"วัด" เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน เป็นศูนย์รวมของสรรพสิ่ง หลากหลายกิจกรรมอยู่ที่วัด แม้แต่เรื่องของการศึกษาเล่าเรียน จนเป็นที่มาของคำว่า บวชเรียน แต่ในปัจจุบันดูเหมือนว่า "วัด" กลับมีบทบาทต่อชุมชนลดน้อยลง เหลือเพียงแค่ภาพของการเป็นสถานที่จัดพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานศพ หรืองานในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ส่วนภาพในบทบาทอื่นๆ ดูจะเลือนรางและนึกยากขึ้นทุกที
สถาปัตยกรรม (อังกฤษ: architecture) หมายถึง ผลงานศิลปะที่แสดงออกสิ่งก่อสร้าง รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกสิ่งปลูกสร้างนั้น ที่มาจากการออกแบบของมนุษย์ ด้วยศาสตร์ทางด้านศิลปะ การจัดวางที่ว่าง ทัศนศิลป์ และวิศวกรรมการก่อสร้าง เพื่อประโยชน์ใช้สอย สถาปัตยกรรมยังเป็นสื่อความคิด และสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของสังคมในยุคนั้นๆด้วย
จุดสนใจและความหมายของศาสตร์ทางสถาปัตยกรรมนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ศาสตรนิพนธ์ ว่าด้วยสถาปัตยกรรม (ละติน: De architectvra) ของวิตรูวิอุส ซึ่งเป็นบทความเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดที่เราค้นพบ ได้กล่าวไว้ว่า สถาปัตยกรรมต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสามส่วนหลัก ๆ ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวและสมดุล อันได้แก่
ความงาม (VENVSTAS) หมายถึง สัดส่วนและองค์ประกอบ การจัดวาง ที่ว่างและสี วัสดุและพื้นผิวของอาคารที่ผสมผสานลงตัว เพื่อยกระดับจิตใจของผู้ได้ยลหรือเยี่ยมเยือนสถานที่นั้น ๆ
ความมั่นคงแข็งแรง (FIRMITAS)
การใช้ประโยชน์ได้ (VTILITAS) หมายถึง การสนองประโยชน์และการบรรลุประโยชน์แห่งเจตนา รวมถึงปรัชญาของสถานที่นั้น
สถาปัตยกรรมภายใน (Open Architecture) เป็นสิ่งก่อสร้างที่ประชาชนสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น อาคารบ้านเรือน โรงแรม โบสถ์ ฯลฯ จึงต้องจัดสภาพต่าง ๆ ให้เอื้ออำนวยต่อการอยู่อาศัยของมนุษย์ เช่น แสงสว่าง และการระบายอากาศ
สถาปัตยกรรมภายนอก (Closing Architecture) เป็นสิ่งก่อสร้างอันเนื่องมาจากความเชื่อถือต่าง ๆ จึงไม่ต้องการให้คนเข้าไปอาศัยอยู่ เช่น สุสาน อนุสาวรีย์ เจดีย์ต่าง ๆ สิ่งก่อสร้างแบบนี้จะประดับประดาให้มีความงามมากน้อยตามความศรัทธาเชื่อถือ สถาปัตยกรรมเป็นงานทัศนศิลป์ที่คงสภาพอยู่ได้นานที่สุด
สถานที่ตั้ง บ้านแก้งกอก หมู่ 1 ถนนไชยมงคล ตำบลแก้งกอก อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี 34250
โทรศัพท์ 0-4539-9044