ไก่ย่างเขาสวนกวาง: ตำนานแห่งความอร่อยจากดินแดนหมอแคน
จังหวัดขอนแก่น ได้รับสมญานามว่าเป็นดินแดนเสียงแคนดอกคูน ถิ่นหมอแคนแห่งแดนอีสาน ทว่าเสน่ห์ของบ้านนี้เมืองนี้หาได้มีเพียงแค่เสียงแคนอันไพเราะหรือดอกคูนสีเหลืองสะพรั่งเท่านั้น หากยังมีเมนูเด็ดที่สามารถดึงดูดผู้มาเยือนได้ไม่แพ้สิ่งใด นั่นคือ "ไก่ย่างเขาสวนกวาง" อาหารขึ้นชื่อที่คนไทยทั่วประเทศต่างยกย่องว่าอร่อยไม่แพ้ไก่ย่างเจ้าดังใดในแผ่นดิน
หากเอ่ยถึง “ไก่ย่าง” อาหารคลาสสิกที่หลายคนหลงรัก เชื่อว่าชื่อของไก่ย่างวิเชียรบุรีจากเพชรบูรณ์ ไก่ย่างท่าช้างจากนครราชสีมา ไก่ย่างกอแระจากแดนใต้ หรือไก่ย่างเหลืองบางแสนย่อมผ่านหูผู้ที่นิยมในรสชาติอันกลมกล่อมนี้ ทว่า สำหรับผู้เขียนซึ่งเป็นชาวขอนแก่นโดยกำเนิด ต้องยกให้ "ไก่ย่างเขาสวนกวาง" เป็นไก่ย่างในดวงใจ ที่ทั้งรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั้นหาใดเปรียบ
อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำในวัยเยาว์ ผู้เขียนเคยได้เดินทางไปยังสวนสัตว์ขอนแก่นพร้อมกับตาและแม่ และหนึ่งในความสุขที่รอคอยเสมอคือการได้ลิ้มรสไก่ย่างเขาสวนกวางกับข้าวเหนียวนึ่งร้อน ๆ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน
ต้นกำเนิดของไก่ย่างเขาสวนกวาง เริ่มจากชาวบ้านในตำบลเขาสวนกวาง (ซึ่งในอดีตยังเป็นเพียงตำบลในเขตอำเภอน้ำพอง) นำไก่บ้านที่เลี้ยงเองมาหมักแล้วผ่าเป็นสองซีก ย่างบนเตาถ่านแล้วขายตามริมทางถนนมิตรภาพ กระทั่งในช่วงปี พ.ศ. 2515-2516 นายจงพวง แซ่อึ้ง ชาวกำแพงเพชร ได้อพยพมาอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้และเริ่มต้นทำธุรกิจไก่ย่างที่เปลี่ยนโฉมหน้าวงการไก่ย่างในอีสานไปอย่างสิ้นเชิง
นายจงพวงเริ่มต้นด้วยการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวและกาแฟ ขายให้แก่คนขับรถบรรทุกในย่านนั้น ก่อนจะหันมาสนใจไก่ย่างเมื่อเห็นชาวบ้านนิยมปิ้งไก่ขาย เขาจึงติดต่อฟาร์มเลี้ยงไก่ในอำเภอเมืองพล เพื่อหาสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับไก่บ้าน และพบกับ "ไก่เนื้อเกรด C" หรือที่รู้จักในชื่อ “ไก่เนื้อสามสายพันธุ์” ไก่กระเทยที่มีเนื้อคล้ายไก่บ้านคือ หนังบาง เนื้อเหนียวแต่นุ่ม ไม่มันจนเกินไป
แม้ธุรกิจขายส่งไก่จะไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่คาดหวัง แต่ด้วยความไม่ย่อท้อ นายจงพวงจึงตัดสินใจนำไก่ดังกล่าวมาปิ้งขายเอง พร้อมพัฒนาสูตรหมักไก่จากการรับฟังความคิดเห็นของลูกค้า จนกระทั่งกลายเป็นสูตรเด็ดที่ใครได้ชิมก็ต้องติดใจ
เอกลักษณ์ของไก่ย่างเขาสวนกวางที่นายจงพวงพัฒนาขึ้นมีหลายประการ ทั้งการใช้ไม้ไผ่ยาวคีบไก่ทั้งตัวแทนการผ่าไก่ขายเป็นซีก การคิดค้นเตาย่างไก่โดยใช้กะละมังเคลือบที่เจาะก้นแล้วครอบลงบนเตาถ่าน เพื่อกักเก็บความร้อนและทำให้ไก่สุกอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว รวมถึงการทำความสะอาดที่สะดวกกว่าเตาทั่วไป
