1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

        การจัดการเรียนการสอนในวิชาเคมี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในเนื้อหาที่มีการเรียนทำปฏิบัติการมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการสอนวิชาเคมี เนื่องจากจำนวนอุปกรณ์การทดลองมีจำกัด ทำให้ครูต้องสอนโดยการสาธิตการทดลองหรือโดยการอธิบายแทนการทดลอง ส่งผลให้นักเรียนขาดประสบการณ์ในการทดลอง มีการพัฒนาทักษะการทดลองและทักษะวิทยาศาสตร์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร และการทำปฏิบัติการส่วนใหญ่เป็นปฏิบัติการแบบดั้งเดิม เน้นให้นักเรียนท่าตามวิธีการทดลองอย่างเคร่งคัดเพื่อประหยัดเวลาในการทดลอง การจัดการเรียนรู้ปฏิบัติการเคมีโดยใช้ชุดการทดลองขนาดเล็ก จะช่วยลดข้อจำกัดข้างต้น โดยมีความน่าสนใจของการทดลองที่มีการย่อส่วนสารเคมีที่ใช้ลงไป ทำให้ใช้สารเคมีน้อย และใช้ชุดการทดลองขนาดเล็กที่หาได้ง่าย ทำให้ประหยัดงบประมาณ ประหยัดเวลา มีความปลอดภัย และนักเรียนสามารถลงมือปฏิบติกิจกรรมได้ด้วยตนเอง โดยยังคงรายละเอียดของเนื้อหาในการทดลองเหมือนในการทดลองมาตรฐาน 

2. วิธีการดำเนินการ
1) ครูผู้สอบทวทวนเอกสารการวิจัยเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ปฏิบัติการเคมีโดยใช้ชุดการทดลองขนาดเล็ก

2) ครูผู้สอนเข้าร่วมการอบรมการจัดการเรียนรู้ปฏิบัติการเคมีโดยใช้ชุดการทดลองขนาดเล็ก

3) ครูผู้สอนำผลที่ได้รับจากการอบรมมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาเคมี

4) การขยายผลการจัดการเรียนรู้

3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง 
3.1 เชิงปริมาณ

นักเรียนร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นไปตามเกณฑ์การประเมินที่สถานศึกษากำหนด

3.2 เชิงคุณภาพ

1) นักเรียนมีความเป็นเลิศ เต็มตามศักยภาพ ตามความถนัดและความสนใจ

2) การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบ Active Learning มีทักษะสู่ศตวรรษที่ 21

1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

        การจัดการเรียนการสอนในวิชาเคมี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในเนื้อหาที่มีการเรียนทำปฏิบัติการมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการสอนวิชาเคมี เนื่องจากจำนวนอุปกรณ์การทดลองมีจำกัด ทำให้ครูต้องสอนโดยการสาธิตการทดลองหรือโดยการอธิบายแทนการทดลอง ส่งผลให้นักเรียนขาดประสบการณ์ในการทดลอง มีการพัฒนาทักษะการทดลองและทักษะวิทยาศาสตร์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร และการทำปฏิบัติการส่วนใหญ่เป็นปฏิบัติการแบบดั้งเดิม เน้นให้นักเรียนท่าตามวิธีการทดลองอย่างเคร่งคัดเพื่อประหยัดเวลาในการทดลอง การจัดการเรียนรู้ปฏิบัติการเคมีโดยใช้ชุดการทดลองขนาดเล็ก จะช่วยลดข้อจำกัดข้างต้น โดยมีความน่าสนใจของการทดลองที่มีการย่อส่วนสารเคมีที่ใช้ลงไป ทำให้ใช้สารเคมีน้อย และใช้ชุดการทดลองขนาดเล็กที่หาได้ง่าย ทำให้ประหยัดงบประมาณ ประหยัดเวลา มีความปลอดภัย และนักเรียนสามารถลงมือปฏิบติกิจกรรมได้ด้วยตนเอง โดยยังคงรายละเอียดของเนื้อหาในการทดลองเหมือนในการทดลองมาตรฐาน 

2. วิธีการดำเนินการ
1) ครูผู้สอบทวทวนเอกสารการวิจัยเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ปฏิบัติการเคมีโดยใช้ชุดการทดลองขนาดเล็ก

2) ครูผู้สอนเข้าร่วมการอบรมการจัดการเรียนรู้ปฏิบัติการเคมีโดยใช้ชุดการทดลองขนาดเล็ก

3) ครูผู้สอนำผลที่ได้รับจากการอบรมมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาเคมี

4) การขยายผลการจัดการเรียนรู้

3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง 
3.1 เชิงปริมาณ

นักเรียนร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นไปตามเกณฑ์การประเมินที่สถานศึกษากำหนด

3.2 เชิงคุณภาพ

1) นักเรียนมีความเป็นเลิศ เต็มตามศักยภาพ ตามความถนัดและความสนใจ

2) การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบ Active Learning มีทักษะสู่ศตวรรษที่ 21

