ข้อมูลทั่วไปของตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
แผนที่ตำบลบ้านเรือน
อาณาเขต
ตําบลบ้านเรือนตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือของอําเภอป่าซาง จังหวัดลําพูน มีอาณาเขตติดต่อดังนี้
ทิศเหนือ ติดแม่น้ําปิง อ.แม่วาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
ทิศใต้ ติด ต.ท่าตุ้ม ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลําพูน
ทิศตะวันออก ติด ต.ปากบ่อง อ.ป่าซาง จ.ลําพูน
ทิศตะวันตก ติด ต.ท่าตุ้ม อ.ป่าซาง จ.ลําพูน
ประวัติความเป็นมาของตำบลบ้านเรือน
บ้านเรือน เป็นชื่อของตําบลหนึ่งที่อยู่ภายใต้การปกครองของอําเภอป่าซาง จังหวัดลําพูนเป็นดินแดนหนึ่งที่มีความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ ประกอบด้วย ชุมชนพื้นเมือง ชุมชนไทยอง และชุมชนชาวมอญโบราณ ซึ่งมีอายุกว่า 1,400 ปี ที่ยังคงมีการอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมประเพณีที่เก่าแก่ตลอดจนโบราณสถานที่น่าเดินทางไปท่องเที่ยวนั่นก็คือ โบราณสถานเวียงเกาะกลาง “สิเนรุกลางสระอโนดาต” หรือโบสถ์กลางสระมรกตแห่งเดียวในประเทศไทย ครั้งหนึ่งเคยประดับตกแต่งด้วย อลังการปูนปั้น 2,000 ชิ้น ซึ่งมีอายุเก่าแก่ถึงสมัยหริภุญชัย ซึ่งเป็นดินแดนประสูติของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตรีย์แห่งหริภุญชัยนคร
คําขวัญของตําบลบ้านเรือน
เจดีย์เด่นเลิศล้ำ วัฒนธรรมงามตา กระดาษสาเนื้อแน่น
ดินแดนขนมลือชื่อ ผ้าทอมือบ้านเหล่า พระเจ้าตาเขียวศักดิ์สิทธิ์
วิถีชีวิตพอเพียง สําเนียงหลายเผ่า ฮีตฮอยเก่าชาวมอญ
แดนนครเวียงเกาะกลาง มากไม้งามตา นามนครชุม
ความเป็นมาของการตั้งถิ่นฐาน ของประชากรในตําบลบ้านเรือน ประชากรพื้นถิ่นเป็นชุมชนชาวยอง เป็นส่วนมาก ซึ่งคนยองในอดีตได้อพยพมาจาก เมืองยอง รัฐฉาน ประเทศเมียนม่า สมัยพระเจ้ากาวิระ ปกครองเมืองเชียงใหม่ มาตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำปิง ในพื้นที่จังหวัดลําพูน และยังอยู่ร่วมกันกับชาวล้านนาเดิม และยังมีชุมชนชาวมอญที่อาศัยอยู่ในตําบลบ้านเรือน ในพื้นที่บ้านบ่อคาว
2. พื้นที่ทั้งหมด 4,540 ไร่
3. เขตการปกครอง อบต.บ้านเรือน มีหมู่บ้านในเขตการปกครองทั้งหมด 8 หมู่บ้าน ประกอบด้วย
หมู่ที่ 1 บ้านหนองดู่ นายอดุล ท้ายนาวา ผู้ใหญ่บ้าน
หมู่ที่ 2 บ้านเหล่า นายสุวิช พินเรา ผู้ใหญ่บ้าน
หมู่ที่ 3 บ้านเรือน นายอภิชัย ไชยเมืองยอง ผู้ใหญ่บ้าน
หมู่ที่ 4 บ้านศรีชุม นายเทิดนุศักดิ์ กุลทิพย์ใหม่ ผู้ใหญ่บ้าน
หมู่ที่ 5 บ้านเหล่าสันปิง นายอนัน เป็งเรือนชุม ผู้ใหญ่บ้าน
หมู่ที่ 6 บ้านเจดีย์สามยอด นายพล ดำธรรม กำนัน
หมู่ที่ 7 บ้านทรายทอง นายศุภกร หลงศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน
หมู่ที่ 8 บ้านบ่อคาว นายนิวัฒน์ชัย พรมมาแบน ผู้ใหญ่บ้าน
4. ลักษณะภูมิประเทศ
