( ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน ) พร้อมวัตถุประสงค์ให้ดำเนินการเกี่ยวกับการผลิต และ จำหน่ายไฟฟ้า (พร้อมลงนามรับรองเอกสาร และ ประทับตรา)
3. หนังสือมอบอำนาจ กรณีให้ผู้อื่นมายื่นคำขอแทน ( พร้อมลงนามรับรองเอกสาร , ประทับตรา และ ติดอากรแสตมป์ ) สำเนาบัตรประชาชน (พร้อมลงนามรับรองเอกสาร) ของผู้ได้รับมอบอำนาจ
4. สำเนาใบแจ้ง ค่าไฟฟ้า ของอาคารที่จะติดตั้ง แผง Solar cell หรือ หลักฐานแสดงหมายเลขเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า (พร้อมลงนามรับรองเอกสาร และ ประทับตรา)
5. กรณีผู้ประสงค์จะขายไฟฟ้าเป็นเจ้าของอาคารเอง
- หลักฐานในการแสดงความเป็นเจ้าของอาคาร (พร้อมลงนามรับรองเอกสาร และ ประทับตรา)
6. สำเนา ภพ.01 หรือ ภพ. 20 ( ถ้ามี )
7. กรณีผู้ประสงค์จะขายไฟฟ้าเป็นเจ้าของอาคารเอง
- หลักฐานในการแสดงความเป็นเจ้าของอาคาร (พร้อมลงนามรับรองเอกสาร )
8. กรณีผู้ประสงค์จะขายไฟฟ้า ไม่ได้เป็นเจ้าของอาคาร
- หนังสือยินยอมจากเจ้าของอาคาร หรือ สัญญาเช่า
(พร้อมลงนามรับรองเอกสาร และ ประทับตรา)
- หลักฐานในการแสดงความเป็นเจ้าของอาคาร
(พร้อมลงนามรับรองเอกสาร และ ประทับตรา)
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของอาคาร
(พร้อมลงนามรับรองเอกสาร และ ประทับตรา)
เอกสารแสดงคุณสมบัติและข้อมูลทางเทคนิคของระบบผลิตไฟฟ้า (ทางผู้รับเหมาเป็นผู้จัดเตรียม)
1. เอกสารแสดงรายละเอียดคุณสมบัติของแผง Solar Cell
2. เอกสารแสดงรายละเอียดคุณสมบัติของ Inverter
3. Data sheet ของหม้อแปลงที่ต่อกับ Inverter [ Rate Power ( MVA ) , HV / LV Rated Voltage ( kV ), Vector Group , Frequency , Maximum Short Circuit Rating ( kA ) ]
4. แผนผังแสดงที่ตั้งของสถานที่ติดตั้งแผง Solar Cell
5. แผนภูมิระบบไฟฟ้า ( Single Line Diagram ) แสดงการจัดวาง และ การเชื่อมต่อของอุปกรณ์ทั้งหมดและมีวิศวกรรับรองแบบ (พร้อมแนบสำเนาใบประกอบวิชาชีพที่ยังไม่หมดอายุ )
ข้อมูลประกอบการออกแบบ และการทาแผนผังสถานที่
1. ภาพถ่ายเกี่ยวกับอาคารที่จะติดตั้ง
- ภาพด้านหน้าอาคารระบุทิศ
- ภาพด้านข้าง, ด้านหลัง
- ภาพมิเตอร์ไฟฟ้าที่ซื้อ ณ ปัจจุบัน
3. แผนผังแสดงที่ตั้งอาคาร ระบุถนนใกล้เคียง
4. พิกัดดาวเทียม GPS ( ถ้ามี )
การดำเนินการทั้งหมดให้ติดต่อผู้รับเหมาที่จะติดตั้ง ให้เป็นคนดำเนินการยื่นเอกสารให้ทั้งหมด จะสะดวกมากกว่าไปยื่นเองครับผม ^^ แต่ถ้าประสงคจะยื่นเอง ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ
สมาชิกหมายเลข 1853632 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2355022 ถูกใจ, ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1487618 ถูกใจ, ผลึกหิน CrystalStone ถูกใจ, ความดีสวยงามเสมอ ถูกใจ
∨ดู 3 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 4
5. ติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ของยี่ห้อไหนดี ?
หลายคนมักมาสอบถามผมว่า แผงยี่ห้อไหนดี ในวงการมีการให้เกรดของแผงไหม คำตอบคือ “มีแบบอ้อมๆ” ครับ นั่นคือ “Bloomberg PV Module Maker Tiering System” โดยจะมีการจัดเกรดของแผงโซล่าร์เซลล์เป็น 3 ระดับ ไล่ตั้งแต่ดีสุดไปด้อยสุดได้แก่
<update 2014>
Tier-1 Solar Panel คือแผงที่สร้างจากบริษัทที่มีโรงงานของตัวเอง มีแบรนด์ของตัวเอง ไม่มีปัญหาทางการเงินในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา และมีโครงการอ้างอิง 5 โครงการขึ้นไป แผงเหล่านี้ได้แก่ (อาจมีเพิ่มเติมมากกว่านี้)
Phono Solar
Jinko Solar
LG Solar
Yingli
First Solar
REC Solar
Kyocera
Renesola
Trina
Canadian Solar
JA Solar
CNPV
Risen Energy
ET Solar
Solar Frontier
Hanwha SolarOne
Solarworld
BYD
SUNPOWER
Vikram Solar
Hanwha Q-Cells
Tier-2 Solar Panel คือแผงที่สร้างจากบริษัทที่มีโครงการอ้างอิงบ้าง โดยได้รับการสนับจากธนาคารบ้าง มีชื่อเสียงระดับหนึ่ง
Tier-3 Solar Panel คือแผงที่สร้างจากบริษัทที่มีข้อมูลไม่เพียงพอ ไม่แนะนำให้ใช้อย่างยิ่ง
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของการจัดอันดับแผงของ Bloomberg ได้ที่
http://about.bnef.com/content/uploads/sites/4/2012/12/bnef_2012-12-03_PVModuleTiering.pdf
noksamui ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1853632 ถูกใจ, duen07 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2355022 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1130897 ถูกใจ, ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1487618 ถูกใจ, เที่ยวไหมพี่ ถูกใจ
∨ดู 1 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 5
6. ติดตั้งกับหลังคาได้ทุกประเภทไหม ?
หลังคาทุกประเภทสามารถติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ได้ เพราะหลังคาเป็นส่วนที่รับแรงน้อยมาก จุดรับแรงที่แท้จริงก็คือ ตัวแปหลังคาที่อยู่ภายในมากกว่า ด้วยประสบการณ์สิ่งที่ผมตรวจสอบประจำมีดังนี้
- หลังคาอายุไม่เกิน 10 ปี มักไม่ค่อยมีปัญหา
- หลังคาที่ต้องตรวจสอบมากๆ คือแปไม้ ครับ
28
5
3
4
วันเสาร์ เวลา 15:17 น.
วันเสาร์ เวลา 15:20 น.
วันเสาร์ เวลา 15:14 น.
วันเสาร์ เวลา 15:07 น.