ร้านไก่ย่างของนายจงพวงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนได้รับคำร่ำลือว่า “หากมาถึงเขาสวนกวาง ต้องกินไก่ย่างร้านนี้ให้ได้” ต่อมานายจงพวงจึงตั้งชื่อร้านว่า “ไก่ย่างวรรณา เขาสวนกวาง” โดยใช้ชื่อลูกสาวคนเล็กมาตั้งเป็นชื่อร้าน
ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์
นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ร้านไก่ย่างวรรณาเขาสวนกวางโด่งดังไปทั่วประเทศ คือวันที่ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ และนายสุรินทร์ โตทับเที่ยง มาชิมแล้วนำไปแนะนำในคอลัมน์ “เชลล์ชวนชิม” ในนิตยสารฟ้าเมืองไทย ทำให้เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2530 ร้านได้รับป้ายรับรองคุณภาพจากเชลล์ชวนชิมอย่างภาคภูมิใจ
ในปี พ.ศ. 2537 นายอำเภอเขาสวนกวางได้จัดเทศกาลไก่ย่างเขาสวนกวางขึ้น เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับอำเภอ และนับแต่นั้นมา ไก่ย่างเขาสวนกวางก็กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมอาหารของท้องถิ่น
ผู้เขียนได้รับข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดจากคุณกรีฑา ปัญญาเจริญผล หรือ “คุณโปร” บุตรคนที่ 4 ของนายจงพวง ผู้สืบทอดกิจการไก่ย่างวรรณา เขาสวนกวาง ที่เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนราคาขายไก่ย่างเพียงไม้ละ 8 บาท ต้องเข้าป่าไปตัดไม้ไผ่มาเอง หมักนวดไก่ด้วยมือครั้งละกว่า 50 กิโลกรัม
สูตรการย่างไก่ของร้านวรรณาเน้นการใช้ไก่เนื้อสามสายพันธุ์ นำมาคีบด้วยไม้ไผ่ตามแนวยาว ใช้ตอกไม้แทนลวดในการมัด เพื่อให้ไก่ย่างมีลักษณะสองด้าน คือ ด้านท้องและด้านหนัง ทำให้ความร้อนแทรกซึมได้ดีสุกทั่วถึง
สูตรหมักใช้สมุนไพรและเครื่องเทศที่เมื่อย่างแล้วทำให้หนังมีสีเหลืองทองโดยไม่ต้องเติมสี ย่างบนเตาถ่านที่ควบคุมความร้อนได้จากการใช้กะละมังเคลือบ และก่อนเสิร์ฟจะทาหนังด้วยน้ำมันกระเทียมเจียว แล้วย่างซ้ำให้หนังกรอบ ก่อนสับและโรยพริกไทยขาวเพิ่มกลิ่นหอม
คุณโปรยังกล่าวว่า ไก่ย่างเขาสวนกวางในอดีตไม่มีน้ำจิ้ม แต่เมื่อความนิยมเพิ่มขึ้นจึงได้พัฒนาสูตรน้ำจิ้มขึ้นสองแบบ ได้แก่ น้ำจิ้มแจ่วรสมะขามเปรี้ยวเค็มเผ็ดหวานกลมกล่อม และน้ำจิ้มหวานคล้ายน้ำจิ้มไก่ทั่วไป
สำหรับผู้ที่ซื้อไก่ย่างกลับบ้าน คุณโปรแนะนำว่าควรกินไก่หลังจากย่างใหม่ ๆ ในบรรยากาศธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการกินในห้องแอร์ เพราะจะทำให้หนังไก่เหนียว เนื้อเย็น หากจำเป็นต้องอุ่นใหม่ควรใช้หม้ออบลมร้อนหรือเตาย่างซ้ำเพียงเล็กน้อย เพื่อคืนความกรอบให้กับหนังไก่ก่อนรับประทาน
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของตำนานไก่ย่างเขาสวนกวาง ที่ไม่เพียงแต่บอกเล่าถึงความอร่อย แต่ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญา ความพยายาม และอัตลักษณ์ของผู้คนแห่งแดนอีสาน ที่สามารถเปลี่ยนเมนูพื้นบ้านให้กลายเป็นตำนานระดับประเทศได้อย่างงดงาม
อ้างอิงข้อมูลจาก : ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเขาสวนกวาง และ ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม