ชื่อ นางบุพผา ฉัยยะ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนปากท่อพิทยาคม
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาราชบุรี
รับเงินเดือนในอันดับ คศ.3
อัตราเงินเดือน 61,840 บาท
ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ ห้องเรียนวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน
ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ
ซึ่งเป็นตำแหน่ง ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
- กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 9 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ชุมนุมเสมารักษ์ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ม.ปลาย จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การมีส่วนร่วมในชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางอาชีพ (PLC) จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การทำวิจัยในชั้นเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
- หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานที่ปรึกษาประจำชั้น จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ - หัวหน้างานส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ - หัวหน้ากลุ่มบริหารงานกิจการนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือ การปรับประยุกต์ การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังที่สูงกว่าได้)
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
จากการศึกษาคะแนน O-NET ปี 2563 ที่ผ่านมา ในสาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค 1.3 ตัวชี้วัด ม.5/1 พบว่าผู้เรียนในรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ยังไม่สามารถนำความรู้ในเรื่องการประยุกต์ลำดับและอนุกรม ไปใช้ในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน ทำให้มีผลลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ดี ซึ่งผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติพื้นฐาน(O-NET) พบว่ามีค่าเฉลี่ยระดับโรงเรียน 16.19 ต่ำกว่าระดับประเทศ 18.46 ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวครูผู้สอนจึงมีแนวคิดที่จะพัฒนารูปแบบกระบวนการจัดการเรียนการสอนให้เป็นไปในทุกรูปแบบที่จะเอื้ออำนวยให้นักเรียนได้เรียนรู้ครบทุกคน โดยแน้นกระบวนการเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ให้เกิดขึ้นในตัวเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ ครูผู้สอนเป็นผู้แนะนำ กระตุ้น หรืออำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนผ่านการประเมินตามเกณฑ์และตามศักยภาพของผู้เรียน
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2561) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนปากท่อพิทยาคม ในเรื่องมาตรฐานการเรียน ตัวชี้วัด และเนื้อหา เรื่องเลขยกกำลัง
2.2 ศึกษารูปแบบการจัดทำแบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์
2.3 จัดทำโครงร่างของเนื้อหาโดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วน ๆ ตามลำดับ
2.4 วางแผนและกำหนดรูปแบบของแบบฝึกทักษะ
2.5 ตรวจสอบความถูกต้องของแบบฝึกทักษะ
2.6 ปรับปรุงแก้ไขแบบฝึกทักษะให้สมบูรณ์พร้อมสำหรับการนำไปใช้
2.7 จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเรื่องเลขยกกำลังโดยเพื่อใช้แบบฝึกทักษะ
2.8 บันทึกผลการเรียนรู้ที่เกิดจากการใช้แบบฝึกทักษะ
2.9 สรุปรายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะ
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวนนักเรียน 35 คน ได้รับการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ในรูปบบ Active Learning โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์ ค32102 โดยใด้คะแนนผ่านเกณฑ์ (ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม) คิดเป็นร้อยละ 100 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด และนักเรียนทั้งหมดมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมกระบวนการสืบเสาะหาความรู้
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการประยุกต์เรื่องลำดับและอนุกรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น สามารถนำองค์ความรู้ดังกล่าวไปใช้ในการพัฒนาผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-Net ต่อไป
ลงชื่อ
(นางบุพผา ฉัยยะ)
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
ผู้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน
....................../.................../...................