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
รูปที่ 20 การติดตั้งภายใต้โครงสร้างไม้ เป็นสิ่งต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
- เช็คโครงสร้างภายใต้หลังคาว่าอยู่ในสภาพที่ดี โครงสร้างที่แย่ จะส่งผลต่อกระเบื้องหลังคาได้ด้วย ดังรูป
รูปที่ 21 ลักษณะหลังคาที่ต้องพึงระวัง
หลังคาเรียงกันเป็นคลื่น ไม่สม่ำเสมอ ตัวกระเบื้องแตกเป็นรอย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าโครงสร้างที่รองรับมีปัญหาครับ
- หลังคา Metal sheet มักไม่ค่อยมีปัญหา เนื่องจากอายุการใช้งานยังไม่เยอะ และตัวแผ่น Metal sheet ค่อนข้างเบา
- ปกติอุปกรณ์แผงโซล่าร์ที่ติดตั้งบนหลังคา จะมีโหลดประมาณ 10kg ต่อตารางเมตร เราจะต้องมาพิจารณาแปที่รองรับว่า (1) ทำด้วยวัสดุอะไร ไม้ เหล็กกล่อง รางซี เป็นต้น (2) ขนาดแปเท่าไหร่ (3) อายุการใช้งานเท่าไหร่ (4) ชนิดแผ่นมุงหลังคา และน้ำหนักต่อตารางเมตรโดยประมาณ
หลังจากนั้นต้องปรึกษา วิศวกรโครงสร้าง เพื่อดูว่า แปหลังคาสามารถรับโหลดได้เพิ่มอีก กี่ kg/m2 นั่นแหล่ะถึงจะบอกได้ว่า สามารถติดตั้งโซล่าร์เซลล์ได้หรือไม่ครับ
ถึงเวลาติดตั้งจริงแล้ว
การติดตั้งว่ากันโดยหลักการง่าย แบ่งเป็น 3 แบบ คือ
1. แบบขั้นยึดกับจุดยึดเดิมของหลังคา (สำหรับหลังคาที่มีน๊อตยึดอยู่แล้ว)
2. แบบเจาะกระเบื้องหลังคา
3. แบบสอดใต้กระเบื้อง
แบบยึดกับจุดเดิมของหลังคา เราอาศัยจุดยึดเดิม ซึ่งเป็นน็อตอยู่แล้ว ข้อดีคือไม่ต้องทำการเจาะหลังคา และง่ายในการติดตั้ง โดยมีรูปประกอบการติดตั้ง ดังตัวอย่างข้างล่างนี้ครับ
รูปที่ 22 วิธีการยึดแผงโซล่าร์เซลล์กับจุดยึดเดิมของหลังคา
แบบเจาะกระเบื้องหลังคา ข้อดีคือมีจุดยึดที่แข็งแรง และเลือกตำแหน่งติดตั้งได้ง่าย แต่ต้องใช้กาวยิงซิลิโคนเกรด AE107
รูปที่ 23 วิธีการยึดแผงโซล่าร์เซลล์แบบเจาะกระเบื้อง
แบบสอด จะอาศัยสอดจากช่องว่างของกระเบื้องข้อดีคือไม่ต้องเจาะ หรือรื้อน็อตเดิมเลย รูปแบบการติดตั้งคร่าวๆ เป็นดังนี้ครับ
รูปที่ 24 วิธีการยึดแผงโซล่าร์เซลล์แบบสอดใต้กระเบื้อง
สรุปแล้วคือ
- ติดกับหลังคาได้ทุกประเภท มีทั้งแบบสอด แบบเจาะ และแบบยึดกับน็อตเดิม
- ดูโครงสร้างเป็นหลักว่ารับแรงได้หรือไม่
- ต้องตรวจสอบโดยวิศวกรโครงสร้างเท่านั้น ถึงจะแน่ใจว่าติดตั้งได้จริง
noksamui ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2355022 ถูกใจ, ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ ถูกใจ, RadiorA ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 1487618 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 6
7. ควรรับประกันกี่ปี ?
ปกติผู้ผลิตจะมีมาตรฐานในการรับรองอยู่แล้ว ผมจะขอเอาการรับประกันสูงสุดในท้องตลาดละกันครับ ท่านจะได้มั่นใจว่า เวลาเจอกับผู้ขาย การรับประกันสูงสุด ในตลาดโซลาร์รูฟมันควรเป็นเท่าไหร่
การรับประกันผลงาน (System warranty)
ได้แก่ การเปลี่ยนอะไหล่ (Spare part) ค่าแรงในการแก้ไข และค่าใช้จ่ายในการเดินทางสำหรับบริการ จะอยู่ที่ประมาณ 2 ปี (ถ้าเจอ 3 ปีนี่ถือว่าแจ๋วเลย)
การรับประกันสินค้า (Product warranty)
- แผงโซล่าร์เซลล์ (PV Solar Panel) ตามมาตรฐานต้องเป็นดังนี้
> รับประกันคุณภาพสินค้า 10 ปี
> รับประกันประสิทธิภาพของแผง ตาม IEC Standard คือ
ประสิทธิภาพต้องลดลงไม่เกิน 10% ภายใน 10 ปีแรก
ประสิทธิภาพต้องลดลงไม่เกิน 20% ภายใน 20 ปีแรก
อายุการใช้งานของแผง ส่วนใหญ่จะอยู่ถึง 25 ปี ครับ
- อินเวอร์เตอร์ (Solar Inverter)
> ควรมีประกันคุณภาพสินค้าเป็นเวลา 5 ปี เมื่ออยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน เปลี่ยนใหม่ทันที ไม่มีรอซ่อม
คร่าวๆ ก็น่าจะประมาณนี้ครับผม ^^
noksamui ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2355022 ถูกใจ, ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1487618 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1456897 ถูกใจ
∨ดู 1 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 7
8. หลังติดตั้งแล้วอยู่ได้นานไหม ต้องบำรุงรักษาอย่างไร ?
คำถามยอดฮิตอันหนึ่งเลยว่า เราต้องบำรุงรักษาอะไรมันบ้างไหม
คำตอบคือ ต้องมีอยู่แล้วครับ แต่จะมากบ้าง น้อยบ้างแตกต่างกันไป
หลักการทั่วไป ที่ท่านควรจะทำหลังจากติดตั้งเสร็จนะครับ
1. ตรวจสอบเอกสารในการส่งมอบงานจากผู้รับเหมา ต้องมีให้ครบ
- Single line diagram แผนผังระบบไฟฟ้าฉบับล่าสุด
- รายละเอียดอุปกรณ์ไฟฟ้า คู่มืออุปกรณ์ ของแผงโซล่าร์ และอินเวอร์เตอร์
(ชาร์เจอร์ และแบตเตอรี่ ถ้ามี)
- รายละเอียดแบบในการติดตั้ง
2. หมั่นตรวจสอบมิเตอร์ค่าไฟว่าทำงานได้ปกติ กำลังไฟฟ้า สม่ำเสมอ กิโลวัตต์ สม่ำเสมอ โดยดูจากอินเวอร์เตอร์ได้ครับ
3. ถ้าเริ่มรู้สึกว่าประสิทธิภาพของแผงเริ่มลดลง เราควรจะเพิ่มแผงเพื่อให้กำลังไฟเท่าเดิม แต่ต้องขออนุญาติจากการไฟฟ้าก่อนนะครับ
- ถ้าบ้านเรือนทั่วๆ ไป มีฝุ่นอยู่ในระดับปกติ ก็ไม่ต้องทำอะไรกับมันมาก บ้านผมอยู่มา 7 ปีแล้ว ยังไม่ได้ขึ้นไปเช็ดฝุ่น หรืออะไรเลยครับ วิธีการตรวจสอบก็ง่ายๆ ดูที่บิลค่าไฟในแต่ละเดือนว่าเทียบเดือนเดียวกันจากปีที่แล้ว ควรจะใกล้เคียงกัน แต่ถ้ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ก็น่าจะลองขึ้นไปตรวจสอบ และทำความสะอาดบ้างครับ
- บางพื้นที่มีฝุ่นเยอะมาก เช่นโรงงานน้ำตาล จะมีกากละอองน้ำตาลปลิวมาเกาะ เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ลูกค้าจะจ้างคนมาทำความสะอาดหลังคาเป็นรอบๆ ไปครับ
การทำความสะอาด แนวทางที่ถูกต้อง
1. อ่านคู่มือของแผงโซล่าร์ให้ชัดเจน ถึงวิธีการทำความสะอาด
2. สำรวจว่าได้ทำการปิดวงจรไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว และสำรวจว่าไม่มีส่วนไหนของแผงแตก ชำรุด ข้อต่อของสายไฟถ้าหลวม ให้ทำการขันให้แน่น
3. หยิบกิ่งไม้ ใบไม้ ขยะที่ปลิวมา ออกจากแผง และตัดกิ่งไม้ที่บังแผงตามเหมาะสม
4. ทำความสะอาดด้วยผ้า หรือโฟมชุบน้ำอุ่น ผสมน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่กัดกร่อน สูตรน้ำยาที่แนะนำคือ
- น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วยตวง
- สบู่หรือผงซักฟอกที่ไม่กัด 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำอุ่น 2 ถ้วยตวง
ผสมทั้งหมดในขวดสเปรย์ ใช้ฉีดเพื่อทำความสะอาดแผงครับ
noksamui ถูกใจ, moccavipkream ถูกใจ, duen07 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2355022 ถูกใจ, ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ ถูกใจ, RadiorA ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 1752968 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 8
9. มีการคำนวณง่ายๆ ไหม สำหรับเพื่อขาย หรือใช้ไฟในบ้านเราเอง
ผมขอรวบรวมคำถามที่ผมเจอประจำ มาลงไว้ในตารางข้างล่างนี้เลย และผมจะอัพเดตอะไรใหม่เรื่อยๆ เพราะไม่อยากไปเขียนที่อื่น 55 เอาทีเดียวใช้งานได้ และอัพเดต ดีไหมครับ ^^
ตารางการคำนวณพื้นฐาน โซล่าร์เซลล์บนหลังคา
1
1
0
วันเสาร์ เวลา 15:30 น.
วันเสาร์ เวลา 15:33 น.
วันเสาร์ เวลา 15:35 น.
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
แก้ไขข้อความเมื่อ วันเสาร์ เวลา 15:40 น.
obst ถูกใจ, noksamui ถูกใจ, moccavipkream ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2355022 ถูกใจ, ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1619332 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2104779 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1487618 ถูกใจ, HamburgerMan ถูกใจ, กุ้งเต้นชามะนาว ถูกใจ รวมถึงอีก 4 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 9
10. สรุปแล้วมันคุ้มไหม ? (ข้อแก้ไขข้อนี้ครับ เนื่องจากเป็นความคิดเห็นส่วนตัว จึงอยากเขียนเป็นกลางๆ เพื่อไม่ให้ขัดแย้งกับเพื่อนสมาชิกครับ ^^)
ถึงตอนนี้ผมว่าทุกคนคงได้ข้อมูลที่ได้รับไปครบถ้วน และค่อนข้างละเอียด คนที่จะตอบได้ว่าคุ้มหรือไม่ คือตัวท่านเอง
สิ่งที่ได้จากการติดแผงโซล่าร์ที่คุ้มที่สุดคือการขายไฟ ซึ่งมีสัญญาอยู่ที่ 25 ปี การคืนทุนอยู่ระหว่าง 5-8ปี แล้วแต่ต้นทุนของแต่ละท่าน
IRR อาจจะวิ่งอยู่ประมาณ 10-20% ขึ้นอยู่วิธีคิด เช่น รวมค่าเสียโอกาสจากการฝากเงิน จะน้อยลงกว่านี้
ส่วนค่าไฟที่วิ่งแต่ละเดือน ให้ดูจาก ความคิดเห็นที่ 26 ได้ครับ ก็คือ เฉลี่ย หน้าฝน+หน้าหนาว (6 เดือน) ตกเดือนละ 907x6.85=6,200 บาทต่อเดือน (แต่ถ้ารวมหน้าร้อนก็จะเฉลี่ยที่ 7000 บาท/เดือนครับ)
ตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นผลในเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ท่านลองจินตนาการดูสิครับ ว่าถ้าทุกบ้านมีแผงโซลาร์เซลล์ ติดอยู่ มากบ้างน้อยบ้าง ตามกำลังทุน ประเทศเราจะเปลี่ยนไปได้มากแค่ไหน
และนั้นคือวัตถุประสงค์ของบทความนี้ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ วันอาทิตย์ เวลา 12:48 น.
Lastquarter ถูกใจ, noksamui ถูกใจ, เปลี่ยนชื่อ 3 รอบแล้วเพิ่งผ่าน ถูกใจ, moccavipkream ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1853632 ถูกใจ, Florist Blossom ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2355022 ถูกใจ, NanSanSon ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1212664 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2343609 ถูกใจ รวมถึงอีก 8 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
∨ดู 2 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 10
ถ้าคืนทุนประมาณ 5-7ปี และมีอายุใช้ต่อได้ถึง 25ปีก็น่าสนใจมากครับ
แต่ผมห่วงแค่สองอย่างคือ หนึ่ง ราคารับซื้อจะคงในระดับนี้ได้นานจริงไหม ยิ่งถ้าหลายบ้านหันมาขาย หน่วยงานภาครัฐจะมีเงินอุดหนุนในระยะยาวหรือเปล่า เพราะค่าไฟต่อหน่วยของแสงอาทิตย์สูงกว่าแหล่งอื่นพอสมควร ที่เค้ายอมจ่ายเพื่อให้มีคนใช้เทคโนโลยีกันเยอะๆ จะได้พัฒนาต่อได้ ซึ่งผมเป็นห่วงเรื่องสายป่านของทุนที่รัฐเอามาอุดหนุนนี่แหละ
สอง เทคโนโลยีด้านนี้มันพัฒนาเร็วไหมครับ ถ้ามันไปเร็วคนคงไม่กล้าลงทุนเพราะกลัวตกรุ่น กลัวรุ่นใหม่จะผลิตได้ดีกว่าตัวปัจจุบัน แต่ถ้าเทคโนโลยีนี้นิ่งๆแล้ว ก็น่าจะจูงใจได้ดีขึ้นครับ
noksamui ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2141067 ถูกใจ, ยิ้มเหงา ๆ เศร้าพองาม ๆ ถูกใจ, zugar15 ถูกใจ, เที่ยวไหมพี่ ถูกใจ, TorTong ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 871639 ถูกใจ
∨ดู 3 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 11
การเช็คหน่วยมิเตอร์ขายคืน การไฟฟ้าจะมีคนมาเช็คเองหรือยังไงครับ
สมมุติรายได้สูงสุด 10kw x6.85= 6,850 บาท/เดือน ลงทุน 700,000 บาท
6,850x12 = 82,000บาท/ปี ระยะเวลาคืนทุน = 700,000/82,000 = 8.53 ปี
นี่ต้องอยู่บนพื้นฐาน maintanance fee = 0 และ ต้องขายได้ หน่วย 6.85 บาท/เดือน
ผลตอบแทน คิดเป็น 82,000/700,000 = 11.7%
ไม่ใช่ 25% น่ะครับ. ถ้า 25% น่าสนเลยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ วันเสาร์ เวลา 16:56 น.
∨ดู 9 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 12
ถ้าใครมีศักยภาพที่จะทำได้ ทำเถอะครับ
ไม่ต้องห่วงการไฟฟ้าว่าจะขาดทุนหรอกครับ
เพราะมีลิมิตว่ารับไม่เกินเท่าไหร่ในแตละรอบ
แต่ถ้าเราสามารถลดการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศได้
เราก็น่าจะทำ เพื่ออนาคตของลูกหลาน ที่ต่อไปไม่ต้องกลัวว่า
จะไม่มีไฟให้ใช้ครับ
MachineGun ถูกใจ, noksamui ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 13
มีคนแชร์ไว้ครับเพื่อเปนประโยช แก่ผู้สนใจ
4
2
1
3
17
วันเสาร์ เวลา 16:07 น.
วันเสาร์ เวลา 16:42 น.
วันเสาร์ เวลา 16:55 น.
วันเสาร์ เวลา 15:37 น.
วันเสาร์ เวลา 15:42 น.
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
สมาชิกหมายเลข 2048558 ถูกใจ, duen07 ถูกใจ, ผมก็รู้จักคุณ ถูกใจ, mondll ถูกใจ, annsc78 ทึ่ง, krit tasana ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 14
ติดดาดฟ้าตึกแถวได้ไหมครับ พื้นที่ประมาน 4*8ม.
∨ดู 2 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 15
สงสัยว่า แผงฯที่ล็อคตายตัว หันหน้าไปทางทิศใต้ ให้ประสิทธิภาพมากที่สุด แต่แสงแดดยามเช้า จะไม่ตรงหรือตั้งฉากกับแผงฯ ก็จะผลิตไฟได้น้อย
น่าจะมีการค้นคิดให้ปรับแผงรับแสงให้เคลื่อนที่ทำมุม 90 องศา กับแสงอาทิตย์ตลอด เหมือนจอเรด้า จะทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และมีความเป็น
ไปได้มากน้อยเพียงใด แน่ละต้นทุนย่อมต้องสูงขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ วันเสาร์ เวลา 18:02 น.
naytee ถูกใจ
∨ดู 2 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 16
น่าสนใจมากกกกกก
ความคิดเห็นที่ 17
ได้ประโยชน์มาก ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 18
ของคุณครับเก็บไว้อ่านอีกที
ความคิดเห็นที่ 19
เรื่องรายได้จากการขายนั้น การไฟฟ้ารับซื้อที่ราคา 6.85 ไม่เกินค่า Capacity factor 14.84% ครับ
ไม่ได้รับซื้อทั้งหมดที่ผลิตได้
เช่น ติดที่ 10 Kw น่าจะผลิตไฟได้ประมาณ (10 Kw * 4.5 ชม.ต่อวัน * 365 วัน) = 16425 หน่วยต่อปี (บางท่านอาจคิดแค่ 80% ของจำนวนนี้เนื่องจากการสูญเสียระหว่างการผลิต)
แต่การไฟฟ้าจะรับซื้อที่ราคา 6.85 บาท จำนวน 12,999 หน่วยต่อปี (10*365*24*14.84%)
ส่วนที่เหลือจะรับซื้อไม่เกิน 6.85 บาท บางท่านว่าน่าจะได้อยู่ที่ 3 บาทกว่าๆ
สมาชิกหมายเลข 1456897 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 20
แล้วอีกหน่อยถ้าราคาที่การไฟฟ้ารับซื้อถูกกว่าราคาที่การไฟฟ้าขายเราทำไงครับ
เพราะเท่าที่ดูราคารับซื้อ 6 บาทนี่ตลอด 25 ปีใช่มั้ยครับ
∨ดู 3 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 21
ขอแปะเพิ่ม เรื่อง grid inverter หน่อยนะครับ
เนื่องจากราคาของ ระบบ solar PV roof top ที่บริษัทต่างๆ เสนอขายให้ผู้สนใจนั้น
มี grid inverter เป็นต้นทุนอยู่ด้วยประมาณ 20%
และ grid inverter แต่ละยี่ห้อในกำลังผลิตที่เท่ากัน ราคาอาจต่างๆ กันถึง 80%
ดังนั้น ท่านผู้สนใจควรทำการศึกษาเรื่อง grid inverter ไว้ด้วยครับ
โดยเฉพาะการรับประกัน หากซื้อเพิ่มได้ถึง 10 ปี เป็นผมก็ซื้อประกันเพิ่มครับ
อันนี้เป็นการให้คะแนนของผู้เชี่ยวชาญสำหรับแต่ละ ยี่ห้อครับ
7
0
0
0
0
0
0
0
วันเสาร์ เวลา 19:57 น.
