นางสวัสดิ์  ไชยศรี  ประธานกลุ่ม

สถานที่ติดต่อ ศาลากลางบ้าน หมู่ที่ ๖  บ้านหนองตูม ตำบลห้วยส้ม  อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ๔๒๑๘๐ 

  จุดเด่น   

       เสื่อกก โดยทั่วไปขึ้นอยู่กับวัสดุอุปกรณ์ที่ทำหากต้องการความสวยงาม ลายละเอียดมีความคงทนต้องเป็นเสื่อที่มาจากปอแก้วหรือปอกระเจา เส้นกกที่มีความเหนียวจะได้งานที่มีความสวยงามและลวดลายที่ละเอียด พร้อมกับลวดลายที่เป็นที่นิยมกันมากๆ เช่น ลายดอกมะขาม ลายตาล้อม ลายตาใบพัด ลายตาเรียง ลายทอง ลายขัด ลายขัดยกดอก ลายแม่ม่าย โดยใช้สีกกที่สลับหรือใช้สีตามความนิยม ซึ่งในสมัยโบราณจะมีสีสันมาจากธรรมชาติ


จุดเด่นของผลิตภัณฑ์

1. เส้นกก ที่ใช้ในการทอเสื่อ เป็นกกที่ปลูกในพื้นที่ตำบลดอนมนต์ เป็นกกน้ำจืด ซึ่งจะมีความเหนียวและทนทาน

2. กระบวนการผลิตเสื่อ มีความประณีตทุกขั้นตอน เริ่มจากการคัดสรรกกที่มีคุณภาพ จักกก การย้อมสีต้องย้อมให้สีเข้าถึงเส้นกกเพื่อให้สีติดทนนานและมีหลุดลอกติดเสื้อผ้า รวมถึงการตากกกต้องตากให้แห้งจัดก่อนนำมาทอเป็นผืนเสื่อด้วยลวดลายเฉพาะประณีต สวยงาม และทนทาน

3.การแปรรูปผลิตจากเสื่อกก เสื่อกกบ้านนาลาว สามารถนำมาแปรรูปเป็นของใช้ได้หลากหลายประเภท มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีคุณค่าทางจิตใจเหมาะสำหรับผู้ที่มีจิตใจเป็นนักอนุรักษ์ทรัพยากรธธรมชาติ


       เนื้อหาสาระ 

พืชที่ชาวบ้านในแถบภาคอีสาน นิยมนำมาสอยตากแดดให้แห้งและทอเป็นเสื่อเป็นวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่นและเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
มีลักษณะลำต้นกลมลู่ ดอกสีขาวนวลเป็นพวง ผิวมันเรียบ คือ กก กกเป็นพืชตระกูลหญ้า ซึ่งบางคนก็จะถือว่าเป็นวัชพืชธรรมดาแต่สำหรับชุมชนบ้านเขวาใหญ่กกเป็นพืชอันทรงคุณค่าที่นำมาผลิตเป็นเครื่องใช้ไม้สอยในชีวิตประจำวันในระหว่างฤดูฝนของทุกปีชาวบ้านจะพากันไปเก็บกกในนาของตนที่ปลูกไว้มาสอยแล้วนำมาผึ่งแดด มัดเก็บไว้ในที่แห้ง มีลมโกรก ในเกือบทุกใต้ถุนเรือนจะมีกิจกรรมต่ำสาดหรือทอเสื่อนั่นเอง เสื่อผืนงามที่ได้จากการทอจะเอาไว้ปูนั่งกันในครอบครัวและหมู่ญาติ รวมทั้งเป็นของฝากสำหรับผู้มาเยือน นำไปถวายวัดทำบุญในเทศกาลต่างๆและบางทีก็มีเหลือสำหรับขายเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัวซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชุมชนที่มีผลผลิตจากภูมิปัญญาชาวบ้านโดยมีกลุ่มจักรสานกก บ้านเขวาใหญ่ ตำบลเขวาใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ที่มีกิจกรรมการทอเสื่อจากวัสดุธรรมชาติมาเป็นเวลาช้านาน วัตถุดิบและแรงงานอยู่ในชุมชนเป็นภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นปู่ย่า ตายาย

การทอเสื่อกกเป็นภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณโดยนำเอาต้นกกมาแปรสภาพให้เป็นเส้น ย้อมสีแล้วสานทอให้เป็นแผ่นผืนเพื่อนำมาใช้ปูลาดรองนั่งหรือนอนหรือทำธุรกรรมต่างๆตลอดจนทำพิธีกรรมทางศาสนาและความเชื่อต่างๆ

      เสื่อกกเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีใช้กันอยู่ทั่วไปทั้งในประเทศหรือต่างประเทศทั้งนี้เพราะต้นกกเป็นพืชธรรมชาติที่ขึ้นอยู่ทั่วทุกภูมิภาค และภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นที่นำต้นกกมาแปรสภาพก็มีลักษณะคล้ายกัน หรือได้อิทธิพลทางความคิดจากกันและกัน ทำให้เสื่อกกถูกจัดได้ว่าเป็นปัจจัยจำเป็นอย่างหนึ่งต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในอดีตจนถึงปัจจุบัน

การทอเสื่อกก  เป็นภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น  ที่นำเอาต้นกกมาแปรสภาพให้เป็นเส้น ย้อมสี  แล้วสานทอให้เป็นแผ่นผืน  เพื่อนำมาใช้ปูลาดรองนั่งหรือนอน  หรือทำธุรกรรมต่างๆ  ตลอดจนทำพิธีกรรมทางศาสนาและความเชื่อ

เสื่อกก  เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีใช้กันอยู่ทั่วไปทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ  ทั้งนี้เพราะต้นกกเป็นพืชธรรมชาติที่ขึ้นอยู่ทั่วทุกภูมิภาค และภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นที่นำต้นกกมาแปรสภาพก็มีลักษณะคล้ายกัน หรือได้อิทธิพลทางความคิดจากกันและกัน ทำให้เสื่อกกถูกจัดได้ว่าเป็นปัจจัยจำเป็นอย่างหนึ่ง  ต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในอดีต

คือภูมิภาคหนึ่งที่มีการสืบสานภูมิปัญญาทางด้านการทอเสื่อกกนี้มายาวนาน จนปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อื่นเข้ามาทดแทนการใช้เสื่อกกมากมายให้เลือก นับตั้งแต่เสื่อน้ำมัน พรม กระเบื้องปูพื้น  และอื่นๆ  ทำให้กระแสความนิยมในการใช้เสื่อกกลดลง  และคนรุ่นใหม่ก็สนใจในภูมิรู้ด้านนี้น้อย

  การศึกษาข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นการทอเสื่อกกของชุมชนนี้  ก็เพื่อให้เห็นถึงวัฒนธรรมทางภูมิปัญญาของท้องถิ่น  และปัญหาที่เสี่ยงต่อการสูญสิ้นของภูมิปัญญานี้ ว่ามีมากหรือน้อย และด้วยปัจจัยหรือองค์ประกอบใด เพื่อนำไปสู่การอนุรักษ์หรือแก้ไข  สำหรับบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในโอกาสต่อไป

 

  ขั้นตอนและวิธีการทอเสื่อ

วัสดุอุปกรณ์ในการทำ

1.กรรไกร

2. กกหรือไหล

3. เชือกไนลอนหรือเชือกเอ็น

4. ฟืมทอเสื่อ 1 เมตร

5. โฮมทอเสื่อ กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร

6. ไม้สอดกก

            7. สียอมกก

วิธีการย้อมสีกก

1.ต้มน้ำให้ร้อนและผสมสีลงไป

2.นำต้นกกที่เตรียมเอามาลงต้มให้สีเข้ากับเนื้อกก

3.เอาขึ้นมาตากให้แห้ง

4.ตากให้แห้งแล้ว(สามารถเอามาทอได้)

ขั้นตอนการทำ

1. นำกกหรือไหลมากรีดออกเป็นเส้นไปตากแดดประมาณ 1 อาทิตย์

2. เมื่อแห้งแล้วนำมาย้อมสีตามต้องการ โดยสีที่ย้อมเป็นสีเคมีอย่างดี ส่วนมากจะย้อม สีน้ำตาลและสีขาว สีแดง สีน้ำเงิน

3. นำเชือกไนลอนหรือเชือกเอ็นขึงที่โฮมทอเสื่อให้เป็นเส้นตามโฮมและฟืม

4. นำกกหรือไหลสอดเข้ากับไม้สอดเพื่อที่จะสอดเข้ากับโฮมทอเสื่อ

5. เมื่อสอดกกหรือไหลเข้าไปแล้วผลักฟืมเข้าหาตัวเองให้กกหรือไหลแน่นติดกัน เป็นลายต่าง ๆ