1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

        การจัดการเรียนการสอนในวิชาเคมี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในเนื้อหาที่มีการเรียนทำปฏิบัติการมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการสอนวิชาเคมี เนื่องจากจำนวนอุปกรณ์การทดลองมีจำกัด ทำให้ครูต้องสอนโดยการสาธิตการทดลองหรือโดยการอธิบายแทนการทดลอง ส่งผลให้นักเรียนขาดประสบการณ์ในการทดลอง มีการพัฒนาทักษะการทดลองและทักษะวิทยาศาสตร์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร และการทำปฏิบัติการส่วนใหญ่เป็นปฏิบัติการแบบดั้งเดิม เน้นให้นักเรียนท่าตามวิธีการทดลองอย่างเคร่งคัดเพื่อประหยัดเวลาในการทดลอง การจัดการเรียนรู้ปฏิบัติการเคมีโดยใช้ชุดการทดลองขนาดเล็ก จะช่วยลดข้อจำกัดข้างต้น โดยมีความน่าสนใจของการทดลองที่มีการย่อส่วนสารเคมีที่ใช้ลงไป ทำให้ใช้สารเคมีน้อย และใช้ชุดการทดลองขนาดเล็กที่หาได้ง่าย ทำให้ประหยัดงบประมาณ ประหยัดเวลา มีความปลอดภัย และนักเรียนสามารถลงมือปฏิบติกิจกรรมได้ด้วยตนเอง โดยยังคงรายละเอียดของเนื้อหาในการทดลองเหมือนในการทดลองมาตรฐาน 

2. วิธีการดำเนินการ
1) ครูผู้สอบทวทวนเอกสารการวิจัยเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ปฏิบัติการเคมีโดยใช้ชุดการทดลองขนาดเล็ก

2) ครูผู้สอนเข้าร่วมการอบรมการจัดการเรียนรู้ปฏิบัติการเคมีโดยใช้ชุดการทดลองขนาดเล็ก

3) ครูผู้สอนำผลที่ได้รับจากการอบรมมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาเคมี

4) การขยายผลการจัดการเรียนรู้

3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง 
3.1 เชิงปริมาณ

นักเรียนร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นไปตามเกณฑ์การประเมินที่สถานศึกษากำหนด

3.2 เชิงคุณภาพ

1) นักเรียนมีความเป็นเลิศ เต็มตามศักยภาพ ตามความถนัดและความสนใจ

2) การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบ Active Learning มีทักษะสู่ศตวรรษที่ 21

1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

การจัดการเรียนการสอนในวิชาเคมี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในเนื้อหาที่มีการเรียนทำปฏิบัติการมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการสอนวิชาเคมี เนื่องจากจำนวนอุปกรณ์การทดลองมีจำกัด ทำให้ครูต้องสอนโดยการสาธิตการทดลองหรือโดยการอธิบายแทนการทดลอง ส่งผลให้นักเรียนขาดประสบการณ์ในการทดลอง มีการพัฒนาทักษะการทดลองและทักษะวิทยาศาสตร์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร และการทำปฏิบัติการส่วนใหญ่เป็นปฏิบัติการแบบดั้งเดิม เน้นให้นักเรียนท่าตามวิธีการทดลองอย่างเคร่งคัดเพื่อประหยัดเวลาในการทดลอง การจัดการเรียนรู้ปฏิบัติการเคมีโดยใช้ชุดการทดลองขนาดเล็ก จะช่วยลดข้อจำกัดข้างต้น โดยมีความน่าสนใจของการทดลองที่มีการย่อส่วนสารเคมีที่ใช้ลงไป ทำให้ใช้สารเคมีน้อย และใช้ชุดการทดลองขนาดเล็กที่หาได้ง่าย ทำให้ประหยัดงบประมาณ ประหยัดเวลา มีความปลอดภัย และนักเรียนสามารถลงมือปฏิบัติกิจกรรมได้ด้วยตนเอง โดยยังคงรายละเอียดของเนื้อหาในการทดลองเหมือนในการทดลองมาตรฐาน 

2. วิธีการดำเนินการ

P (Plan) : วางแผนออกแบบการจัดการเรียนรู้ การออกแบบสื่อการสอนเคมีย่อส่วน และกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการใช้สื่อการสอน

D (Do) : ดำเนินการออกแบบการจัดการเรียนรู้ และออกแบบสื่อการสอนเคมีย่อส่วน

C (Check) : ทดสอบประสิทธิภาพของการใช้สื่อการสอนเคมีย่อส่วนกับกลุ่มนักเรียนตัวอย่าง และประเมินคุณภาพสื่อ

A (Action) : นำผลการประเมินมาปรับปรุงแก้ไขสื่อการสอนให้มีคุณภาพ

A (Accountability) : รายงานผลการใช้สื่อ เผยแพร่ให้กับผู้อื่นและมีการแก้ไขพัฒนาต่อยอดสื่อการสอนอื่น ๆ

3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง 
3.1 เชิงปริมาณ

1) ด้านความรู้ : นักเรียนร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์การวัดและการประเมินผล

2) ด้านทักษะกระบวนการ : นักเรียนร้อยละ 80 มีผลการประเมินทักษะการทดลองระดับพอใช้ขึ้นไป

3) ด้านเจตคติทางวิทยาศาสตร์ : นักเรียนร้อยละ 80 มีพฤติกรรมการแสดงออกเป็นครั้งคราวขึ้นไป

3.2 เชิงคุณภาพ

1) นักเรียนมีความเป็นเลิศ เต็มตามศักยภาพ ตามความถนัดและความสนใจ

2) การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบ Active Learning มีทักษะสู่ศตวรรษที่ 21