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
http://www.cleanenergyreviews.info/solar-inverters
ความคิดเห็นที่ 22
คิดผลตอบแทนมั่วมาก ขายได้ 7-8พันต่อเดือน ไม่หักต้นทุน ยังไม่ถึงเลย
ไหนจะค่าบำรุงรักษา การเสื่อมคุณภาพของแผง
ถ้าดูแล้วน่าจะได้ไม่เกิน7% แต่ผมว่าได้5% เท่าแหละคุณฝากธนาคาร1แสนดอก5% เขาจ่ายให้ทุกปี 25ปี ถอนต้นคืน
ไอ้solar panels ไปถอนกับใคร มันหมดสภาพไปแล้ว
Top_General ถูกใจ, duen07 ถูกใจ, ไนท์นะ ถูกใจ, ตาแป๊ะหวานเย็น สยอง, Dr.Jay ถูกใจ
∨ดู 3 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 23
รายได้จากการขายไฟฟ้านี้ ต้องนำไปเสียภาษีเงินได้ไหมครับ ?
noksamui ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2141067 ถูกใจ
∨ดู 4 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 24
0
3
1
0 หมูอวบ
วันเสาร์ เวลา 20:48 น.
วันเสาร์ เวลา 21:12 น.
วันเสาร์ เวลา 21:04 น.
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ความคิดเห็นที่ 25
ที่บอกว่าแบ่งเบาภาระการไฟฟ้า นั้นโกหกเห็นๆ น่าจะเพิ่มภาระด้วยซ้ำ
โซล่าเซลล์ เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าความมั่นคงต่ำ มีความไม่แน่นอนในการผลิตสูง
แถมต้องจ่ายเงินเพิ่มให้ผู้ผลิตอีก
การคำนวน กำลังผลิตของแผงโซล่าเซลล์ โดยมากจะคำนวน ตามที่การไฟฟ้าจ่ายให้สูงสุด คือ 14.84%
หรือ ประมาณ 730 บาท/1Kw/เดือน หรือ ประมาณ 3.56 ชั่วโมงต่อวัน
อย่างที่ จขกท. บอก ประมาณ 700 บาท/เดือน ต่อ แผง 1 kW
ถ้าติดขนาด 10kW ก็ฟันเนาะ 7,000 บาท/เดือน
เอาละลองมาดูผลตอบแทนที่แท้จริง ว่ามันถึง 20% หรือเปล่า
เอาแบบง่ายๆ สูงสุดที่จะได้รับ คือ 7,000 * 12 เดือน ก็คือ 84,000 บาท
อันนี้แบบ ไม่เสีย ไม่เสื่อม (ของจริง ไม่มีหรอกครับ แบบนี้)
ลงทุน เอาตามเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่ จขกท บอกแล้วกัน 5 แสน ยังได้แค่ 16.8%
แถมเป็นผลตอบแทนแบบไม่คืนทุน ถ้าคิดแบบหักทุน ก็เหลือ 12.8%
แต่เอาเข้าจริงๆ นี่ได้ 7% ผมก็ว่าหรูแล้ว
ผม สงสัยมากถ้ากำลังผลิตมันดี ขนาดนั้น
ทำไม ผู้ขายไม่รับประกัน กำลังการผลิต ล่ะ บอกว่าเดือนละ 700 บาท/เดือน/1kW
ผู้จำหน่าย รับประกันสัก 400 บาท/เดือน/1kW ก็พอ ยังเห็นมีที่ไหนทำ
หรือแม้แต่เช่าหลังคาบ้าน ทำก็ยังไม่เห็นทำกันเลย
ว่าด้วย เรื่องฤดูกาลประเทศไทย
- ฤดูร้อน อากาศร้อน ประสิทธิภาพของแผงโซล่าเซลล์จะลดต่ำลง เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
- ฤดูฝน ฝนตก ฟ้าปิดบ่อย แน่นอนส่งผลต่อการผลิต
- ฤดูหนาว ดีหน่อยอุณหภูมิไม่สูง ผลิตได้เต็มที่ แต่มัน 4 เดือนเท่านั้นจ๊ะ
ถ้าคำนวนตาม ฤดูกาล เขาว่าได้เดือนละ 7000 บาท ที่ 10kW
ฤดูร้อน ให้สัก 80% 4 เดือน จะได้ 7000*4*80% = 22,400 บาท
ฤดูฝน ให้ 50% 4 เดือน 7000*4*50% = 14,000 บาท
ฤดูหนาวให้ 100% 4 เดือน 7000*4*100% = 28,000 บาท
รวม 70,000 บาท/ปี ถ้าลงทุน 5 แสน จะได้ผลตอบแทน 14%
ถ้าหักทุนไปอีก ก็เหลือ 10%
อันนี้อย่างมาก ผมให้ 5% ก็หรูแล้ว
คิดไปคิดมา ฝากธนาคารดีกว่าไหม ทุนไม่หายด้วย
ถ้าที่ว่ามาผมกล่าวไม่ถูกต้อง
จขกท หรือ ผู้ผลิต หรือ ผู้จำหน่าย
เอาหลักฐาน Data logger การผลิต มาดูเลยว่าได้เท่าไร ในแต่ละวัน แต่ละฤดู
จขกท. บอกมาติดมา 7 ปีแล้ว มีบันทึกไหมว่า ได้เท่าไร ในแต่ละวัน เอามาชม
ibara ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 990740 ถูกใจ, noksamui ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 2141067 ถูกใจ, เสียงดัง ฟังชัด ถูกใจ, เปลี่ยนชื่อ 3 รอบแล้วเพิ่งผ่าน ถูกใจ, ค้างคาววอแว ถูกใจ,LifeAsQuant ถูกใจ, KeyboardWarrior ถูกใจ, 826 ถูกใจ รวมถึงอีก 9 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
∨ดู 9 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 26
ผมเอาข้อมูลของพี่ท่านหนึ่ง ติด 9.7 Kw มาแบ่งปันนะครับ ลองเทียบดูกับฤดูกาล
13
19 อิทธิพงษ์
วันเสาร์ เวลา 22:03 น.
ตอบกลับ
http://www.yuthtrai.com/2015/01/22/solarcellmeter/
สมาชิกหมายเลข 1260978 ถูกใจ, oxidation ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1456897 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 27
1
0
3 หมูอวบ
วันเสาร์ เวลา 22:57 น.
ตอบกลับ
ความคิดเห็นที่ 28
ขอบคุณข้อมูลดีๆมีประโยชน์
ปรบมือให้ตัวเองด้วยที่อ่านจนจบได้
ความคิดเห็นที่ 29
ขอบคุณบทความดีๆ ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ในเวบไซต์พลังงานแสงอาทิตย์ครับ
เฟสบุ๊คเพจ : https://www.facebook.com/LikeSolarCell
เวบไซต์ : http://www.xn--12cmaam3eno6bybj3a2e7ak2dmhe5b1u9a3ktd.com/?p=1330
แก้ไขข้อความเมื่อ วันอาทิตย์ เวลา 00:01 น.
ไร้แก่นสาร ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 30
ขอบคุณมาก ครับ กำลังหาข้อมูล อยู่พอดี
ความคิดเห็นที่ 31
หาทีมรับติดตั้ง ขาย แผงโซลาเซลล์ น่าจะได้ผลตอบแทนดีกว่า
ส่วนผุ้ที่อยากติดตั้งที่บ้าน แนะนำให้ คิดให้ ดีๆ เพราะ มีปัญหาเรื่องการคืนทุน
ความเสื่อมของอุปกรณ์ ไม่นับเรื่องโครงสร้าง หากไปติดที่หลังคา ที่ไม่ได้ออกแบบ
เผื่อไว้ อาจทำให้หลังคารั่วได้
826 ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 1260978 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 32
เพื่อนผมก็หาอยู่ แผงพลังงานแสงอาทิตย์
เห็นบอกจะเอาสัก 300 kw แต่อยู่กาน่า แดดมาเต็ม
ความคิดเห็นที่ 33
จาก คห.19
"การไฟฟ้ารับซื้อที่ราคา 6.85 ไม่เกินค่า Capacity factor 14.84%
แต่การไฟฟ้าจะรับซื้อที่ราคา 6.85 บาท จำนวน 12,999 หน่วยต่อปี (10*365*24*14.84%)"
"ติดที่ 10 Kw น่าจะผลิตไฟได้ประมาณ (10 Kw * 4.5 ชม.ต่อวัน * 365 วัน) = 16425 หน่วยต่อปี"
"ที่เหลือ ให้ที่ 3 บาท"
เพราะฉะนั้น จะเป็นรายได้
(6.85 * 12,999) + (3424 * 3) = 99,315.15 บาท ต่อปี ; ไม่คิดอัตราการสูญเสียจากการผลิต
ถ้าต้องเสียภาษี 10% จะเหลือรายได้ : 99,315.15 *0.9 = 89,383.635 บาทต่อปี
ถ้าลงทุน 7 แสน จะคืนทุนใน 700,000/89383.635 = 7.8 ปี ; ไม่คิดค่าเสื่อมอุปกรณ์ และค่าบำรุงรักษา
นั่นคือ เงินจะจม ไป 7.8 ปี ( 8 ปี ) ผลตอบแทนคือ แผงมือสอง ที่ผ่านการใช้งานมา 8 ปี
ถ้าลงทุน 10 ปี ผลตอบแทนคือ (89,383.635 *2) + แผงมือสองอายุ 10 ปี = 178,767.27+ แผงมือสองอายุ 10 ปี
คิดเป็น 25%<ต่อสิบปี> + [แผงมือสองอายุ 10 ปี]
ตัวแปรอยู่ที่ แผงมือสองอายุ 10 ปี จะเหลือมูลค่าเท่าไหร่?? (ผมไม่รู้) แทงก๊ั๊กมั่วๆ จากเสื่อมสภาพ และเทคโนโรยีใหม่ๆ
ให้ราคาเหลือ 30% = 700,000*0.3 = 210,000 บาท
หลังจากผ่านไปสิบปี เมื่อหักเงินลงทุน7 แสนบาทแล้ว จะได้เงินมาทั้งสิ้น = 178,767.27 +210,000 บาท =388,767.27 บาท
คิดเป็น 55.53 % ในสิบปี เป็นผลตอบแทน
แบบทบต้น x^10 = 1.5553 --> x = 1.045 --> 4.5% ต่อปี
หรือถ้าคิดแบบหารเฉลี่ยเท่าๆกัน 5.553% ต่อปี
โดยต้องแบกรับความเสี่ยง
1.เรื่องค่าบำรุงรักษา
2.ความไม่แน่นอนองแสงแดด
3.ค่าเสียโอกาสเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่น
4.เงินเฟ้อ (ส่วนตัวชอบใช้อัตราเงินเฟ้อราคาข้าวแกงเป็นฐาน จะประมาณ 5-7% ต่อปี)
5.หากทุกคนติดโซล่ารูฟ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ต้นทุนค่าไฟจะแพงขึ้น นั่นคือ ค่าไฟตามบ้านจะสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ
(แต่ได้การรักษาธรรมชาติมาทดแทน) note : ยังไงต้นทุนจากถ่านหินก็จะต่ำกว่ามาก*** แน่นอน
ความคุ้มค่า
1.ไม่คุ้มค่าอัตราเงินเฟ้อราคาข้าวแกง
2.ลงทุนหุ้นพื้นฐาน 10 ปี คุ้มกว่าเยอะนะผมว่า (ฝากกองทุนก็ยังดี)
3.ฝากเอาไว้เป็นสภาพคล่องยังคุ้มกว่า ; สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้มีเงินเหลือเยอะแยะอะไร
4.ได้การรักษาธรรมชาติมาแทน
สรุป
เป็นเทคโนโรยีที่ดี แต่ยังไม่ถึงเวลาที่นำมาใช้จริง ยังต้องการการพัฒนาเรื่อง ราคาขายต่อประสิทธิภาพ อีกเยอะพอสมควร
การนำเอาเทคโนโรยีที่ไม่พร้อม มารีบใช้งาน แม้ว่าเทคโนโรยีนั้นจะดีมาก ก็จะมีแต่ผลเสียครับ
note : เท่าที่ได้อ่านข่าวงานวิจัย เห็นว่าในอนาคต น่าจะผลิตใช้เทคโนโรยีนี้ได้ในประสิทธิภาพที่ดีกว่านี้มาก รวมไปถึงการติดตั้งและความสวยงามด้วย จะให้ติดตั้ง คงต้องรอทุกอย่างพร้อมกว่านี้
ขนมสาคู ถูกใจ, เปลี่ยนชื่อ 3 รอบแล้วเพิ่งผ่าน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1456897 ถูกใจ, Top_General ถูกใจ, starjoke20 ถูกใจ, ไร้แก่นสาร ถูกใจ, KeyboardWarrior ถูกใจ, Walk Two Moons ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1255328 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1260978 ถูกใจ รวมถึงอีก 1 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
∨ดู 2 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 34
ว่าจะถามเรื่องอัตราเงินเฟ้ออยู่พอดี 25 ปีรับอยู่ราคาเดียวถ้าไม่ปรับราคาขายขึ้น เอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นดีกว่าเนอะ
ความคิดเห็นที่ 35
เหมือนเซลล์มาเอง
สมาชิกหมายเลข 990740 ถูกใจ, อพาร์ตเมนต์ การลงทุนทางเลือก ถูกใจ, Top_General ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 755138 ถูกใจ, Walk Two Moons ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1260978 ถูกใจ
∨ดู 1 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 36
คนแบบ จขกท มันอันตรายมาก ดูเป็นคนพอมีความรู้
แต่กำลังมีผลประโยชน์แอบแฝง
พูดความจริงได้หรือเปล่าครับ อย่ามาหลอกคนไทยด้วยกัเลย
และถ้าไปพูดให้ชาวบ้านฟังโดยไม่มีแย้ง เท่ากับคุณหลอกเอาค่าขายของ
สมาชิกหมายเลข 990740 ถูกใจ, ยาหม่องตราลิงถือประแจ ถูกใจ, Top_General ถูกใจ, duen07 ถูกใจ, maetel ถูกใจ, Autster ถูกใจ, ค้างคาววอแว ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 863441 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1020078 ถูกใจ, Joke_Thanawat ถูกใจ รวมถึงอีก 2 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 37
ผมเคยลองคิด ระยะเวลาคืนทุน ไม่น่าจะต่ำกว่า 10 ปี และพวกโซลาห์เซลล์ มันก็ทำงานได้สัก 60% นี่ก็นับว่าน่าจะดีมาก ๆ แต่จริง ๆ น่าจะต่ำกว่า
ถ้าผมจำไม่ผิด มีโครงการนึง แอบเอาไฟการไฟฟ้า มาขายผ่านโครงการโซลาห์เซลล์ด้วย แต่โดนตรวจเจอซะก่อน
∨ดู 1 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 38
นี่มันเหมือนจะไม่ใช่บทวิเคราะห์ เพื่อการศึกษาหรือให้ความรู้แก่บุคคลทั่วไป
แต่มันน่าจะเป็นโบร์ชัวร์ขายสินค้ามากกว่า
สิ่งที่อยากรู้จริงๆ
ค่าเสื่อม
ค่าบำรุงรักษา
ค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งาน
สรุปก็คือ ลงทุนครั้งแรกแล้ว ยังต้องโดนตอดเล็กตอดน้อยอีกเท่าไหร่
เพราะเมื่อจ่ายเงินก้อนแรกไปแล้ว เหมือนจะไม่มีทางเลือกต้องจ่ายยิบย่อยไปเรื่อยๆนี่มันน่าเจ็บใจ
สมาชิกหมายเลข 990740 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2141067 ถูกใจ, เปลี่ยนชื่อ 3 รอบแล้วเพิ่งผ่าน ถูกใจ, Top_General ถูกใจ, maetel ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1672983 ถูกใจ,Joke_Thanawat ถูกใจ, KeyboardWarrior ถูกใจ, 826 ถูกใจ, Walk Two Moons ถูกใจ รวมถึงอีก 1 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 39
0
0
1
0
6
1
2
5
1
4
วันเสาร์ เวลา 23:57 น.
วันอาทิตย์ เวลา 01:17 น.
วันอาทิตย์ เวลา 05:21 น.
วันอาทิตย์ เวลา 06:02 น.
วันอาทิตย์ เวลา 05:29 น.
วันอาทิตย์ เวลา 07:34 น.
วันอาทิตย์ เวลา 06:49 น.
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ความคิดเห็นที่ 40
..........
............รายย่อย กำลังจะโดนหลอกให้ติด Solar cell แล้ว
ผลประโยชน์ที่ได้ ไม่ได้เป็นอย่างที่เสนอมาก
วาดฝันครับ
โอกาสขาดทุนมีมากเหลือเกิน
Top_General ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 863441 ถูกใจ, Joke_Thanawat ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 41
ถ้าลงทุนซื้อเพื่อติดหลังคาบ้านไม่คุ้มครับ ค่าบำรุงรักษาสูงมากเนื่องจากเป็นอุปกรณ์ Electronic ซึ่งต่างจาก Mechanic ซึ่งมีความเปราะบาง เสีย/ชำรุดได้ง่าย แต่ถ้าทำเป็นฟาร์มจะคุ้มกว่าเนื่องจากเป็น Massive production อีกทั้งจะมีค่าคาร์บอนเครดิตมาเฉลี่ยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย
ความคิดเห็นที่ 42
เดี๋ยวนะ ผมติดใจอยู่ข้อนี้ครับ
" 10. สรุปแล้วมันคุ้มไหม ?
ถึงตอนนี้ผมว่าทุกคนคงได้ข้อมูลที่ได้รับไปครบถ้วน และค่อนข้างละเอียด คนที่จะตอบได้ว่าคุ้มหรือไม่ คือตัวท่านเอง
ลองถามตัวเองดูว่า การลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ ไม่ต้องดูแลมาก ผลตอบแทนสูงสุด 20% ต่อปี เป็นเวลาสูงสุดที่ 25 ปี ลดการใช้พลังงาน ลดการนำเข้าน้ำมัน ลดการใช้ถ่านหินที่เป็นมลภาวะของโลก
ตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นผลในเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ท่านลองจินตนาการดูสิครับ ว่าถ้าทุกบ้านมีแผงโซลาร์เซลล์ ติดอยู่ มากบ้างน้อยบ้าง ตามกำลังทุน ประเทศเราจะเปลี่ยนไปได้มากแค่ไหน
- โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ถ่านหินก็จะถูกลดความสำคัญลงไป
- น้ำมันจะนำเข้าน้อยลง
- สิ่งแวดล้อมจะดีขึ้น
- จะมีการจ้างงานมากขึ้นในสายงานพลังงาน
และนั้นคือวัตถุประสงค์ของบทความนี้ครับ"
------------------------------------------------------------------------------------
- โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ถ่านหินก็จะถูกลดความสำคัญลงไป
อันนี้ผมว่าไม่ถูกต้องเต็มร้อยนะครับ ยังไงปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้จาก PV ต่อหน่วยพื้นที่ไม่น่าจะเท่ากับถ่านหินกับนิวเคลียร์นะครับ ไม่ต้องนับถึงความเสถียรหรอก แต่ถ้าแค่ใช้ในบ้านพอไหวครับ จะขายเชิงพาณิชย์ลำบาก ขนาดอเมริกา โรงไฟฟ้าแบบรวมรังสีอาทิตย์ยังไม่ค่อยเวิร์คเท่าไรเลย
- น้ำมันจะนำเข้าน้อยลง
ปัจจัยการนำเข้าน้ำมันขึ้นอยู่กับการคมนาคมเป็นส่วนใหญ่นะครับ
- สิ่งแวดล้อมจะดีขึ้น
ไม่ทราบว่าเคยอ่านข้อมูลวัฏจักรคาร์บอน ของการผลิตแผ่น PV ยังครับ ในกระบวนการผลิตมันผลิต CO2 ออกมาไม่น้อยเลยนะครับ คำนวณเฉลี่ยเทียบกับอายุการใช้งานแล้ว ถ่านหินดีกว่าอีก
- จะมีการจ้างงานมากขึ้นในสายงานพลังงาน
อันนี้มีส่วนถูกครับ เซลล์ขายอุปกรณ์พวกนี้จะวิ่งเข้าวิ่งออกตามบ้านเยอะขึ้นแน่ๆ
สมาชิกหมายเลข 2141067 ถูกใจ, เพราะว่า...ฉันรักเธอ ถูกใจ
∨ดู 1 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 43
ขอบคุณ..จขกท..มากๆเลยครับ...อ่านแล้วได้ความรู้เพรียบ...ว่างจะเข้ามาอ่านใหม่ขอเฃฟไว้ก่อนครับ
ความคิดเห็นที่ 44
ความคิดเห็นที่ 45
ถ้าให้เลือก ผมขอเป็นคนรับติดตั้งดีกว่า
หมอเมืองเหนือ ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 46
อยากฟังจากคนที่ติดแล้วรู้มากกว่าพวกฟังมาเล่าต่อครับ
บ้านน้องชายพ้มติดจริง ไม่เคยดูแล เลย มา หกปี ไม่รู้จะอยู่ถึง 25หรือเปล่าแต่
ไม่มีหรอกครับเรื่องดูแลขึ้นหลังคงหลังคา แต่อะไรเสื่อมคงเปลี่ยนไปเลย เพราะไม่มีส่วนเคลื่อนไหวอะไร
ความคิดเห็นที่ 47
ุขอรบกวนถาม จขกท ที่บ้านใช้มิเตอร์แบบ TOU เหมาะกับติดตั้งแบบขายไฟคืนไหมครับ?
ความคิดเห็นที่ 48
ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 49
รึจะเนียนขายของ
ความคิดเห็นที่ 50
ผมคิดแล้ว ยังไงๆก็ดูไม่คุ้มครับ
- กำลังการผลิตไฟฟ้า ลดลงเรื่อยๆตามอายุการใช้งาน
- ค่าเสื่อม รับเต็มๆ แถมแผ่นมือ 2 ใครจะรับซื้อ
- ค่าบำรุงรักษา มีตลอด เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา มีค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลา
- อัตราเงินเฟ้อ คิดอะไรไม่ออก เอาไปซื้อทอง ซื้อที่ดิน ปล่อยทิ้งไว้ 20-30 ปี ผมว่ากำไรอาจจะเยอะกว่าเป็น 10 เท่าครับ
- สิ่งแวดล้อม ดีจริงเหรอ พอเวลาผ่านไป เสีย หรือ หมดอายุการใช้งาน มันก็กลายเป็นขยะอิเล็คทรอนิคส์อยู่ดี
- ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก พายุลมแรง ลูกเห็บ ฟ้าผ่า ขอแค่โดนหนักๆ จังๆ เข้าไปทีเดียว จบข่าวเลยครับ โอกาสน้อย แต่ไม่ใช่ไม่มี
- เทคโนโลยีไปเร็ว และ ดีขึ้นทุกวัน เกิดปีหน้า มีคนผลิตแผ่นที่ดีกว่านี้ ถูกกว่านี้ 20-30%ล่ะ คนซื้อวันนี้ ทำยังไง
ความคิดดีครับ แต่มันยังไม่ถึงเวลา ถ้าอีก 10 ปี ใช้แผ่นเท่าเดิม ราคาเดิม แต่ผลิตไฟฟ้าได้เยอะกว่า 2-3 เท่า
เอาให้มันดูแล้ว เห็นถึงความคุ้มค่า และ ผลกำไรที่ชัดเจนกว่านี้ ถึงตอนนั้น ค่อยไปซื้อมาติด ก็ยังไม่สายครับ
สำหรับผม ตอนนี้ มันยังไม่ใช่เวลาครับ
PEDestrain ซึ้ง, เปลี่ยนชื่อ 3 รอบแล้วเพิ่งผ่าน ถูกใจ, Top_General ถูกใจ, ค้างคาววอแว ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 51
แวะมาอ่านค่ะ
สนใจพลังงานสะอาด. แต่การลงทุนสูง รอราคาลงมาแล้วคงน่าสนใจ
ความคิดเห็นที่ 52
20% จิงหรอครับ... คืนทุนใน 5-7 ปีมันตกอยู่แค่ 12% เองไม่ใช่หรอครับ คิดยังไงครับรบกวนอธิบายด้วย
ความคิดเห็นที่ 53
เอาเงิน 7 แสนไปลงทุนอย่างอื่นเหอะ เผลอๆ ได้มากกว่า 7 พันต่อเดือนอีก
รับซื้อคืน 6.85 บาทต่อหน่วย 25 ปี แล้วไหนจะเงินเฟ้ออีกปีละ 5% โดยเฉลี่ย
แผงโซล่าก็มีเสื่อมมีเสีย นั่งคิด นอนคิด ตีลังกาคิด ผมก็ยังไม่เห็นว่ามันคุ้ม
คหสต.
PEDestrain ซึ้ง, Top_General ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 54
ขอเอาไปเผยแพร่นะครับ ^^
ความคิดเห็นที่ 55
แก้ไขข้อความเมื่อ วันอาทิตย์ เวลา 15:38 น.
