ELSE STUDIO (ณัฐปภัสร์ ปริยาภัสร์) :
นำการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
ELSE STUDIO (ณัฐปภัสร์ ปริยาภัสร์) เป็นชื่อที่เริ่มต้น และเป็นที่รู้จักในวงการการศึกษาและเทคโนโลยีในประเทศไทย ด้วยความทุ่มเทและความเชี่ยวชาญ ณัฐปภัสร์ ได้สร้างสรรค์และนำเสนอวิธีการใหม่ๆ ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในหมู่เด็กๆ การทำงานของเขาได้รับการยอมรับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการทำให้เด็กๆ ได้เข้าถึงและเข้าใจเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล.
การบันทึกคลิปวีดีโอเรื่องราวสั้นๆ จากกิจกรรมที่เด็กๆ ทำอย่างสร้างสรรค์ไม่เพียงแต่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถและจุดเด่นของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะในโลกแห่งความเป็นจริง การมีส่วนร่วมในการสร้างสื่อเหล่านี้ช่วยให้เด็กๆ ได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่าและสามารถแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ของตนเองได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีในการสร้างสื่อเหล่านี้ยังเป็นการเตรียมพร้อมพวกเขาให้เป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีความรู้ความเข้าใจและสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีสติและรับผิดชอบในอนาคต.
ELSE STUDIO (ณัฐปภัสร์ ปริยาภัสร์) ได้แสดงให้เห็นว่าการใช้เทคโนโลยีไม่ได้เป็นเพียงการเรียนรู้เทคนิคหรือการใช้งานเครื่องมือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมที่แท้จริงในสังคมดิจิทัล การทำงานของเขาได้ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความกระตือรือร้นในหมู่เด็กๆ ให้กล้าคิดกล้าแสดงออกด้วยตัวของตนเอง และเป็นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเป็นพลเมืองที่ดีของโลกในอนาคต.
การทำงานของณัฐปภัสร์ ไม่เพียงแต่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ และผู้ปกครองเท่านั้น แต่ยังเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับครูและผู้ที่ทำงานในสาขาการศึกษา การใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่เขานำเสนอได้เปิดประตูใหม่ให้กับการเรียนรู้และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาในประเทศไทยให้ก้าวไปอีกขั้น.
สำหรับผู้ที่สนใจในการทำงานและต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในการศึกษา สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ https://sites.google.com/priyaphus.org/nutpaphus ซึ่งมีข้อมูลและทรัพยากรมากมายที่สามารถช่วยเหลือและแนะนำให้คุณสามารถนำเทคโนโลยีไปใช้ในการสอนและการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Edu Connect: เครือข่ายเรียนรู้ไร้พรมแดน
สรุปการประชุม: Edu Connect: การสร้างสรรค์และการพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้ไร้พรมแดน
แหล่งที่มา: เอกสาร "วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศEdu Connect การสร้างสรรค์และการพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้ไร้พรมแดน.pdf"
วันที่: 27 พฤษภาคม 2567
ผู้จัดทำ: นางสาวณัฐปภัสร์ ปริยาภัสร์, ธุรการโรงเรียนบ้านหัวดอย
เอกสารนี้เป็นการนำเสนอผลงานวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ในชื่อโครงการ "Edu Connect: การสร้างสรรค์และการพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้ไร้พรมแดน" ซึ่งนำเสนอโดยนางสาวณัฐปภัสร์ ปริยาภัสร์ ตำแหน่งธุรการโรงเรียนบ้านหัวดอย สังกัด สพป.เชียงราย เขต 1 โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ส่งเสริมการเข้าถึงข้อมูลและเทคโนโลยีสำหรับนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงสร้างความร่วมมือที่ดีระหว่างโรงเรียน ชุมชน และผู้ปกครอง โดยสอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
ความสอดคล้องกับนโยบาย: โครงการ Edu Connect สอดคล้องกับนโยบายการศึกษา "เรียนดี มีความสุข" ของกระทรวงศึกษาธิการ และยุทธศาสตร์ 4 กลยุทธ์ของ สพฐ. รวมถึงประเด็นสำคัญ 9 ประการที่เน้นการพัฒนาด้านต่างๆ เช่น การปลูกฝังความรักในสถาบันหลัก, การจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายด้วยเทคโนโลยี, การส่งเสริมความปลอดภัย, การพัฒนาครูและบุคลากร, การเพิ่มโอกาสและความเสมอภาค, และการพัฒนาระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
ที่มาและความสำคัญของการใช้เทคโนโลยี: เอกสารเน้นย้ำถึงวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์, ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต, และโซเชียลมีเดีย ที่มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและการสื่อสารในสังคมปัจจุบัน การส่งเสริมให้นักเรียนเป็นพลเมืองดิจิทัล (Digital Thailand) จำเป็นต้องสร้างทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โอกาสในการเข้าถึงข้อมูล และความเข้าใจในเทคโนโลยีเกิดใหม่ รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ถึงประโยชน์และโทษของการใช้งานอย่างสร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
แนวคิดของโครงการ: โครงการ Edu Connect เน้นการประชาสัมพันธ์ในฐานะภารกิจสำคัญของงานธุรการ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กรและสร้างความเปลี่ยนแปลงภายในโรงเรียน โดยการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดี การนำเสนอสื่อกิจกรรมผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น YouTube เป็นเครื่องมือสำคัญในการรวบรวมข้อมูล สนับสนุนนักเรียน และรายงานคุณภาพการจัดการศึกษา นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือเชื่อมต่อระหว่างผู้ปกครอง ชุมชน โรงเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์ และนำไปใช้ได้จริงในงานการศึกษาและการพัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์
การใช้เทคโนโลยีและ AI ในการวิเคราะห์และเชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ชัดเจน และตรงประเด็น
เป็นเครื่องมือในกระบวนการเรียนการสอน การบริหารจัดการศึกษา และการสนับสนุนการติดตามและประเมินผลเชิงประจักษ์
เชิงปริมาณ: นักเรียนและบุคลากรโรงเรียนบ้านหัวดอย ร้อยละ 90 เข้าถึงสื่อที่ปลอดภัย และมีช่องทางการประชาสัมพันธ์อย่างน้อย 5 ช่องทาง
เชิงคุณภาพ: พัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีและ AI, การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ, การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัย, การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนและชุมชน, และการประเมินผลและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
Plan (วางแผน): กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน สร้างสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ ใช้เทคโนโลยีสนับสนุน จัดหาทรัพยากร (เช่น Google Workspace, YouTube, Microsoft 365) และทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ
Do (ดำเนินการ): รวบรวมข้อมูลและเนื้อหากิจกรรมนักเรียน ใช้เทคโนโลยีและ AI วิเคราะห์ข้อมูล สร้างสื่อการเรียนรู้ (วิดีโอ, สไลด์, บทความ) เผยแพร่ผ่านช่องทางต่างๆ ฝึกอบรมครูและบุคลากร และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน
Check (ตรวจสอบ): ประเมินผลการมีส่วนร่วมของนักเรียนและชุมชน ตรวจสอบคุณภาพสื่อการเรียนรู้ รับฟังความคิดเห็น วิเคราะห์ข้อมูลการมีส่วนร่วมและผลการเรียนรู้
Act (ปรับปรุง): ปรับปรุงสื่อการเรียนรู้ตามข้อเสนอแนะ ขยายเครือข่ายการเรียนรู้ พัฒนาหลักสูตรใหม่ๆ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง และนำ Microsoft 365 มาใช้ในโรงเรียน
ผู้พัฒนา: พัฒนาตนเอง นำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาการศึกษาและการประชาสัมพันธ์ (เช่น Google Workspace, Canva, Microsoft 365), สร้างวิดีโอการเรียนรู้, พัฒนาหลักสูตร
ผู้เรียน: ได้รับการฝึกฝนทักษะด้านดิจิทัลและการวิเคราะห์ข้อมูล เข้าถึงสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพและปลอดภัย เรียนรู้ทักษะชีวิต และสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ครูผู้สอน: ได้รับการฝึกอบรมการใช้เทคโนโลยีและ AI ในการสอน สร้างสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ สื่อสารข้อมูลได้อย่างชัดเจน และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนและผู้ปกครอง
สถานศึกษา: มีสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีคุณภาพและหลากหลายช่องทาง สร้างภาพลักษณ์ที่ดี มีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนและผู้ปกครอง และมีการประเมินผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ความคาดหวัง: โครงการนี้คาดหวังที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนา สร้างความเจริญให้กับชุมชนชนบท โดยประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและทันต่อเหตุการณ์ สร้างโอกาสสำหรับงานอาชีพของตนเอง รวมถึงใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือรักษาเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ และภาพลักษณ์ความเป็นไทย ส่งเสริมค่านิยมไทยให้เกิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ
บทเรียนที่ได้รับ: การเรียนรู้ควบคู่กับการแก้ปัญหามีความสำคัญอย่างยิ่ง รวมถึงความจำเป็นในการเร่งศึกษาและทำความเข้าใจเครื่องมือและแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนงาน เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพคนไทยให้ทันต่อเหตุการณ์และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ: การสนับสนุนจากผู้บริหาร, การวางแผนที่ดี, การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน, การใช้เทคโนโลยีและ AI, การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ, การประเมินผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง, และการสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัย
ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา: ควรเพิ่มการศึกษาข้อจำกัดและระเบียบการนำเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มดิจิทัลไปใช้ และการปฏิบัติตามกฎข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น GDPR) รวมถึงการทำความเข้าใจข้อกำหนดการใช้งาน Copilot ในแอป Microsoft 365 สำหรับผู้ใช้ประเภทต่างๆ
ข้อความที่น่าสนใจ:
•"Edu Connect: การสร้างสรรค์และการพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้ไร้พรมแดน" สื่อถึงการเชื่อมโยงและการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ที่ไม่มีขีดจำกัด ซึ่งเป็นแนวคิดที่ทันสมัยและน่าสนใจมาก นอกจากนี้ยังเน้นถึงการสร้างสรรค์และการพัฒนา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการศึกษาในยุคปัจจุบัน
•"หากสามารถสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเยาวชนได้มากเท่าไหร่ เราก็จะสามารถสนับสนุนพวกเขาใช้สื่อไปในทางที่ถูกต้อง สร้างสรรค์และเป็นประโยขน์ต่อตนเองและสังคม ได้มากขึ้นเท่านั้น"
•"พลเมืองดิจิทัลจึงต้องเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบ มีจริยธรรม เห็นอกเห็นใจและเคารพผู้อื่น มีส่วนร่วม และมุ่งเน้นความเป็นธรรมในสังคม"
•"การประชาสัมพันธ์ อยู่ในส่วนหนึ่งของภารกิจงานธุรการในสถานศึกษา และมีความสำคัญ เป็นหน้าที่ในการบริหารที่ช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ กำหนดปรัชญาและทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงภายในโรงเรียน"
สรุปโดยรวม:
โครงการ Edu Connect เป็นตัวอย่างที่ดีของการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับการศึกษาในระดับโรงเรียน โดยเน้นการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ที่ไร้ขีดจำกัด ส่งเสริมทักษะด้านดิจิทัลและความปลอดภัยในการใช้งานสื่อออนไลน์ และสร้างความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเรียนรู้ โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในความสำคัญของการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับนักเรียน บุคลากรทางการศึกษา และชุมชน โดยให้ความสำคัญกับการวางแผน การดำเนินงาน การตรวจสอบ และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การพัฒนาการศึกษาเป็นไปอย่างยั่งยืน.
โอกาสเข้าเยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนประถมศึกษา ประเทศญี่ปุ่น
พร้อมก้าวสู่สังคมดิจิทัล ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในทุกกลุ่มวัย อีกทั้งยังมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งสร้างทักษะและความตระหนักรู้ถึงประโยชน์และโทษ ตลอดจนการใช้งานอย่างสร้างสรรค์ และรับผิดชอบต่อสังคม สมาชิกของโลกออนไลน์ คือ ทุกคนที่ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตบนโลกใบนี้ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ อายุ ภาษา และวัฒนธรรม พลเมืองดิจิทัลจึงต้องเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบ มีจริยธรรม เห็นอกเห็นใจและเคารพผู้อื่น มีส่วนร่วม และมุ่งเน้นความเป็นธรรมในสังคม ด้วยการเตรียมตัวก้าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 เราจึงร่วมกันส่งเสริมให้เกิดทักษะพื้นฐานและทักษะเฉพาะทาง เพื่อเป็นทางเลือกในการค้นหาและพัฒนาตนเอง เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีแนวทางสำหรับการวางแผนการศึกษาต่อ หรือเพื่อประกอบอาชีพที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับตลาดแรงงานปัจจุบัน
(อ้างอิง บทสรุปผู้บริหาร "โรงเรียนบ้านหัวดอย") ท่าน ผอ.สังวาลย์ คำจันทร์
Reference is made to Ban huadoi School’s travel to Iwaki Elementary School Katsuraishi City, Nara Japan with School Principal By MR.YAMAMOTO HIROFUMI during October,2024 to hold Study and exchange on teaching management, discipline training, and guidelines for organizing learning activities in information technology, and plans to cope with various problems in the COVID-19 pandemic situation. The warm and hospitable reception kindly extended to us made our visit to Katsuraishi City, Nara Japan memorable one.
In this connection, we would like to reassure that your beneficial advice and recommendations would betaken for further discussion and planning for school in the future.
On this occasion, on behalf of Ban Huadoi School, I would like to express our profound gratitude to you for having offered us a great opportunity to meet with MS.MALINEE PUATRAKUL ,MISS.NUTPAPHUS PRIYAPHUS, and thank you most sincerely for the warm welcome and useful advice given to us.
โรงเรียนประถมศึกษาอิวากิ เมืองคัตสึรางิ จังหวัดนารา ประเทศญี่ปุ่น
โรงเรียนที่จัดการกับระบบคอมพิวเตอร์ของการศึกษาอย่างครอบคลุม และปรับปรุงคุณภาพการศึกษาผ่านระบบคอมพิวเตอร์จะได้รับการรับรองว่าเป็นโรงเรียนที่ดีเยี่ยมสำหรับการใช้คอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ เทมเพลต "คำอธิบายเกี่ยวกับการให้ข้อมูลของโรงเรียน" ยังรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับ "การตอบสนองในอนาคตเมื่อมีรายการในระดับ 1 ในรายการตรวจสอบ" "ผลกระทบของความพยายามในการให้ข้อมูล" และ "ลักษณะของการให้ข้อมูลข่าวสาร"
รับรองโดย สำนักเลขาธิการสมาคมเทคโนโลยีการศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่น
https://jaet.jp/nintei/
....................................................................................................................................
NUTPAPHUS PRIYAPHUS : การศึกษาดูรูปแบบการจัดการเรียนการสอนด้วยแทปเล็ต เด็กๆ จะได้แท็บเล็ตคนละ 1 เครื่องโดยโรงเรียนจัดสรรให้ยืมตั้งแต่ชั้น ป.1-ป.6 และสามารถนำกลับบ้านได้ -การใช้งานเป็นระเบียบ มีวินัย รักษาดูแลเครื่องของตนเอง และมีตู้ชาร์ทแบตที่ห้องเรียน ..
ผลจากการพัฒนาตนเอง
จัดเก็บข้อมูลให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยแบบอัตโนมัติ เช่น การป้องกันข้อมูลรั่วไหล (DPL) และการเปิดเครื่องที่ได้รับการยืนยัน
เพิ่มการรักษาความปลอดภัยหลายขั้นให้กลุ่มอุปกรณ์ไอทีทั้งหมดของคุณ
คุณเป็นเจ้าของและมีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลลูกค้าซึ่งเชื่อมโยงกับบัญชี Google Workspace for Education ของคุณ
ห้องนิรภัยและศูนย์แจ้งเตือนจะส่งการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์และเก็บข้อมูลแบบถาวรเพื่อให้คุณสามารถดำเนินการปกป้องและเก็บรักษาข้อมูลได้อย่างทันท่วงที