แหลมพรหมเทพ
จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งแดนใต้
Embedded Files
ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
แหลมโค้งสวยงามตา
แหลมโค้งสวยงามตา
ท้องฟ้าสดใส
ท้องฟ้าสดใส
ความเป็นมา :
แหลมพรหมเทพ หรือชื่อเดิมว่า “แหลมเจ้า” เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลอันดามัน ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ตในเขตตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต ชื่อ "พรหมเทพ" มาจากคำว่า “พรหม” หมายถึงเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ และ “เทพ” ก็คือ เทวดา รวมกันหมายถึง “แหลมแห่งเทพเจ้า” โดยเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีพลังแห่งธรรมชาติ แหลมแห่งนี้เคยเป็นที่รู้จักของชาวประมงพื้นถิ่นมาช้านาน ก่อนจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกในยุคปัจจุบัน
ความเป็นมา :
แหลมพรหมเทพ หรือชื่อเดิมว่า “แหลมเจ้า” เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลอันดามัน ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ตในเขตตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต ชื่อ "พรหมเทพ" มาจากคำว่า “พรหม” หมายถึงเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ และ “เทพ” ก็คือ เทวดา รวมกันหมายถึง “แหลมแห่งเทพเจ้า” โดยเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีพลังแห่งธรรมชาติ แหลมแห่งนี้เคยเป็นที่รู้จักของชาวประมงพื้นถิ่นมาช้านาน ก่อนจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกในยุคปัจจุบัน
จุดเด่น:
วิวทิวทัศน์ของผืนทะเลอันดามันอันกว้างใหญ่ โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในประเทศไทย นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติหลั่งไหลมาเยือนทุกเย็นเพื่อชมภาพดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าพร้อมแสงสีทองที่สะท้อนผิวน้ำ เป็นภาพงดงามตราตรึงใจไม่รู้ลืม นอกจากนี้ยังมี “ต้นตาล” ขึ้นเรียงรายอยู่ริมแหลม ทำให้ภาพโดยรวมดูคลาสสิกและเป็นเอกลักษณ์อีกทั้งยังมีประภาคารกาญจนาภิเษกซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ครองราชย์ครบ 50 ปี ภายในประภาคารมีนิทรรศการทางทะเลและจุดชมวิวแบบ 360 องศา
แหลมพรหมเทพมีความสำคัญทั้งในเชิงการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และธรรมชาติ เป็นสถานที่ที่ชาวภูเก็ตภาคภูมิใจ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตที่มักปรากฏในโปสการ์ด แผ่นพับท่องเที่ยว และภาพยนตร์หลายเรื่อง การได้มายืนอยู่ที่แหลมพรหมเทพ เปรียบเหมือนการได้สัมผัสจิตวิญญาณของเกาะภูเก็ตที่หลอมรวมระหว่างมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติกับศรัทธาแห่งแผ่นดิน
จุดเด่น:
วิวทิวทัศน์ของผืนทะเลอันดามันอันกว้างใหญ่ โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในประเทศไทย นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติหลั่งไหลมาเยือนทุกเย็นเพื่อชมภาพดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าพร้อมแสงสีทองที่สะท้อนผิวน้ำ เป็นภาพงดงามตราตรึงใจไม่รู้ลืม นอกจากนี้ยังมี “ต้นตาล” ขึ้นเรียงรายอยู่ริมแหลม ทำให้ภาพโดยรวมดูคลาสสิกและเป็นเอกลักษณ์อีกทั้งยังมีประภาคารกาญจนาภิเษกซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ครองราชย์ครบ 50 ปี ภายในประภาคารมีนิทรรศการทางทะเลและจุดชมวิวแบบ 360 องศา
แหลมพรหมเทพมีความสำคัญทั้งในเชิงการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และธรรมชาติ เป็นสถานที่ที่ชาวภูเก็ตภาคภูมิใจ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตที่มักปรากฏในโปสการ์ด แผ่นพับท่องเที่ยว และภาพยนตร์หลายเรื่อง การได้มายืนอยู่ที่แหลมพรหมเทพ เปรียบเหมือนการได้สัมผัสจิตวิญญาณของเกาะภูเก็ตที่หลอมรวมระหว่างมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติกับศรัทธาแห่งแผ่นดิน
ภาพจาก :
สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดภูเก็ต
เว็บไซต์ salehere.co.th
ภาพจาก :
สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดภูเก็ต
เว็บไซต์ salehere.co.th
การเดินทาง :
การเดินทางมายังแหลมพรหมเทพทำได้ง่ายจากตัวเมืองภูเก็ต โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 30–40 นาที หากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวให้ใช้ถนนเจ้าฟ้า ผ่านห้าแยกฉลองแล้วมุ่งหน้าสู่หาดราไวย์ และต่อไปยังแหลมพรหมเทพโดยมีป้ายบอกทางชัดเจน หรือจะเช่ารถจักรยานยนต์ก็สะดวกเช่นกัน โดยตลอดทางสามารถแวะจุดชมวิวกะรน (Karon View Point) หรือจุดชมวิวสามอ่าว ได้อีกด้วย
การเดินทาง :
การเดินทางมายังแหลมพรหมเทพทำได้ง่ายจากตัวเมืองภูเก็ต โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 30–40 นาที หากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวให้ใช้ถนนเจ้าฟ้า ผ่านห้าแยกฉลองแล้วมุ่งหน้าสู่หาดราไวย์ และต่อไปยังแหลมพรหมเทพโดยมีป้ายบอกทางชัดเจน หรือจะเช่ารถจักรยานยนต์ก็สะดวกเช่นกัน โดยตลอดทางสามารถแวะจุดชมวิวกะรน (Karon View Point) หรือจุดชมวิวสามอ่าว ได้อีกด้วย
ที่มาข้อมูล :
"แหลมพรหมเทพ." เทศบาลตำบลราไวย์, https://www.rawai.go.th/travel/detail/113/data.html. เข้าถึงเมื่อ 18 เมษายน 2568.
"แหลมพรหมเทพ - สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ." สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ, https://naturalsite.onep.go.th/site/detail/44. เข้าถึงเมื่อ 18 เมษายน 2568.
ที่มาข้อมูล :
"แหลมพรหมเทพ." เทศบาลตำบลราไวย์, https://www.rawai.go.th/travel/detail/113/data.html. เข้าถึงเมื่อ 18 เมษายน 2568.
"แหลมพรหมเทพ - สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ." สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ, https://naturalsite.onep.go.th/site/detail/44. เข้าถึงเมื่อ 18 เมษายน 2568.
Google Map
Google Map
Page updated
Report abuse