หงส์ฟ้า คู่รามัญ
สัญลักษญ์ "หงส์"คู่วิถีไทยมอญ
บ้านหนองดู่ บ้านบ่อคาว ตำบลบ้านเรือน ชุมชนมอญกลุ่มสุดท้ายในจังหวัดลำพูน
ประเพณีแห่หงส์ ธงตะขาบ
หงส์ ถือเป็นสัญลักษณ์ของชนชาติมอญ
ประวัติความเป็นมาของสัญลักษณ์หงส์ ในพงศาวดารมอญ
หงส์ เป็นสัญลักษณ์ของวัดมอญในประเทศไทย มักจะเห็นหงส์ยืนอยู่บนยอดเสา ซึ่งตั้งอยู่วัดมอญ และที่จะงอยปากหงส์แขวนด้วยกระดิ่ง บางแห่งบนสุดมีฉัตรสามชั้นปักอยู่ ชาวรามัญเรียกเสาหงส์ว่า กล่าวกันว่ามีแต่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น เพราะชาวมอญในประเทศไทยสร้างเพื่อรำลึกถึงเมืองหงสาวดีที่ต้องจากบ้านทิ้งเมืองไป แต่ถึงกระนั้นก็พบได้ในบางวัดในประเทศพม่า
หงส์ในความเชื่อตามพระพุทธศาสนา มีตำนานกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้แปดพรรษา ได้เสด็จเที่ยวจาริกมาถึงภูเขาสุทัศนมรังสิต ประเทศตรงนั้นเป็นทะเล พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นหงส์ทองสองตัวกำลังลงเล่นน้ำจึงทรงทำนายว่ากาลภายหน้าประเทศที่หงส์ลงเล่นน้ำจะเป็นมหานครขึ้น ซึ่งต่อมาคือ กรุงหงสาวดี
คติความเชื่อในการสร้างเสาหงส์ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า เสาหงส์นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลังธงตะขาบซึ่งเกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล ตามตำนานเล่าว่า มีชาวมอญไปพบต้นจันทน์ยืนต้นตายอยู่ในป่า ลักษณะของต้นจันทน์ดังกล่าวเป็นลำต้นตรงสวยงาม ได้ตัดต้นจันทน์มาปักไว้บริเวณวัดของหมู่บ้าน เพื่อแขวนธงตะขาบบูชาพระพุทธเจ้า ภายหลังมีการแกะไม้เป็นรูปหงส์ประดับไว้ที่ปลายเสา ต่อมาได้พัฒนารูปแบบของเสาให้สะดวกและสวยงามยิ่งขึ้น โดยเพิ่มเสาตะเกียบกระหนาบเสาหงส์เพิ่มสีสันและลวดลายต่าง ๆ บางวัดมีการสร้างเสาคู่
ในปัจจุบันเสาหงส์ทำด้วยท่อเหล็ก ก่ออิฐถือปูนเป็นแท่น จะสร้างเสาหงส์บริเวณหน้าวัดเพื่อให้ประชาชนเห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้เสาหงส์ ยังเป็นสิ่งประดับตกแต่งบ้านเมืองอย่างหนึ่ง มีการผนวกโคมไฟขึ้นบนเสา ออกแบบเป็นรูปหงส์คาบโคมไฟห้อยลงมา ซึ่งโคมไฟหงส์นี้ไม่เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องเสาหงส์ของชาวมอญ
ในสังคมไทยนั้นมีกลุ่มชาติพันธ์ที่หลากหลาย คนมอญก็เป็นชาติพันธ์หนึ่งที่อยู่ในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน มอญเป็นชนชาติที่รุ่งเรืองทางด้านศิลปวัฒนธรรมเป็นอย่างมากชนชาติหนึ่ง การที่ประเทศไทยมีกลุ่มชนชาติมอญเข้ามาอยู่อาศัยก็เกิดจากหลายปัจจัยด้วยกันครับ เช่นการหลบหนีภัยสงครามเข้ามอาศัยในดินแดนไทย ตามหลักฐานในประวัติศาสตร์ ปรากฎการอพยพของชาวมอญเข้าสู่ไทย ครั้งสำคัญๆ 8 ครั้ง คือ สมัยอยุธยา 5 ครั้ง ธนบุรี 1 ครั้ง และรัตนโกสินทร์ 2 ครั้ง ชาวมอญจึงมีกระจัดกระจายอยู่ในหลาย ๆ จังหวัดของประเทศไทย เช่น ทางภาคเหนือ จังหวัดลำพูน เป็นต้น
สาเหตุที่หงส์กลายเป็นสัญลักษณ์ของชาวมอญ ก็เหตุเพราะตำนานการสร้างเมืองหงสาวดี อาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติมอญ หงสาวดีเป็นราชธานีของมอญถึง 2 ช่วงด้วยกันตั้งแต่ พ.ศ.1116-1266 รวม 150 ปี และหงสาวดีในการปกครองของมอญกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งในสมัยรัชกาลของพระเจ้าราชาธิราช หงสาวดีจึงถือเป็นอาณาจักรที่อยู่ในความทรงจำอันดีของชาวมอญ ซึ่งตำนานการสร้างเมืองหงสาดีก็สืบเนื่องมาจากพุทธทำนายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งตำนานเล่าว่าเมื่อสมเด็จพระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสรู้ได้ 8 พรรษา ได้เสด็จเที่ยวจาริกมาจนถึงเขาสุทัศนมังสิต บริเวณนั้นยังเป็นทะเลอยู่ เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาถึงพระองค์ทรงผินพักตร์ไปทางทิศตะวันออกได้ทอดพระเนตรเห็นหงส์ทอง สองตัวเล่นน้ำกันอยู่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงมีพุทธทำนายว่า ในการข้างหน้า บริเวณที่หงส์ทองเล่นน้ำนี้จะกลายเป็นมหานครขึ้นชื่อว่า หงสาวดี และจะเป็นที่ตั้งสถูปเจดีย์ พระศรีมหาโพธิ์ และพระพุทธศาสนา จะรุ่งเรืองณ ที่แห่งนี้ ด้วยเหตุตำนานเมืองหงสาวดีนี้เองจึงทำให้หงส์ทองนั้นกลายเป็นสัญลักษณ์ของชาวมอญ และกลายเป็นสัตว์ศักสิทธิ์ประจำชนชาติมอญ ไม่ว่าชาวมอญจะไปอยู่ที่ไหนก็มักสร้างรูปหงส์หรือเสาหงส์เป็นสัญลักษณ์และ ละลึกถึงเมืองที่จากมานั่นเองครับ
ลักษณะของหงส์มอญก็มีด้วยกัน 3 แบบ 3 อากัปกริยาด้วยกันซึ่งมีความหมาย
และโอกาศที่ใช้ต่างกันไป บางข้อมูลก็ว่ามี 4 แบบ
แบบที่ 1 หงส์คู่ยืนซ้อนกัน
แบบที่ 1 หงส์คู่ยืนซ้อนกัน
หมายถึงหงส์ตามตำนานการสร้างเมืองหงสาวดี มีหงส์ตัวหนึ่งยืนท่าเฉยและหงส์อีกตัวยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง ซึ่งจุดนี้ผมไปเจอข้อมูลจากเว็บไซต์ท่องเที่ยวเว็บหนึ่งอ่านแล้วนน่าสนใจมากเลยหยิบมาเล่าให้ฟังว่าตำนานหงส์เล่นน้ำนั้นมีหงส์ตัวเมียขี่ตัวผู้อยู่ จึงมีคำทำนายว่า ผู้หญิงจะเป็นใหญ่ นั้นก็คือพระนางเชงสอบู ราชินีนาถ หรือกษัตริย์หญิงแห่งอาณาจักรมอญนั่นเอง
แบบที่ 2 หงส์ยืนนิ่ง ๆ
แบบที่ 2 หงส์ยืนนิ่ง ๆ
หมายถึงหงส์ซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติมอญ มักถูกใช้งานในหลายโอกาสเช่นประดับภาชนะ อยู่บนยอดเสา สลักจารึกตกแต่งอาคาร และเครื่องแต่งกาย แต่นิยมอยู่บนเครื่องแต่งกายที่อยู่สูงกว่าเอวขึ้นไป
แบบที่ 3 หงส์บิน
แบบที่ 3 หงส์บิน
เป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายเกี่ยวข้องกับการเมืองมีลักษณะเป็นหงส์กําลังบินไปสู่ดวงดาวสีน้ำเงินแต่ไม่ได้เป็นที่ยอมรับของพม่า
แบบที่ 4 หงส์ยกเท้าไปข้างหนึ่ง
แบบที่ 4 หงส์ยกเท้าไปข้างหนึ่ง
เป็นลักษณะของหงส์ที่มีอาการก้าวไปข้างหน้า หมายถึงก้าวไปข้างหน้า มีความหมายเชิงการเมือง เนื่องจากพม่าให้ใช้สัญลักษณ์เป็นหงส์ที่ยืนนิ่งๆเท่านั้นจึงได้มีการออกแบบหงส์ขึ้นใหม่โดยให้ยกเท้าหนึ่งข้าง และนี่คือเรื่องราวว่าทำไมหงส์จึงกลายเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และสัญลักษณ์ของชาวมอญ
สัญลักษณ์หงส์บนเครื่องแต่งกาย
เสาหงส์วัดเกาะกลาง บ้านบ่อคาว ม.8
ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
เสาหงส์หน้าวัดหนองดู่ ม.1
ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
เสาหงส์ ณ พิพิธภัณฑ์วัดเกาะกลาง บ้านบ่อคาว ม.8 ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
ที่มา: โยธิน ครุธพันธ์ บรรณณารักษ์ สำนักบรรณสารสนเทศ ห้องสมุด มสธ ห้องสมุดมหาวิทยาลัยเปิดเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต