ความสำคัญของ EDA ในงาน NLP
กระบวนการ EDA สำหรับข้อมูลข้อความ
เป้าหมายการเรียนรู้
อธิบายหลักการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสำรวจ (EDA) สำหรับข้อมูลข้อความ
วิเคราะห์วิธีตรวจสอบและแสดงผลข้อมูลข้อความในมุมมองต่างๆ
เขียนโปรแกรมเพื่อเตรียมข้อมูล NLP โดยนำเทคนิค EDA ไปใช้
ช่วยทำความเข้าใจข้อมูลข้อความก่อนการวิเคราะห์
ระบุปัญหาในข้อมูลและปรับปรุงคุณภาพข้อมูล
ช่วยเลือกวิธีการประมวลผลและพัฒนาโมเดลได้อย่างเหมาะสม
สนับสนุนการนำข้อมูลไปใช้จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Exploratory Data Analysis (EDA) เป็นขั้นตอนสำคัญในงาน NLP เพื่อทำความเข้าใจข้อมูลข้อความเบื้องต้นและระบุลักษณะเฉพาะของข้อมูลที่จะนำไปใช้ในกระบวนการพัฒนาระบบ NLP หรือโมเดล Machine Learning
ทำความเข้าใจข้อมูลเบื้องต้น
EDA ช่วยให้นักวิเคราะห์เข้าใจข้อมูลข้อความที่มี เช่น
ประเภทของข้อมูล: เช่น ข้อความรีวิว, บทสนทนา, หรือข่าว
ขอบเขตของข้อมูล: เช่น ความยาวของข้อความ ค่า Missing Values หรือข้อมูล Noise
ตัวอย่างคำถามที่ตอบได้ในขั้นตอนนี้:
ข้อมูลมีคำหรือประโยคจำนวนมากเพียงใด?
ข้อมูลมีภาษาหรือสัญลักษณ์พิเศษที่ต้องจัดการหรือไม่?
EDA ช่วยตรวจสอบปัญหา เช่น:
Missing Data: ข้อความที่ว่างเปล่า
Duplicate Data: ข้อมูลซ้ำซ้อน
Unbalanced Data: จำนวนคลาสไม่สมดุล เช่น ข้อมูล Sentiment Analysis ที่มีรีวิวเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ
ตัวอย่าง:
การแจกแจงจำนวนคำในแต่ละข้อความ
การแสดงคำหรือวลีที่เกิดซ้ำบ่อย
การวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของข้อความช่วยให้เห็นภาพรวม เช่น:
ความถี่ของคำ (Word Frequency)
การแจกแจงความยาวข้อความ (Text Length Distribution)
การหา Stop Words หรือคำที่พบบ่อยแต่มีความสำคัญน้อย
ตัวอย่าง Visualization:
Word Cloud เพื่อแสดงคำที่พบบ่อย
Histogram ความยาวข้อความ
EDA ช่วยระบุสิ่งที่ต้องแก้ไข เช่น:
Noise Data: เช่น HTML Tags, Emoji, สัญลักษณ์พิเศษ
Encoding Issues: เช่น UTF-8 หรือ ASCII
Non-Text Data: เช่น URL หรือตัวเลข
EDA ช่วยค้นหา Feature ที่สำคัญในข้อความ เช่น:
คำที่บ่งบอกความรู้สึก: เช่น "ดี", "ยอดเยี่ยม" สำหรับ Sentiment Analysis
วลีสำคัญ: เช่น Bigrams หรือ Trigrams
ความถี่ของ Named Entities: เช่น ชื่อคนหรือสถานที่
ทดลองโหลดและตรวจสอบข้อมูลข้อความ
สร้าง Word Cloud และวิเคราะห์คำที่พบบ่อย
แบ่งกลุ่มทำ N-grams และเปรียบเทียบคำที่พบบ่อยในแต่ละกลุ่ม