แหล่งท่องเที่ยว

สะพานข้ามแม่น้ำแคว ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขามอำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะสร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง เมื่อปีพ.ศ. 2489จนสามารถใช้งานได้ดังเดิม ปัจจุบัน มีการยกย่องให้สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญจนเรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของกาญจนบุรี

ข้อมูลเพิ่มเติม สะพานข้ามแม่น้ำแคว

วัดถ้ำพุหว้า ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตัววัดเป็นศิลปะแบบขอมประยุกต์ที่สวยงาม เป็นวัดป่าอยู่ในอ้อม กอดของขุนเขามีบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ แต่เดิมวัดแห่งนี้มีถ้ำเป็นอุโบสถ แต่ปัจจุบันได้รับการ บูรณะให้สวยงามอลังการด้วยการสร้างอุโบสถหินทรายมีการแกะสลักลวดลายรอบอุโบสถได้อ่อนช้อยงดงามครอบตัวถ้ำเอาไว้ เมื่อเดิน เข้าไปในพระอุโบสถก็จะถึงปากทางเข้าถ้ำซึ่งภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามตามธรรมชาติมีปล่องแสงภายในถ้ำเพื่อให้แสงส่อง ลงมา มีพระพุทธรูปหลายองค์ รวมถึงพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสหภาพเมียนมาร์ประดิษฐานไว้ให้นักท่องเที่ยว ได้สักการะบูชา

ข้อมูลและภาพเพิ่มเติม วัดถ้ำพุหว้า

ชุมชนถนนปากแพรก หรือชุมชนบ้านเหนือ เป็นชุมชนเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของกาญจนบุรี ตั้งอยู่ริมกำแพงเมืองกาญจนบุรี ความน่าสนใจของถนนสายนี้ คือ อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่ยังคงสภาพเดิมไว้ค่อนข้างมาก มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในรูปแบบตะวันออกผสมตะวันตก ที่สร้างขึ้นในยุครัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา มีทั้งโบราณสถาน บ้านเรือน ร้านค้าแบบไม้และตึกอยู่รวมกันตลอดเส้นทางสายนี้ เป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตรที่ซึ่งเสน่ห์อันเก่าแก่อดีตในปัจจุบันที่มีมนต์ขลังที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของคืนวันเก่าๆ ยังคงปรากฏ ให้เห็นอย่างแจ่มชัดบนสองฟากฝั่งถนน

ข้อมูลเพิ่มเติม ถนนปากแพรก


รือเทวดา วัดใต้ ตั้งอยู่ที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม หรือ วัดใต้ เป็นเรือเทวดาอันงดงาม ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ภายในวัด ซึ่งสร้างเพื่อใช้เป็นเมรุสำหรับตั้งศพของเจ้าอาวาส องค์เก่า หลังจากพิธีศพเสร็จสิ้นไป เรือเทวดาจึงกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมเยือน

หินเทพช้าง ตั้งอยู่ในวัดทัพศิลา ตำบลช่องสะเดาอำเภอเมือง มีลักษณะเป็นกลุ่มหินมีรูปร่างคล้ายช้างหมอบอยู่ และจมอยู่ที่พื้นที่เกือบครึ่งตัวภายใต้อาคารมีหลังคาคลุมทรงแปดเหลี่ยม มีระดับความลึกลงไปจากระดับพื้นดินปรกติประมาณ 2 เมตร มีความเชื่อต่อๆ กันมาว่า เทพช้างมีความศักดิ์สิทธิ์มาก หากใครที่ได้มีโอกาสมาจุดธูปอธิษฐาน และนำผลไม้ที่ช้างชื่นชอบ อาทิ กล้วย อ้อย สัปปะรด ฯลฯ มาถวายแด่ “เทพช้างวัดทัพศิลา” และขอพรที่ตนปรารถนา ก็จะได้ตามสิ่งที่ปรารถนา นอกจากนี้ภายในวัดยังมี พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง ตั้งอยู่บนเนินเขาบริเวณด้านหลังของวัดทัพศิลา อีกด้วย

ข้อมูลและภาพเพิ่มเติม หินเทพช้าง วัดทัพศิลา


อำเภอท่าม่วง

วัดถ้ำเสือ

วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี สิ่งที่สะดุดสายตาของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมวัด เพื่อกราบนมัสการพระธาตุ ก็คือ ความใหญ่โตกว้างขวาง ของวัด และพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรีตัวองค์ พระสวยงามประดับ ด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์ นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท องค์พระเจดีย์เป็นสีอิฐ ทั้งองค์ แบ่งเป็นชั้นต่าง ๆ หลายชั้น แต่ละชั้นจะ ประดิษฐาน พระพุทธรูป มากมาย จนถึงชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญ มา จากประเทศ อินเดีย และยังมีวิหารต่าง ๆ ให้เข้าไปสักการะพระพุทธรูปและชื่นชมความงดงามของจิตรกรรมฝาผนังภายใน


วัดแท่นหินลำภาชี

วัดหินแท่นลำภาชี ตำบลหนองไผ่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัด กาญจนบุรี อีกหนึ่งวัดที่สวยงามของจังหวัด มีอุโบสถบนสำเภาแก้ว สีขาว ประดิษฐานอยู่บนเรือหงส์ มีรูปปั้นของสมเด็จพระพุฒจารย์โตสีทององค์ใหญ่ด้านหน้าวัด ภายในอุโบสถมีพระประธาน ชื่อสมเด็จพุทธรัตนมุนีศรีโสธร ที่ล้อมรอบด้วยอสีติมหาสาวก หรือพระสาวกผู้ยิ่งใหญ่ 80 รูป นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อทันใจ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของวัดอัญเชิญญาณจากพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศมาประดิษฐานไว้ในส่วนพระเกศ

ข้อมูลเพิ่มเติม คลิ๊ก วัดแท่นหินลำภาชี


อำเภอไทรโยค

อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์

อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำแควน้อยทางทิศเหนือในอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เป็นการศึกษาโบราณสถานที่ทรงคุณค่า มีอายุกว่า 800 ปี ได้เห็นถึงอิทธิพลของขอมในอดีต และเรียนรู้ความเป็นมาจากสถาปัตยกรรมการสร้างปราสาทขอม เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น. ค่าเข้าชมสำหรับ คนไทย 10 บาท รถยนต์ 50 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 034 585 052-3


ทางรถไฟสายมรณะ

“หากนับหมอนหนุนรางรถไฟมีเท่าไหร่ จำนวนผู้คน-เชลยศึกที่ถูกเกณฑ์มาสร้าง ทางรถไฟ สายนี้ก็ตายไปเท่านั้น” นี่คือคำเล่าขานถึงเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ไทย-พม่า ระยะทางกว่า 415 กิโลเมตรนี้ คือ ความหฤโหด ทารุณ และยากลำบาก ของสิ่งที่เชลยศึกได้รับ จนได้รับการขนานนาม ว่า “เส้นทางรถไฟสายมรณะ” ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเดินรถบนเส้นทางสาย ธนบุรี-น้ำตกทุกวัน และจัดรถไฟขบวนพิเศษสายกรุงเทพฯ – น้ำตก ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ จุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาก คือช่วงสะพานข้ามแม่น้ำแควและช่วงโค้งมรณะหรือ ถ้ำกระแซซึ่งเป็นสะพานโค้งเลียบ แม่น้ำแควน้อยยาวประมาณ 400 เมตร ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางนี้สวยงามมาก ที่เส้นทางรถไฟ จะลัดเลาะไปตามเชิงผาเลียบไปกับลำน้ำแควน้อย โดยจะ วิ่งเลียบผ่านและจอดที่สถานีถ้ำกระแซเวลา 13.30 น. ซึ่งหากใครขับรถมาชม ด้วยตัวเองเองก็มารอที่ถ้ำกระแซและควรมาก่อนช่วงเวลาซักเล็กน้อย


น้ำตกไทรโยคน้อย

น้ำตกไทรโยคน้อย หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตกเขาพัง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมาช้านาน เหตุที่ได้ชื่อว่าน้ำตกเขาพัง เพราะเกิดบน หน้าผาหินปูนที่พังทลายลงมาจนเกิดโขดหินปูนลดหลั่นกันอยู่ตรงบริเวณเชิงเขา ต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตาม ลำธารเล็กๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูนที่มีความสูง ประมาณ 15 เมตร แผ่กระจายไปตามพื้นเขาลาดเอียง ภายใต้ร่มเงาของพันธุ์ไม้ นานาชนิดเป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่ใหญ่มากมีเพียงชั้นเดียว ในฤดูฝนจะมีน้ำค่อนข้างเยอะกว่าฤดูแล้งซึ่งจะไม่มีน้ำ เป็นน้ำตก ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจน์เพียง 60 ก.ม. ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสายหลักซึ่งค่อนข้างเดินทางสะดวก