6. ลายที่ทอเป็นประจำและเป็นที่นิยมคือ ลายมัดหมี่ ลายธรรมดา ลายกระจับ

7. จากนั้นก็นำเสื่อกกที่ทอแล้วมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น หมอน อาสนะ หนอนทอฟฟี่(หมอนข้าง) เสื่อพับ ที่รองแก้ว หมอนสามเหลี่ยม ฯลฯ


วิธีการทอเสื่อ

เลือกขนาดของฟืมให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ นำฟืมไปตั้งในโฮงที่จะทอแล้วตั้งให้ได้ระดับ ระยะห่างจากเหล็กตีนเสื่อประมาณ 2 ฟุต นำเชือกไนลอนมาขึงจามริมฟืมซี่แรก จะเริ่มจากด้านซ้าย หรือขวาก่อนก็ได้แล้วแต่ถนัด การขึงเชือกใช้คน 2 คน คนหนึ่งนั่งอยู่ที่หัวเสื่อคอยมัดเชือกที่ขึงให้ตึง และแน่น อีกคนนั่งอยู่ตีนเสื่อคอยสอดเชือกเข้ากับเหล็กตีนเสื่อ ใช้เชือกสอดเข้าไปในรูฟืมที่เจาะไว้ เป็นสองแถว แล้วดึงปลายเชือกไปเกาะติดกับตะปูที่เราตอกงอไว้ติดกับไม้อีกท่อนหนึ่ง แล้วยึดกันให้แน่น เชือกดึงให้ยาวตามความยาวของเสื่อ พรมนำใส่กกที่จะทอ

      ในการทอเสื่อจะใช้คน 2 คน คนแรกเป็นคนทอ อีกคนหนึ่งเป็นคนคอยสอดเส้นกก กกที่นำมาทอจะใส่ถุงพลาสติกเพื่อให้กกนิ่มและทอได้แน่น การทอคนทอจะต้องคว่ำฟืมเพื่อให้มีช่องว่างสำหรับสอดกก คนสอดจะสอดเส้นกกโดยแนบส่วนหัวของเส้นกกกับไม้สอด สอดไปตามช่องระหว่างเชือกที่แยกออกจากกันขณะที่คว่ำฟืม พอสอดไปสุดริมเชือกอีกข้างดึงไม้สอดกลับคืนคงเหลือแต่เส้นกก คนทอก็กระทบฟืมเข้าหาตัวแล้วคนทอก็หงายฟืม คนสอดก็ใช้ส่วนปลายของเส้นกกแนบกับไม้สอด สอดกกเข้าไปอีก คนทอก็กระตุกฟืมเข้าหาตัว แล้วไพริมเสื่อทางด้านซ้ายมือ การไพริมเสื่อ คือ การใช้ปลายกกม้วนงอลงแล้วสอดพับเชือกขัดไว้ให้แน่น ต่อไปคว่ำฟืม ไพริมเสื่อทางด้านขวามือ ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ขนาด

 ตามที่ต้องการ ในขณะทอหากต้องการให้การทอง่ายยิ่งขึ้นให้ใช้เทียนไขถูกับเส้นเอ็นที่ขึงไว้ ให้ทั่ว เพื่อที่จะให้เอ็นลื่นไม่ฝืด ตัดริมเสื่อทั้งสองด้านให้เรียบร้อย เสื่อจะมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น ใช้มีดตัดเชือกเอ็นทางตีนเสื่อเพื่อให้เสื่อออกจากโฮง มัดเอ็นที่ปลายเสื่อ เพื่อเป็นการป้องกันเสื่อรุ่ย นำเสื่อที่ทอเสร็จแล้วผึ่งแดดไว้จนแห้งสนิท จึงพับเก็บไว้จำหน่ายหรือแปรรูปต่อไป

      การทอเสื่อที่สวยงาม นั่นต้องใช้คามปราณีตและความอดทนสูงเพราะการทอเสื่อต้องใช้ระยะเวลาในการทอ มาก จึงจะได้เสื่อที่สวยงามมาก และอีกอย่างหนึ่งก็คือการใช้สีในการใส่ลวยลายให้เกิดสีสรรค์สวยงามตามใจผู้ 

 ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย นางสาวพิชญา  สวาสนา

 ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นางสาวพิชญา  สวาสนา

กรณีเนื้อหาเป็นการสัมภาษณ์  ข้อมูลเนื้อหา โดย นางสวัสดิ์  ไชยศรี 

                                     เรียบเรียงเนื้อหา โดย นางสาวพิชญา  สวาสนา

                                     ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นางสาวพิชญา สวาสนา