ความคิดเห็นที่ 56
อืมมมมม ไม่อยากขัดทางทำมาหากินเลย
แต่ไหน เจ้าของกระทู้ช่วยบอกข้อเสียของระบบนี้ให้ฟังหน่อยครับ
ความคิดเห็นที่ 57
การไฟฟ้า เปิดรับคำร้อง ล่ะหรอครับ เรื่องการขายไฟ เห็นว่า พวกที่ยื่นไว้รอบแรก ยังติดตั้งไม่ครบเลย จากที่เคยติดตามนะครับ
ความคิดเห็นที่ 58
มีสาระ
ความคิดเห็นที่ 59
เยี่ยมเลย สาระแน่นครับ เป็นข้อมูลหลายทางสำหรับผู้ที่สนใจ
ความคิดเห็นที่ 60
มีแบบทดสอบไหมครับ จะได้ฝึกทำ อิอิ
เหมือนบทเรียน1วิชาเลย 😂
ความคิดเห็นที่ 61
7แสน ซื้อทาวน์เฮ้ามือสองมาปรับปรุงนิดหน่อย ปล่อยเช่าเดือนละ5-6พันดีกว่ามั้ง ผ่านไปยังไงไม่มีคนเช่า ก็เป็นทรัพย์สิน ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว ต่อให้ทรุดโทรมแค่ไหนก็ยังมีราคา แต่ไอ้แผงอันนี้ ไม่รู้10ปีเกิดเทคโนโลยีพี่จีนดีและถูกมากๆ จากที่ต้องใช้เงิน5-7แสนลงทุน กลับกลายเป็นว่าหาซื้อใหม่ได้ราคา1-2แสน แล้วไอ้แผงเก่าๆโบราณที่เคยซื้อ คงจะมีค่าแค่CDห้อยตูดช้าง
เดินชนกระจก ถูกใจ, PEDestrain ขำกลิ้ง, BlackPenguin ถูกใจ, ปอฝ้ายไหมฝัน ถูกใจ, Top_General ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 62
ความคิดดีแต่ยังไม่ถึงเวลาครับ ต้นทุนสูงมากจนเกินไป ถ้าเป็นโรงงานคงจะคุ้มอยู่ รักโลกนะแต่ราคาไม่น่าคบหา จบข่าว...
ความคิดเห็นที่ 63
เยี่ยมเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ เดวมาอ่านคอมเม้นต่อ
ความคิดเห็นที่ 64
ความรู้แน่นปั๊กกกกก
ความคิดเห็นที่ 65
กราบขอบพระคุณมากค่ะ
ยอดเยี่ยมมากค่ะ
ความคิดเห็นที่ 66
ผมเคยตอบไป เมื่อเดือนที่แล้ว
http://pantip.com/topic/33487736
Solar Farm ยังไม่ค่อยคุ้มทุน
พวก Solar Roof ที่จะให้ใช้ตามบ้าน ยิ่งแพงละไม่คุ้ม ได้กระแสไฟฟ้าน้อยนิด (ถ้าราคาถูก จะดีมาก)
หลอกให้ชาวบ้านควักเงินหมื่นเงินแสน ไปให้พวกนำเข้า Solar Cell มาปล่อยของ
เปลี่ยนชื่อ 3 รอบแล้วเพิ่งผ่าน ถูกใจ, Top_General ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 67
รีบค้นหาที่ขายอย่างเร็วเลย...
ความคิดเห็นที่ 68
เหมาะกับที่ ที่ไฟฟ้าเข้าถึงได้ลำบากมากกว่า ค่าแบตเตอรี่ ก็แพงพอสมควรนะ ไม่ใช่ไม่มีวันเสื่อม เอามาคำนวณหรือยัง
ความคิดเห็นที่ 69
ขอบคุณทุดท่านที่ให้ความคิดเห็น กำลังสนใจอยู่พอดี
ความคิดเห็นที่ 70
มาเก็บความรู้ครับ
ความคิดเห็นที่ 71
ปักมุดไว้ก่อนครับ เดี๋ยวมาอ่านใหม่
ความคิดเห็นที่ 72
ถ้าดวงอาทิตย์ดับนี่....ซวยเลยนะครับ
ไอที่ลงทุนไว้...กลับสูญสลายหายวับไปในพริบตา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นที่ 73
เท่าที่ลองเช็คดูคือ ทำบนตึกแถวหน้ากว้าง 3.5 เมตร ลึก 7 เมตร ลงทุน 350,000 จะได้เงินเดือนละ 3,500 บาท สัญญา 25 ปี กับการไฟฟ้า ตัวแผงโซลาเซลรับประกัน 25 ปี ตัวอินเวอร์เตอร์รับประกัน 10 ปี หมดสัญญาจะได้เงินทั้งสิ้น 1,050,000 บาท หากลงทุน 10 ตึกแถวที่ปล่อยเช่าอยู่ จะเท่ากับลงทุน 3,500,000 บาท ครบ 25 ปีได้เงินรวม 10,500,000 บาท
หากเลือกลงทุนผ่านไฟแนนส์ อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 7% สามารถผ่อนได้ 5 ปี
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
หากเทียบกับซื้อตึก 1 คูหา ลงทุน 3,500,000 จะได้ค่าเช่าประมาณเดือนละ 20,000 บาท ครบ 25 ปี จะได้ทั้งสิ้น 6,000,000 บาท สมมุติว่ามูลค่าตึกเพิ่มที่อัตราปีละ 2% ผ่านไป 25 ปี ราคาควรจะอยู่ที่ 5,700,000 บาท รวมกับค่าเช่าที่ได้มาแล้วจะเท่ากับ 11,700,000 บาท
สรุปซื้อตึกคุ้มกว่า
826 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 703625 ขำกลิ้ง
ความคิดเห็นที่ 74
พูดง่ายๆ ก็คือ การไฟฟ้าขายไฟให้เราที่หน่วยละ 3-4 บาท (update พ.ค.2558) แต่การไฟฟ้ารับซื้อไฟจากเราในอัตราหน่วยละ 6.85 บาท ดังนั้นเราจึงไม่ควรติดตั้งแผงโซล่าร์เพื่อใช้ไฟในบ้านแต่เพียงอย่างเดียว ถ้ามีโอกาสขายได้ เน้นขายเถอะครับ คุ้มกว่ากันเยอะ
ประโยคนี้ใครก็ได้ตีความให้ผมทีขอรับเจ้านาย
∨ดู 2 ความเห็นย่อย∨
ความคิดเห็นที่ 75
เห็นด้วยกับพลังงานทดแทนแต่ไม่น่าที่จะล็อคสเปคเพียงแค่ โซลาร์เซลเพียงอย่างเดียว ไม่งั้นก็ไม่เกิดการแข่งขันในด้านอื่นสำหรับคนที่เขาพร้อมพลังงานในด้านอื่น เช่น ถ้าผมผลิต ไบโอดีเซลได้เอง อยากเอามาปั่นไฟขายเฉพาะช่วงเวลา ที่ต้องการ ซึ่งเป็นพลังงานที่ผลิตก็เหลือจากการผลิต น่ะครับผมมองดูแล้วค่าใช้จ่ายคอ่นข้างสูงเอาเรื่องน่ะครับ ทั้งแผง อินเวอร์เตอร์ แบต เตอรี่ และค่าใช้จ่ายตามระยะเวลา ครับ
ความคิดเห็นที่ 76
เดียวกลับมาอ่านนะ
1
1
2
1
1
1
0
0
0
0
0
0
0
0
0
0
0
1
0
0
0
0
0
0
0
0
0
0
0
0
0
0
0
0
0
0
วันอาทิตย์ เวลา 08:48 น.
2 Yugo
วันอาทิตย์ เวลา 09:55 น.
0 poodprad
วันอาทิตย์ เวลา 10:07 น.
0 hehew
วันอาทิตย์ เวลา 10:15 น.
0 natz
วันอาทิตย์ เวลา 12:46 น.
วันอาทิตย์ เวลา 12:50 น.
0 fatcoco
วันอาทิตย์ เวลา 14:04 น.
วันอาทิตย์ เวลา 14:07 น.
0 Crisser
วันอาทิตย์ เวลา 15:08 น.
0 wmt
วันอาทิตย์ เวลา 15:27 น.
0 วู๊ดดี้
วันอาทิตย์ เวลา 15:41 น.
0 ps000000
วันอาทิตย์ เวลา 18:34 น.
0 monewa
วันอาทิตย์ เวลา 21:33 น.
0 SakuraC
วันอาทิตย์ เวลา 21:46 น.
วันอาทิตย์ เวลา 23:23 น.
วันอาทิตย์ เวลา 10:26 น.
วันอาทิตย์ เวลา 11:26 น.
วันอาทิตย์ เวลา 16:40 น.
วันอาทิตย์ เวลา 22:33 น.
เมื่อวานนี้ เวลา 08:03 น.
