ผู้ก่อตั้ง
วลีติดปาก: "ถ้าไม่ลงมือทำ สิ่งที่ดีก็จะไม่เกิด คนทุกคน เริ่มต้นที่การลงมือทำ"
ตั้งอยู่ที่ ศูนย์เรียนรู้ครัวเรือนต้นแบบ โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน “ไร่พิกุลทอง” แปลงขนาดพื้นที่ 12 ไร่ บ้านขามป้อม หมู่ 10 ตำบลขัวเรียง อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบ ตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดย มีฐานการเรียนรู้ ต่างๆ ที่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน ภาครัฐ เอกชน และเจ้าของพื้น ในการพัฒนาก่อตั้งขึ้น
"ไร่พิกุลทอง" มีฐานการเรียนรู้ภายใน ไร่ จำนวน 6 ฐาน ดังนี้
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่พบในดินและน้ำ มีประโยชน์ต่อพืช ช่วยกำจัดของเสีย ก๊าซ และสารพิษต่าง ๆ
วิธีผลิต
1.เตรียมน้ำธรรมชาติ ไข่ไก่ ชูรส ขวดใส และหัวเชื้อ
2.ผสมไข่กับชูรสตามขนาดขวด (1.5 ลิตร: ไข่ 2 ช้อนโต๊ะ + ชูรส 1 ช้อนชา / 6 ลิตร: ไข่ 3 ช้อนโต๊ะ + ชูรส 2 ช้อนชา)
3.เติมหัวเชื้อและน้ำ แล้วตากแดด 2-3 เดือน
ประโยชน์
1.ตรึงและเพิ่มไนโตรเจนในดิน ทำให้พืชโตเร็ว แข็งแรง
2.ส่งเสริมการแตกรากและการแตกกอของข้าว
3.ย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้พืชดูดซึมได้ง่าย
4.ป้องกันโรคพืชโดยทำลายจุลินทรีย์ไม่ดีในดิน
การทำปุ๋ยหมักจากใบไม้แห้ง
เป็นวิธีแปรของเสียให้มีประโยชน์ เหมาะสำหรับเกษตรกรที่มีวัสดุในพื้นที่ เช่น ใบไม้แห้ง ทำง่าย ไม่ต้องพลิกกอง และใช้เวลาหมักไม่นาน แต่ต้องดูแลใกล้ชิด
วิธีทำ
1.ใช้ใบไม้แห้ง 100 ส่วน
2.ปุ๋ยคอก 10 ส่วน
3.ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือสูตรอื่น 1 ส่วน
คลุกเคล้าส่วนผสมเข้าด้วยกัน แล้วหมักไว้ในที่ร่ม
เหตุผลที่ใช้ปุ๋ยเคมี
เพื่อเสริมธาตุอาหารให้พืชในปริมาณพอเหมาะ ไม่ทำลายดิน
ประโยชน์
1.ลดขยะจากใบไม้
2.ลดการเผาทำลายและมลภาวะ
3.ได้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดีบำรุงพืช
การทำแซนด์วิชปลาเพื่อลดต้นทุนอาหารปลา
การทำ "แซนด์วิชปลา" เป็นวิธีเลี้ยงปลาโดยอาศัยวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น เพื่อประหยัดค่าอาหารและสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน เหมาะสำหรับบ่อ หนองน้ำ หรือคูคลอง โดยมี 2 รูปแบบคือ
1.แบบคอกไม้ไผ่ – ใช้ไม้ไผ่ปักเป็นครึ่งวงกลมริมหนองน้ำ
2.แบบเสวียน – สานไม้ไผ่เป็นทรงกลมคล้ายเข่ง ปักลงในน้ำ
วัสดุที่ใช้: ไม้ไผ่, ฟาง/ผักตบชวา/ใบไม้, ปุ๋ยคอก, น้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ
วิธีทำ: วางวัสดุเป็นชั้น ๆ ในคอกหรือเสวียน ย่ำให้แน่น ใส่ปุ๋ยคอกและราดน้ำหมัก ทิ้งไว้ให้จุลินทรีย์ย่อยสลาย จะเกิดแพลงก์ตอน หนอน และไรแดง ซึ่งเป็นอาหารธรรมชาติของปลา
การดูแล: เติมวัสดุเมื่อยุบ ใช้งานได้จนกว่าจะผุพัง
การปลูกป่า 5 ระดับแบบกสิกรรมธรรมชาติ
ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เป็นแนวคิดตามพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน ได้แก่
