การใส่วิดีทัศน์

วิดีทัศน์ หรือ VIDEO ถือเป็นไฟล์มัลติมีเดียขนาดใหญ่ ที่อาจจะมีอุปสรรคในการ แสดงผลอยู่บ้าง ไฟล์ VIDEO ที่คุ้นเคยมากที่สุดก็คือ YouTube เป็นวิดีทัศน์ที่ถือว่าแสดงผลหรือให้ชมเป็นสาธารณะ นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถนำไฟล์ VIDEO ที่ถ่ายทำขึ้น Upload ขึ้นสู่ระบบผ่าน Google Drive เพื่อเรียกมาใช้งานได้ ด้วย

สรุป ท่านสามารถใช้งานวิดีทัศน์ จาก 2 แหล่ง 5 วิธีการ

1. ผ่านการเลือกทาง YouTube สาธารณะทั่วไป

2. ผ่าน embed code ของรายการ YouTube/YouTube Channel ที่เลือก

3. ผ่านการวาง links

4. ผ่านการเลือกทาง YouTube Channel เป็นสถานี video ที่ท่านสร้างขึ้น

5. ผ่านทาง Google Drive เป็นไฟล์ video ที่ท่านทำการ Upload วางไว้ใน Google Drive

1. YouTube สาธารณะทั่วไป

1) ที่กลุ่มเครื่องมือด้านขวา เลือก กลุ่ม Insert หรือ แทรก

2) เลือกรายการชุด Google Embeds (หรือ ไฟล์ฝังของ Google) ไปที่ตัวเลือกย่อย > YouTube ตามลำดับ

3) กำหนดคำค้นหา

4) ดำเนินการค้นหาตามคำที่กำหนด

5) เลือก video เป้าหมาย

6) ยืนยัน video ที่เลือกโดยกดที่ปุ่ม Select (เลือก)

2. YouTube/YouTube Channel การแสดงผลผ่าน embed code

แบบฝัง code มีวิธีการดังนี้

1) ไปที่ YouTube ทำการเลือก video ตามเป้าหมาย

2) คลิกเมาส์ปุ่มขวา เพื่อ เลือกรายการ Copy embed code

3) ไปที่ กลุ่มเครื่องมือ insert (แทรก) เลือก Embed

4) หน้าต่าง Embed from the web แสดงขึ้น เลือกไปที่ แท็บ EMBED CODE

5) คลิกขวา Paste CODE ลง ตรงกรอบพื้นที่ เสร็จแล้ว คลิกปุ่ม NEXT

6) ที่ช่อง script CODE ที่วาง จะกลายเป็นช่อง Preview เพื่อตรวจสอบการแสดงผล ขั้นตอนสุดท้าย หาก ถูกต้อง ทำการคลิกปุ่ม INSERT (แทรก) ได้เลย

7) ทำการปรับขนาด ตำแหน่งตามความต้องการ

3. ผ่านการวาง links

เป็นอีกวิธีการง่ายๆ โดยทำการ Copy ส่วนของ URL ตรงช่อง address bar แล้วนำมาวางไว้ ในหน้าเอกสารเว็บ เมื่อผู้เข้าใช้งานเว็บ คลิกที่ Links นี้ ระบบจะแสดงหน้า YouTube ตามรายการที่ links ไว้

ตัวอย่าง

เมื่อได้ links และทำการวางตามบรรทัดด้านล่าง

https://www.youtube.com/watch?v=oAwGBYdvwW0

แต่ ยังไม่สามารถ links ไปยัง YouTube ได้ ท่านต้องทำการ กำหนด ค่าเพื่อส่ง links โดยทำการ เลือกบรรทัด URL ดังภาพด้านล่าง แล้วคลิกที่ปุ่ม Insert link (ตรงลูกศรแดง) ระบบจะวาง link ให้โดยอัตโนมัติ

ข้อด้อย ของ 3 รูปแบบข้างต้น

1) ผู้ใช้ ต้องเสียเวลาในการเลือกหา ซึ่งบางครั้งอาจไม่ตรงกับความต้องการได้

2) รูปแบบนี้ เมื่อ Video เล่นจบ ระบบพร้อมที่ จะเล่น clip ต่อไป ที่ อาจจะตรง หรือ ไม่ตรงเนื้อหาก็ได้ ซึ่งหากเป็นการศึกษาที่ต้องเข้มข้น อาจทำให้ผู้เรียน ออกนอกเส้นทางได้

3) หากไฟล์ Video Clip ถูกลบ หรือ ถอด ออกจาก YouTube จะทำให้สาระเนื้อหา หรือ บทเรียนที่เราเลือกใช้ จะไม่สามารถใช้งาน Video นี้ได้


4 . ผ่านการเลือกทาง YouTube Channel เป็นสถานี video ที่ท่านสร้างขึ้น

วิธีการนี้ คล้ายกับ วิธีการที่ 1 ต่างกันตรงที่ว่า

1) ผู้ใช้งานต้องรู้ Channel ตนเอง

2) สาระเนื้อหารูปแบบนี้ แม้ว่าเล่นจบ และสามารถข้ามไปเล่น Clip ถัดไปได้ แต่ก็ยังอยู่ภายใน Channel ตนเอง

ข้อด้อย

รูปแบบนี้ เมื่อ Video เล่นจบ ระบบพร้อมที่ จะเล่น clip ต่อไป แม้ว่า Clip ต่อไปนั้นอาจจะยังอยู่ในกลุ่มเนื้อหาเดียวกันก็ตาม แต่อาจทำให้เสียเวลาในการศึกษาเรียนรู้ในเนื้อหาถัดไปได้

5. ผ่านทาง Google Drive เป็นไฟล์ video ที่ท่านทำการ Upload วางไว้ใน Google Drive

วิธีการนี้ เป็นการนำเอาไฟล์ Video ที่เรา ทำการ Upload วางไว้ที่ Google Drive ลงมาแสดงผล

วิธีการ มีดังนี้

1) ที่กลุ่มเครื่องมือด้านขวา เลือก กลุ่ม Insert หรือ แทรก

2) เลือกรายการชุด Google Drive ไปที่ตัวเลือกย่อย > From Drive ตามลำดับ

3) เมื่อคลิก จะแสดงรายการที่ Google Drive . ทำการเลือกไฟล์วิดีทัศน์ที่ท่านเคย Upload ไว้

4) ทำการเลือกไฟล์วิดีทัศน์ ที่ต้องการ ซึ่งจะแสดงด้วยแถบตำว่า INSERT (เลือก)

5) วิดีทัศน์ที่เลือก จะเข้ามาแสดงในหน้่าเว็บ

6)ทำการปรับขนาดและตำแหน่งตามที่ต้องการ

Google Classroom Extension PUSH TO STUDENTS.mp4

จุดเด่น ในวิธีนี้

1) ไฟล์วิดีทัศน์ ไม่มีการสูญหายจากระบบ ทำให้บทเรียนหรือ เนื้อหา มีความสมบูรณ์ตลอดเวลา

2) เมื่อวิดีทัศน์เล่นจบ จะไม่ออกนอกเส้นทางไปไหน ทำให้กระบวนการตรึงพฤติกรรมต่อการเรียนรู้ยังคงมีต่อเนื่อง

ไฟล์ที่ท่านเลือกนี้ จะยังไม่สามารถ Online สาธารณะได้ ท่านต้องทำการตั้งค่าเพื่อกำหนดเผยแพร่สาธารณะ ดูวิธีการตั้งค่า