สังคมยุคข้อมูลข่าวสาร
ในปัจจุบันเราอยู่ในสังคมยุคข้อมูลข่าวสาร ที่มีการสื่อสารอย่างกว้างขวางและเชื่อมโยงกันทั่วโลก เทคโนโลยีทันสมัยทำให้การติดต่อสื่อสารมีความรวดเร็วและไร้พรมแดน การแลกเปลี่ยนข่าวสารไม่ใช่เพียงการรับฟังจากฝ่ายเดียว แต่เป็นการสื่อสารแบบสองทาง ที่ผู้คนสามารถโต้ตอบ มีส่วนร่วมและเเสดงความคิดเห็นได้ทันที เกิดเป็นสังคมใหม่ในโลกออนไลท์ที่เรียกว่า ไซเบอร์สเปซ (Cyberspace) ซึ่งเชื่อมผู้คนเข้าหากันและทำให้โลกทั้งใบเหมือนอยู่กันไกล้เเค่เอื้อม
ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ (Computer Literacy)
การมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งสำคัญมากในโลกยุคนี้ โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับหลัก ๆ คือ
1.ความตระหนักและการรับรู้ (Awareness) – เข้าใจถึงความสำคัญและบทบาทของคอมพิวเตอร์ในสังคม รวมถึงความหลากหลายของการใช้งาน
2.ความรู้ (Knowledge) – รู้จักหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ เข้าใจศัพท์ทางเทคนิค และสามารถอธิบายการทำงานได้
3.การมีปฏิสัมพันธ์ (Interaction) – ใช้งานคอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวันได้ เช่น การพิมพ์งาน การค้นหาข้อมูล หรือการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology: IT) คือ เทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ในการจัดเก็บ ประมวลผล แปลง ส่งต่อ และค้นหาข้อมูล เพื่อให้การทำงานมีความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ได้หมายถึงเพียงแค่คอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยีด้านการสื่อสารและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกันด้วย
องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
1. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ – ใช้สำหรับประมวลผลและจัดการข้อมูล
2. เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม – ทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างบุคคลหรือองค์กร
ข้อมูลและสารสนเทศ
ข้อมูล (Data) คือ ข้อเท็จจริงที่เก็บรวบรวมมา เช่น ตัวเลข ข้อความ รูปภาพ หรือเสียง
สารสนเทศ (Information) คือ ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลข้อมูล ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที
ประเภทของเทคโนโลยีสารสนเทศ
1.Sensing – อุปกรณ์รับข้อมูลจากสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องสแกนภาพ เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ
2.Communication – เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสาร เช่น โทรศัพท์มือถือ เครือข่าย LAN
2.Analyzing – ระบบที่นำข้อมูลมาวิเคราะห์ เช่น การคาดการณ์สภาพอากาศ การออกแบบพื้นที่ใช้สอย
4.Display – เครื่องมือที่นำเสนอผลลัพธ์ เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์ หรือเทคโนโลยี VR
คอมพิวเตอร์และคุณสมบัติ
คอมพิวเตอร์คือ เครื่องจักรที่สามารถสั่งการได้ ทำหน้าที่รับข้อมูล ประมวลผล และเก็บข้อมูลเพื่อการใช้งานต่อไป มีคุณสมบัติเด่น เช่น ความเร็ว ความแม่นยำ ความน่าเชื่อถือ การจัดเก็บข้อมูลปริมาณมหาศาลและการทำงานแบบอัตโนมัติและซ้ำได้
การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก
1. Input – การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบ
2. Processing – การประมวลผลโดย CPU
3. Output – การแสดงผลลัพธ์ออกมา
4. Storage – การจัดเก็บข้อมูลทั้งระยะสั้นและระยะยาว
องค์ประกอบฮาร์ดแวร์
Input Devices เช่น คีย์บอร์ด เมาส์ เครื่องสแกน
Processor Devices (CPU) ศูนย์กลางของการประมวลผล
Output Devices เช่น หน้าจอ เครื่องพิมพ์
Storage Devices เช่น ฮาร์ดดิสก์ แผ่น CD เทปแม่เหล็ก
ระบบเครือข่ายและโปรโตคอล
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Network) เช่น LAN, Wifi, Email ทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกิดขึ้นได้รวดเร็ว โดยมีมาตรฐานการสื่อสารที่สำคัญคือ TCP/IP ซึ่งเป็นหัวใจของระบบอินเทอร์เน็ต
ประเภทของคอมพิวเตอร์
1.Personal Computers – คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั่วไป
2.Notebook Computers – น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
3.Handheld Computers เช่น PDA, Pocket PC
4.Mainframes Computers – ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่
5.SuperComputers – คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงสุด ใช้สำหรับงานวิจัย การพยากรณ์อากาศ และงานที่ซับซ้อน