ประวัติ
สภาพทั่วไปของสถานศึกษา
ชื่อสถานศึกษา ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาปัตตานี “ศว.ปัตตานี”
ที่อยู่ เลขที่ 62 หมู่ที่ 1 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
อีเมลล์ pnsci@dole.go.th
เฟสบุ๊ค/แฟนเพจ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาปัตตานี
สังกัด สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวง
ศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ
ประวัติของสถานศึกษา
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาปัตตานี เป็นสถานศึกษาส่วนกลาง สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบแลศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาปัตตานี เป็นสถานศึกษาในสังกัดสำนักงาน กศน. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ปัจจุบันตั้งอยู่ หมู่ที่ 1 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี มีบุคลากร จำนวน 7คน โดยมีนายอุดร สิทธิพาที ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดปัตตานี รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาปัตตานี และมีพิธีวางศิลาฤกษ์ (รากฐาน) โดย พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2561
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาปัตตานีจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์อาชีพ และสิ่งแวดล้อม ของประชาชนในเขตจังหวัดปัตตานีและพื้นที่ใกล้เคียง เป็นการส่งเสริมให้บุคคลเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้เป็นอย่างดี โดยมีแนวทางการพัฒนาสำคัญแนวทางหนึ่งคือ คือส่งเสริมระบบการเรียนการสอนที่เชื่อมโยงระหว่างวิทยาศาสตร์และวิถีชีวิตปัตตานี และส่งเสริมความมั่นคง ด้านความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นประโยชน์ระยะยาวในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นำไปสู่การพัฒนาที่ “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”ต่อไป โดยได้ดำเนินกิจกรรมในปีงบประมาณ 2561 และมีกำหนดก่อสร้างในปีงบประมาณ 2562-2564
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาปัตตานี เน้นการจัดกิจกรรมบูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์กับวิถีชีวิตเชื่อมโยงกับพลังงาน สิ่งแวดล้อม อาชีพ ภูมิปัญญและวัฒนธรรมท้องถิ่น
อาณาเขตที่ตั้งสถานศึกษา
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาปัตตานี ตั้งอยู่เลขที่ ๒๖ หมู่ที่ ๑ ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี โดยมีอาณาเขตติดต่อดังนี้
ทิศเหนือ ติดกับ ถนนสายเอเชีย ปัตตานี-หาดใหญ่
ทิศใต้ ติดกับ บ้านควนคูหา
ทิศตะวันออก ติดกับ ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎร์ไทยบริเวณชายแดนปัตตานี
ทิศตะวันตก ติดกับ ศูนย์เมล็ดพันธ์ข้าวปัตตานี
สภาพชุมชน
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาปัตตานี รับผิดชอบการจัดกิจกรรมในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี ซึ่งประกอบด้วย 12อำเภอ 115 ตำบล 642 หมู่บ้าน มีประชากรรวม 724,365 เป็นชาย 357,725 คน และหญิง 366,640 คน (ระบบสถิติทางการทะเบียน ; กันยายน,2563)
จังหวัดปัตตานี เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ ๓ จังหวัดชานแดนภาคใต้ เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมที่หลากหลายทั้งวัฒนธรรมไทย จีน อิสลาม เช่น วัดที่สำคัญของศาสนาพุทธได้แก่ วัดช้างไห้ ซึ่งมีหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด วัดมุจลินทวาปีวิหาร (วัดหลวงพ่อดำ) เป็นที่ตั้งของมัสยิดกรือเซะซึ่งเป็นตำนานของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งเป็นที่นับถือของคนทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของมัสยิดกลาง ซึ่งถือว่าเป็นมัสยิดที่สวยที่สุดในประเทศไทย