ชื่อ จุฬาลักษณ์ สกุล บุตรสยาตรัส
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สถานศึกษา โรงเรียนหนองโตง "สุรวิทยาคม"
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 1
รายวิชาที่สอน กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น ม.1 ม.3 กิจกรรมลูกเสือเนตรนารี,กิจกรรมชุมนุม
ครูที่ปรึกษา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/3
ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
1.ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 18 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาบทเรียนออนไลน์ ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกด้วยรูปแเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา รายวิชาวิทยาการคำนวณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน
จากการศึกษาข้อมูลผลสัมฤทฺธิ์ทางการเรียนในรายวิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนหนองโตง “สุรวิทยาคม” พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด (ร้อยละ 70) เนื่องจากนักเรียนมองว่า วิชาวิทยาการคำนวณ เป็นวิชาที่ไม่น่าสนใจ เนื้อหาบทเรียนไม่สามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้ จากผลการประเมินสมรรถนะผู้เรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 พบว่านักเรียนส่วนใหญ่ขาดความสามารถในการแก้ปัญหา ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ครูผู้สอนจึงริเริ่มพัฒนาสื่อการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้มีแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาและพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ได้แก่ การจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนออนไลน์ ซึ่งเป็นการเรียนผ่านเว็บไซต์โดยใช้โปรแกรม google site นักเรียนสามารถเข้าเรียนและทำกิจกรรมต่างๆ ในหลากหลายรูปแบบ เนื้อหามีหลากหลายแบบมัลติมีเดีย การส่งงานและการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ รวมถึงตอบคำถามการสื่อสารและหว่างครูและนักเรียน การเตรียมความรู้หรืออ่านเอกสารก่อนเข้าเรียนและมีระบบการวัดและประเมินผลหลากหลายรูปแบบ นักเรียนสามารถตรวจสอบผลการทดสอบได้ทันที ทำให้นักเรียนมีความกระตือรือร้น และมุ่งมั่นในการเรียนมากขึ้น
จากเหตุผลดังกล่าวผู้สอนการจึงได้มีการริเริ่มพัฒนา บทเรียนออนไลน์ ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา รายวิชาวิทยาการคำนวณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 3
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 1 พฤศจิกายน 2566
2.1 ศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนหนองโตง “สุรวิทยาคม” ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) สาระมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง และเอกสาร ตำรา บทเรียน รายวิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
2.2 ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูล แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนานวัตกรรมบทเรียนออนไลน์โดยใช้ google site ที่ส่งผลต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้รายวิชาวิทยาการคำนวณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
2.3 ออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้บทเรียนออนไลน์ ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
2.4 แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อตรวจสอบคุณภาพบทเรียนออนไลน์ ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) ด้วยกระบวนการ PLC
2.5 ปรับปรุง/พัฒนาบทเรียนออนไลน์ ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E)
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 – 31 มีนาคม 2567
2.6 นำบทเรียนออนไลน์ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา รายวิชาวิทยาการคำนวณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ในรายวิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
3.1.1 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 100 ได้เรียนรายวิชาการวิทยาการ
คำนวณผ่านบทเรียนออนไลน์ ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี
3.1.2 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 80 ผ่านการประเมินสมรรถนะในการ
แก้ปัญหา อยู่ในระดับดีขึ้นไป
3.1.3 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาการ
คำนวณ สูงกว่าค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ร้อยละ 70
3.1.4 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 80 มีความพึงพอใจต่อการจัดการ
เรียนรู้ ด้วยบทเรียนออนไลน์ ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา รายวิชาวิทยาการคำนวณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมากขึ้นไป
3.2 เชิงคุณภาพ
3.2.1 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทุกคนมีทักษะในการแก้ปัญหาอยู่ในระดับ
ดีขึ้นไป
3.2.2 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สามารถนำความรู้ที่เกิดจากการเรียนรู้ด้วย
บทเรียนออนไลน์ ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้