วัดประชุมโยธี

วัดประชุมโยธี พระอารามหลวง

ประวัติวัดประชุมโยธีชั้นและตำบลที่ตั้ง

วัดประชุมโยธี เดิมชื่อ วัดควน เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา

พื้นที่และอาณาเขตวัด

ที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดประชุมโยธี เดิมมีเนื้อที่ 10 ไร่ 2 งาน 48 ตารางวา แต่เนื่องจากในปี พ.ศ. 2481 ทางราชการต้องการขยายถนนจึงได้เวนคืนที่ดินของวัดตลอดแนวหน้าวัด เป็นจำนวน 2 ไร่ 10 ตารางวาเศษ โดยวัดจากกลางถนนออกไปข้างละ 25 เมตร ทำให้ปัจจุบันวัดประชุมโยธี มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 8 ไร่ 2 งาน 27 ตารางวา โดยมีอาณาเขต ดังนี้

ทิศเหนือ จดคูน้ำ และถนนเพชรเกษม สายพังงา – กระบี่

ทิศใต้ จดตลาดพังงาและภูเขา

ทิศตะวันออก จดถนนเพชรเกษมตลอดแนว สายกระบี่ – พังงา

ทิศตะวันตก จดคูน้ำ

ประวัติและการก่อสร้างวัดประชุมโยธี

วัดประชุมโยธีเดิมเป็นที่พำนักสงฆ์ โดยประชาชนในตลาดพังงา* และละแวกใกล้เคียงได้ปลูกที่พักสงฆ์ไว้บนเนินเขาซึ่งเป็นที่ตั้งวัดในปัจจุบัน เพื่อให้พระภิกษุซึ่งธุดงค์มาจากแดนไกลในช่วงออกพรรษาเพื่อปฏิบัติธรรม และสั่งสอนธรรมแก่ประชาชน โดยพระสงฆ์บางรูปที่ประชาชนซึ้งถึงรสพระธรรมก็นิมนต์ท่านให้อยู่นานๆ บางรูปประชาชนก็จะนิมนต์ให้อยู่จำพรรษาก็มี วัดประชุมโยธี หรือวัดควน ได้เริ่มก่อสร้างอย่างเป็นทางการเมื่อประมาณปีพุทธศักราช 2392 ในปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3)* ปัจจุบันเรียกว่าตลาดเหนือ ถูกไฟไหม้เมื่อปีมะเส็ง พ.ศ. 2460โดยเจ้าจอมยี่สุน ณ นคร ซึ่งเป็นธิดาคนโตของพระยาบริรักษ์ภูธร (แสง ณ นคร) เจ้าเมืองพังงาในขณะนั้น ได้ลาราชการจากเจ้าจอมในรัชกาลที่ 3 มาอยู่บ้านเดิมที่เมืองพังงา และได้ยินเกียรติคุณจากประชาชนว่า พระสงฆ์ที่สำนักสงฆ์วัดควนมีวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดมีผู้คนเคารพนับถือเป็นอันมาก ดังนั้นท่านจึงได้มาทำบุญและได้มาเห็นข้อวัตรปฏิบัติของพระภิกษุสามเณรของวัดนี้ว่าเป็นความจริงตามคำที่เขาบอกเล่า จึงเกิดศรัทธาและรับเป็นผู้อุปถัมป์บำรุงสำนักสงฆ์วัดควนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จากนั้นที่พำนักสงฆ์ชั่วคราวแห่งนี้ จึงได้รับการก่อสร้างและต่อเติมอยู่เสมอ จากเดิมมีกุฏิหลังเดียว เป็น 2 – 3 หลัง ตามลำดับ ส่วนสถานที่ฟังธรรม สนทนาธรรม ก็ขยับขยายจากกุฏิเล็กๆ เป็นศาลาโถง พอจะบรรจุผู้คนที่ศรัทธาได้เป็นจำนวนมาก ที่พำนักสงฆ์ในชั้นแรกก็กลับกลายมาเป็นสำนักสงฆ์ ขยายทั้งเนื้อที่ กุฏิ ศาลา ตลอดจนมีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษา เมื่อประชาชนเกิดความเลื่อมใสศรัทธามากเข้า จึงได้ให้บุตรหลานของตนเข้ามาอยู่ที่วัดและบรรพชาอุปสมบทกันเป็นประจำทุกๆ ปี

การยกฐานะของวัดเป็นพระอารามหลวง

วัดประชุมโยธี ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2525 ดังปรากฎหลักฐานในสำเนาหนังสือสำเนาแจ้งความของกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้

แจ้งความกระทรวงศึกษาธิการ

เรื่อง ยกวัดราษฎร์เป็นพระอารามหลวง

ด้วยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดประชุมโยธี ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2525 เป็นต้นไป แจ้งความมา ณ วันที่ 31 สิงหาคม

เกษม ศิริสัมพันธ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ความสำคัญของวัดประชุมโยธี

1. พระอุโบสถวัดประชุมโยธี ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา (พิธีดื่มน้ำสาบาน) ของข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ตั้งแต่สมัยการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จนกระทั่งเปลี่ยนแปลงการปกครอง

2. เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างตามโครงการกรมการศาสนา พ.ศ. 2511

3. เป็นพระอารามหลวง ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสังคมของจังหวัดพังงา

4. เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชนเขตเทศบาลเมืองพังงา จึงเหมาะที่จะเป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลและปฏิบัติธรรมของชาวชุมชนที่อยู่ใกล้วัด

5. เป็นศูนย์ประสานงานพระธรรมทูตจังหวัดพังงา

รายนามผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประชุมโยธีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

1. พระใบฎีกาปีด พ.ศ. 2392 – 2434

2. พระอธิการแก้ว (ธมฺมโชโต) พ.ศ. 2434 – 2448

3. พระปลัดหมุด พ.ศ. 2448 – 2463

4. พระศรีพิพัฒนธรรมวาที (เบ่งช้วน สิริวณฺโณ) พ.ศ. 2463 – 2506

5. พระปฏิภาณธรรมคณี (วัช ธมฺมสโร) พ.ศ. 2506 – 2540

6. พระเทพปัญญาโมลี (วิศิษฏ์ กนฺตสิริ ป.ธ.9 ) พ.ศ. 2540 – ปัจจุบัน

ประวัติ

พระเทพปัญญาโมลี (วิศิษฐ์ กนฺตสิริ) เจ้าคณะจังหวัดพังงา และเจ้าอาวาสวัดประชุมโยธี พระอารามหลวง

1. ตำแหน่ง ชื่อ พระเทพปัญญาโมลี ฉายา กนฺตสิริ อายุ 48 พรรษา 26 วิทยฐานะ เปรียญธรรม 9 ประโยค, พุทธศาสตรบัณฑิต, บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาพระพุทธศาสนา) วัดประชุมโยธี ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา

ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง

1. เจ้าคณะจังหวัดพังงา

2. เจ้าอาวาสวัดประชุมโยธี พระอารามหลวง

3. รองหัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 9

2. สถานะเดิม

ชื่อวิศิษฏ์ นามสกุล วงค์แฝด เกิด 2 ฯ 5 ค่ำ ปีมะโรง วันที่ 23 มีนาคม 2507 บิดาชื่อ นายวิวัฒ วงค์แฝด มารดาชื่อ นางหนู พัฒแก้ว บ้านเลขที่ 30/1 หมู่ 3 ตำบลป่ากอ อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา

3. บรรพชา

วัน 6 ฯ 4 ค่ำ ปีมะแม วันที่ 23 มีนาคม 2522 ณ วัดมงคลสถิต ตำบลป่ากอ อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา พระราชปฏิภาณมุณี วัดชนาธิการาม ตำบลนบปริง อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา เป็นพระอุปัชฌาย์

4. อุปสมบท

วัน 7 ฯ 8 ค่ำ ปีขาล วันที่ 12 กรกฎาคม 2529 ณ วัดประชุมโยธี ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา พระปฏิภาณธรรมคณี วัดประชุมโยธี ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูมงคลกิตติคุณ วัดมงคลสถิต ตำบลป่ากอ อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูมงคลธรรมรัต วัดมงคลสุทธาวาส ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา เป็นพระอนุสาวนาจารย์

5. วิทยฐานะ

1. พ.ศ. 2528 สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนผู้ใหญ่วัดคลองโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์

2. พ.ศ. 2536 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี “พุทธศาสตรบัณฑิต” มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร

3. พ.ศ. 2551 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท “บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

4. พ.ศ. 2525 สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักศาสนศึกษาวัดกะพังสุรินทร์ สำนักเรียนคณะจังหวัดตรัง

5. พ.ศ. 2535 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค สำนักเรียนวัดดุสิดารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร6. พ.ศ. 2555 ได้รับปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาพุทธศาสนา) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

6. งานปกครอง

1. พ.ศ. 2540 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดประชุมโยธี พระอารามหลวง และเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดพังงา

2. พ.ศ. 2541 (7 ตุลาคม 2541) ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพังงา

3. พ.ศ. 2542 (17 มีนาคม 2542) ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ 4. พ.ศ. 2543 (6 มีนาคม 2543) ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดประชุมธี พระอารามหลวง

7. สมณศักดิ์

1. พ.ศ. 2542 (5 ธันวาคม 2542) ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระศรีปฏิภาณธรรมคณี”

2. พ.ศ. 2547 (12 สิงหาคม 2547) ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ “พระราชปัญญาสุธี”

3. พ.ศ. 2554 5 ธันวาคม 2554 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ “พระเทพปัญญาโมลี”


ข้อมูลจาก https://oer.learn.in.th/search_detail/result/132577#oer_data