ซึ่งวัฒนธรรมทั้ง ๓ แบบ ถือเป็นข้อได้เปรียบในเชิงของการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเดินทางมายังแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดปัตตานี ก่อให้เกิดรายได้แก่ชุมชน และเนื่องจากจังหวัดปัตตานี มีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายมีทั้งพื้นที่ลุ่มสำหรับทำนา ทำสวนผลไม้ สวนยางพารา ซึ่งเป็นรายได้หลักของประชาชน และที่สำคัญอย่างยิ่งคือ จังหวัดปัตตานีมีพื้นที่ติดทะเล จึงมีบทบาททางเศรษฐกิจด้านการประมงที่สำคัญของภาคใต้ เป็นที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึก มีสะพานปลา โรงงานอุตสาหกรรมที่รองรับผลผลิตจากการประมง เช่นอุตสาหกรรมปลากระป๋อง อุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่เข็ง อุตสาหกรรมห้องเย็น และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้เกิดการสร้างงาน การมีรายได้ของประชากร ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ลักษณะภูมิประเทศ
เขตพื้นที่บริการ ตั้งอยู่ทางภาคใต้ฝั่งทะเลอ่าวไทย แบ่งเป็น ๓ ลักษณะ ประกอบด้วย พื้นราบชายฝั่งทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่จังหวัด ได้แก่ ทางตอนเหนือและทางตะวันออกของจังหวัดมีหาดทรายยาว และเป็นที่ราบชายฝั่งกว้างประมาณ 10 - 30 กิโลเมตร พื้นที่ราบลุ่ม บริเวณตอนกลาง และตอนใต้ของจังหวัด มีแม่น้ำปัตตานีไหลผ่าน ที่ดินมีความเหมาะสมในการเกษตรกรรม และพื้นที่ภูเขา ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนน้อยอยู่ทางตอนใต้ของอำเภอโคกโพธิ์ อำเภอกะพ้อ และทางตะวันออกของอำเภอสายบุรี
สภาพภูมิอากาศ
จังหวัดปัตตานี อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมที่พัดประจำฤดูกาล 2 ชนิด คือ ฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือหรือฤดูหนาว จะมีลมจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นลมเย็นและแห้งจากประเทศจีนพัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนตั้งแต่ ภาคกลางขึ้นไปมีอากาศหนาวเย็นและแห้งแล้งทั่วไป แต่ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงไปกลับมีฝนตกชุกเพราะลมมรสุมนี้ พัดผ่านอ่าวไทยจึงพัดพาเอาไอน้ำไปตกเป็นฝนทั่วไป ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป อากาศจึงไม่หนาวเย็นดังเช่นภาคอื่นๆ ที่อยู่ทางตอนบนของ ประเทศ และจังหวัดปัตตานีซึ่งอยู่ทางด้านฝั่งตะวันออกได้รับอิทธิพลของลมนี้เต็มที่จึงมีฝนตกอยู่ในเกณฑ์ปานกลางและมีอากาศเย็นเป็นครั้งคราว ลมมรสุมอีกชนิดหนึ่งคือลมมรสมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งพัดผ่านมหาสมุทรอินเดีย จึงพาเอาไอน้ำและความชุ่มชื้นมาสู่ประเทศไทย แต่เนื่องจากเทือกเขาตะนาวศรีด้านตะวันตกซึ่งปิดกั้นกระแสลมเอาไว้ จึงทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและจังหวัดปัตตานีมีฝนน้อยกว่าภาคใต้ ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุม
การประกอบอาชีพ
อาชีพหลักที่สำคัญของจังหวัดปัตตานี ได้แก่ อาชีพเกษตรกรรม ประเภททำนา ทำสวน ทั้งการทำสวน ยางพารา และสวนผลไม้ อาชีพการประมง ทั้งประเภทประมงชายฝั่ง(ประมงพื้นบ้าน) อุตสาหกรรมการประมง รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องจากการประมง จากการสำรวจพบว่ามีกิจกรรมต่างๆหลายอย่าง เช่น การเลี้ยงหอยแครง การทำนาเกลือ การเลี้ยงนกเขาเล็ก หรือนกเขาชวา การทำเครื่องปั้นดินเผา การทำผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวการทำผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ การช่างตีเหล็ก การทำเรือกอและจำลอง การเพาะชำพืชเกษตร การทำนาเกลือนอกจากนั้นยังมีการทำอาหารและขนมประเภทต่างๆ ได้แก่ ข้าวเกรียบกุ้ง ข้าวเกรียบปลา การทำปลากระตักแห้ง การทำลูกหยีกวน ลูกหยีฉาบ ลูกหยีทรงเครื่องการทำน้ำบูดู