1.พอกิน – ปลูกไม้กินได้และสมุนไพร เช่น มะรุม ผักหวาน กล้วย
2.พอใช้ – ปลูกไม้ใช้สอย เช่น ไผ่ หวาย มะคำดีควาย
3.พออยู่ – ปลูกไม้สร้างบ้าน เช่น ตะเคียน ยางนา สัก
4.พอร่มเย็น – ช่วยฟื้นฟูดิน น้ำ และระบบนิเวศ
การปลูกป่า 5 ระดับแบบกสิกรรมธรรมชาติ คือการจัดระบบป่าให้หลากหลายและสมดุล
1.ไม้สูง – ไม้เรือนยอด เช่น ตะเคียน ยางนา
2.ไม้กลาง – ไม้ผล เช่น มะม่วง ขนุน
3.ไม้เตี้ย – ผักและพุ่มเตี้ย เช่น พริก ผักหวาน
4.ไม้เลื้อยเรี่ยดิน – ฟักทอง แตงกวา
5.ไม้หัวใต้ดิน – มัน เผือก ขิง ข่า
แนวคิดนี้ช่วยสร้างความมั่นคงด้านอาหาร พลังงาน ที่อยู่อาศัย และรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
โคกหนองนาโมเดล
เป็นแนวทางการพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมที่ผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่กับภูมิปัญญาพื้นบ้าน โดยเน้นความพอเพียงและความยั่งยืน มีองค์ประกอบหลัก 3 ส่วน คือ:
1.โคก (พื้นที่สูง): ใช้ดินจากการขุดหนองมาถมเป็นโคก ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง แบ่งการปลูกพืชตามระดับความสูง ช่วยให้เกษตรกรพอกินพอใช้
2.หนอง (แหล่งน้ำ): ขุดหนองและคลองไส้ไก่เพื่อกักเก็บน้ำ ใช้ระบบฝายและร่องน้ำเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการใช้น้ำในการเกษตร
3.นา: พื้นที่ปลูกข้าวอินทรีย์ ปลอดสารเคมี ช่วยฟื้นฟูดิน รักษาระบบนิเวศ และใช้คันนาในการรับน้ำท่วม
ประโยชน์: ช่วยลดต้นทุนการดำรงชีวิต เพิ่มความมั่นคงทางอาหารและน้ำ ลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และสร้างความยั่งยืนในชุมชน
EM Ball
(Effective Microorganisms Ball) หรือ “จุลินทรีย์บอล” คือก้อนจุลินทรีย์ธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยจุลินทรีย์ 3 กลุ่ม ได้แก่ จุลินทรีย์กรดแลกติก ยีสต์ และจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ช่วยย่อยสลายตะกอนในน้ำ เพิ่มออกซิเจน และฟื้นฟูคุณภาพน้ำ เหมาะสำหรับใช้บำบัดน้ำเสีย โดยเฉพาะในช่วงน้ำท่วม
วิธีทำ EM Ball อย่างง่าย
1.ผสมรำละเอียด 2 ส่วน, แกลบป่นหรือรำหยาบ 1 ส่วน, ดินทรายหรือโคลนตะกอน 1 ส่วน
2.ผสมน้ำยา EM 10 ช้อน, กากน้ำตาล 10 ช้อน, น้ำสะอาด 10 ลิตร
3.คลุกทุกอย่างเข้าด้วยกัน ปั้นเป็นก้อน ขนาดลูกเปตอง
4.ตากไว้ในที่ร่ม 3 วันจนแห้งสนิท
การใช้งาน
โยน EM Ball ลงในแหล่งน้ำเน่าเสีย ทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ น้ำจะค่อยๆ ดีขึ้น
ข้อควรรู้
1.EM เป็นสิ่งมีชีวิต ควรเก็บไว้ในที่ร่ม อุณหภูมิ 20-45°C
2.หากยังไม่เปิดใช้ เก็บได้นาน 1 ปี เปิดแล้วเก็บได้ 6 เดือน
อ้างอิงข้อมูลจาก : ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอชุมแพ,ไร่พิกุลทอง ,สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,มหาวิทยาลัยมหิดล,ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตรและพลังคนสร้างสรรค์โลก