เมื่อวานนี้ เวลา 11:51 น.
23 ชั่วโมงที่แล้ว
วันอาทิตย์ เวลา 08:51 น.
วันอาทิตย์ เวลา 10:28 น.
เมื่อวานนี้ เวลา 01:49 น.
เมื่อวานนี้ เวลา 09:02 น.
23 ชั่วโมงที่แล้ว
วันอาทิตย์ เวลา 13:05 น.
วันอาทิตย์ เวลา 14:16 น.
เมื่อวานนี้ เวลา 09:18 น.
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ความคิดเห็นที่ 77
### เคสท้าให้เซลล์ที่บอกว่าคุ้มมาติดหลังคาบ้าน ผมขอแค่เดือนละ 500 บาท ... สรุปว่าเซลล์หนีหายไปเลย ###
826 ขำกลิ้ง, PEDestrain ขำกลิ้ง
ความคิดเห็นที่ 78
asss
ความคิดเห็นที่ 79
1. เราจะลดโลกร้อนจริงหรือป่าวก็ไม่รู้ เพราะเวลาผลิตแผงโซล่าก็ทำโลกร้อนล่วงหน้าไปไกลแล้ว
2. ระยะเวลาคืนทุนนาน ไม่คุ้มกับคนที่จะติดตั้ง แต่คุ้มสำหรับคนขายแผงโซล่า และคนมาติดตั้ง และคนมาดูแล
ความคิดเห็นที่ 80
คิดแล้วไม่คุ้ม
ความคิดเห็นที่ 81
ขอบคุณสำหรับข้อมูล ส่วนตัวคิดว่า ถ้าตัวเราเองยังหาข้อดีเทียบกับข้อเสีย แล้วไม่ชัดเจน ก็เหมือนเรากำลังลงทุนกับความเสี่ยงครับ สมมติการลงทุน x บาท ขายได้ 1.10x - 1.20x บาท โดยไม่มีโอกาสจะกำไรไปมากกว่านี้ ในระยะยาว 25 ปี ผมคิดว่าอัตราเงินเฟ้อ กับค่าดูแลรักษา จะเป็นตัวหักกำไร ในมุมของผม ถ้าลงทุน 25 ปี ก็ควรจะมีกำไรมากกว่านี้น่ะครับ แต่ถ้ามองในมุมของความมั่นคง คือ ขายได้กำไรแน่ๆ วิธีนี้ก็น่าจะดี เพียงแต่ติดที่กำไรจะโตน้อย และถ้ายิ่งเป็นการซื้อไฟฟ้าคืนที่ 6.xx บาท/หน่วย ตลอดอายุสัญญา น่าจะเป็นแบบ Adder ซึ่งไม่แปรผันตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้า คืนทุนไวในรอบ 8-10 ปี แต่ในระยะยาว ลักษณะ Adder แบบนี้ผู้ผลิตจะเสียผลประโยชน์ครับ แบบ FIT จะน่าสนใจกว่าในระยะ 25 ปี แต่หากว่าจะผลิตไฟแค่ 10 ปี และมองว่าปีที่เหลือเป็นการสร้างกำไร เพราะคืนทุนแล้ว ผมคิดว่าคงเลี่ยงค่าซ่อมบำรุงไม่ได้ครับ ซึ่ง ณ เวลานั้น ต้นทุนการผลิตและการ re-invest หรือ บำรุงรักษา ต้องไปพิจารณากันอีกที แต่โดยแนวโน้มแล้วควรจะถูกลง
ขอขอบคุณ จขกท. อีกทีครับ ผมได้ความรู้เพิ่มเติมจากรายละเอียดที่ลงครับ
0
0
0
0
21 ชั่วโมงที่แล้ว
20 ชั่วโมงที่แล้ว
17 ชั่วโมงที่แล้ว
17 ชั่วโมงที่แล้ว
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ตอบกลับ
ความคิดเห็นที่ 82
เรื่องฝุ่น 7 ปีไม่ทำความสะอาดเลยโดยไม่มีผลกับประสิทธิภาพเลยนี่ผมอ่านยังไงก็ไม่เชื่ออะครับ
ตัวอย่างแค่กระจกบ้านลองไม่ล้างสัก 2-3 เดือนฝุ่นก็เกาะหนาจนมัวแล้วครับ
ยังไม่รวมความเลอะเมื่อฝุ่นผสมกับฝนปรอยๆที่มันจะยิ่งเปลี่ยนสภาพเป็นโคลนอีกนะครับ
ซึ่งฝุ่นดินพวกนี้เวลาผสมน้ำเป็นโคลนมันจะยิ่งติดแน่น แน่นจนต่อให้ฝนตกหนักยังไงมันก็ไม่หลุดออกไป
แล้วไหนจะยังขี้นก ใบไม้ เกสรดอกไม้สารพัดอีก
ป.ล. สูตรน้ำยาที่ใช้น้ำส้มสายชู + สบู่ + น้ำ ฉีดนี่ฉีดลอยๆแค่นั้นเลยหรือเปล่าครับ
ไม่จำเป็นต้องฉีดแล้วเช็ดล้างอะไรเลยหรือ ???
ขนมสาคู ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 83
ยาววววววววววววว
ขอค่อยๆอ่านทีละความเห็น
ช่วงนี้สมองตื้อ ไม่ค่อยรับข้อมูล
จึงขอค่อยๆอ่าน
ความคิดเห็นที่ 84
Capacity factor 14.84% ด้วยครับสำหรับปี 58
ถ้าติดบนดาดฟ้า จะไม่เข้าข่ายดัดแปลงอาคาร
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ครับ
มาพูดคุยสอบถามได้ครับ (ไม่ใช่ผู้รับเหมานะ)
www.facebook.com/rooftopsolarpv
ความคิดเห็นที่ 85
วิทยาทานแจ่มล้ำมาก ขอบคุณครับ.
ความคิดเห็นที่ 86
มาตอบอีกที
สัญญา 25 ปี ผมว่านานเกินไป
มันเท่ากับ 1 ใน 3 ของอายุคนเลยนะ (ถ้าคนมีอายุ 75 ปี)
แล้วถ้าเกิดอยากเลิกสัญญา ต้องมีค่าอะไรหรือเปล่า
หรือเลิกสัญญาได้ทันที จบกันสบายๆ ไม่ต้องมีพันธะผูกมัดใดๆ
นักบอลต่อสัญญากันอย่างมาก็ 5 ปีเอง
เพราะมันมีความเสื่อมของร่างกาย และความเสี่ยงจากการใช้งาน
ถ้าสัญญาซัก 5 ปี อันนี้ผมว่ายังพอไหว
นี่ 25 ปี ลากยาวกันไป แล้วถ้า solar cell มันไม่ต้องเปลี่ยนใหม่เหรอ
ดูๆไป คล้ายๆ The Matrix อยู่นะเนี่ย
ตรงที่ดูดพลังจากคนอื่นๆแล้วไปเสริมให้ตัวเอง
ความคิดเห็นที่ 87
เป็นอะไรที่ถูกใจ... ขอบคุณมากครับในข้อมูล
ความคิดเห็นที่ 88
ไว้จะขายแล้วจะมาอ่านใหม่คับ
ความคิดเห็นที่ 89
สรุป จขกท.เอาโบชัวร์สินค้าพร้อมราคา มาโชว์เลยครับ
แสดงความคิดเห็น
ส่งข้อความ
นครชัยแท๊กซี่ แท้งซะแล้ว? คุยไว้เยอะเกิ๊น
สมาชิกหมายเลข 730714
หากอยากเริ่มต้นลงทุนในหุ้นและกองทุนแต่ไม่รู้จะต้องเริ่มยังไง?
หาคำตอบได้ที่ห้องสินธร แหล่งรวบรวมความรู้และประสบการณ์การลงทุนในแบบต่าง ๆ ที่คุณไม่ควรพลาด!!!
▂ ▃ ▄ ▅ ▆ ▇ █ เจาะเทรนด์คนไทย รสนิยมไฮโซแต่ Low income █ ▇ ▆ ▅ ▄ ▃ ▂
NongSie ~~ Follow The Dream ~~
เขาวานให้หมูเป็นสายลับ
Thourch_beer
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ พลังงานแสงอาทิตย์ การลงทุน อนุรักษ์พลังงาน บ้าน ไฟฟ้า
0
0
0
0
0
0
0
0
15 ชั่วโมงที่แล้ว
6 ชั่วโมงที่แล้ว
5 ชั่วโมงที่แล้ว
5 ชั่วโมงที่แล้ว
3 ชั่วโมงที่แล้ว
0 Korn1999
2 ชั่วโมงที่แล้ว
0 paiosd
1 ชั่วโมงที่แล้ว
0 pirates
1 ชั่วโมงที่แล้ว
หน้า:
จาก 1