ลักษณะภูมิประเทศมีสภาพพื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบถึงลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อย มีความสูงจากระดับน้ําทะเลปานกลางประมาณ 283-289 เมตร โดยด้านทิศตะวันออกของตําบลเป็นที่ดอน มีทิศทางลาดเทไปทางด้านทิศตะวันตกเข้าสู่ลําน้ําปิง ซึ่งเมื่อดูจากลักษณะดินพื้นที่ที่อยู่ใกล้ลําน้ําปิงมีเนื้อดินเป็นดินร่วนเหนียวและดินร่วนเหนียวปนทรายแป้ง ในระยะทางประมาณ 0-3 กิโลเมตรจากลําน้ําปิง หลังจากนั่นจะพบเนื้อดินเป็นดินร่วนปนทราย ในระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรจากลําน้ําปิงขึ้นไป ลักษณะภูมิประเทศร่วมกับสมบัติทางธรณีวิทยา พบว่าพื้นที่ตําบลบ้านเรือนทั้งหมดเกิดจากตะกอนธารน้ําพา กรวด ทราย ทรายแป้ง และดินเหนียว สะสมตัวตามร่องแม่น้ํา คันดินแม่น้ํา และแอ่งน้ําท่วมถึง (ข้อมูลสถานีพัฒนาที่ดินลำพูน สำนักงานพัฒนาที่ดิน เขต 6 พ.ศ. 2562)
5. ลักษณะภูมิอากาศ
ตำบลบ้านเรือน มีลักษณะอากาศร้อนชื้น อากาศเปลี่ยนแปลงไปตามฤดู มี 3 ฤดู ดังนี้
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม อากาศร้อนและ
แห้งแล้ง แต่บางครั้งอาจมีอากาศเย็นเพราะเกิดจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงหรืออาจมีลูกเห็บตกก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนทุกปี เรียกว่า “พายุฤดูร้อน”
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม ฝนตกมากในช่วงเดือน พฤษภาคม – ตุลาคม
แต่อาจเกิด “ช่วงฝนทิ้ง” ซึ่งอาจนานประมาณ 1 – 2 สัปดาห์หรือบางปีอาจเกิดขึ้นรุนแรงและมีฝนน้อยนานนับเดือน ในเดือนกรกฎาคม แต่ในบางปีก็เกิดอุทกภัยในบางพื้นที่ แต่ก็ไม่ได้รุนแรงแต่อย่างใด
ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนานราว 1-2 สัปดาห์ เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูจากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว อากาศแปรปรวนไม่แน่นอน อาจเริ่มมีอากาศเย็นหรืออาจยังมีฝนฟ้าคะนองเป็นบางช่วง
อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 27.1 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยตลอดปี 33.2 องศาเซลเซียสโดยพบอุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายน คือ 37.9 องศาเซลเซียส และพบอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยตลอดปี 21.0 องศาเซลเซียส โดยพบอุณหภูมิต่ำสุดในเดือนมกราคม คือ 14.7 องศาเซลเซียส
ปริมาณน้ำฝน ปริมาณน้ำฝนรวมตลอดปี 1,052.1 มิลลิเมตร โดยในเดือนกันยายน มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุด 205.6 มิลลิเมตร และเดือนกุมภาพันธ์ มีปริมาณน้ำฝนน้อยที่สุด 5.1 มิลลิเมตร
6. ลักษณะของดิน
ลักษณะดินพื้นที่ที่อยู่ใกล้ลำน้ำปิงมีเนื้อดินเป็นดินร่วนเหนียวและดินร่วนเหนียวปนทรายแป้งดิน
7. ลักษณะของไม้และป่าไม้
ตำบลบ้านเรือน ในเขต อบต.ไม่มีป่าไม้ แต่มีต้นไม้ที่ชาวบ้านปลูกเป็นลักษณะของไม้ยืนต้น
เช่น ลำไย มะม่วง ไม้ผลผสม ฯลฯ
8. จำนวนประชากร
ประชากร รวมทั้งสิ้น 3,916 คน (ตามข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน ปี 2567 ระดับตำบล)
แยกเป็น
ชาย 1,834 คน
หญิง 2,082 คน
9. ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ) รวมทั้งสิ้น 1,089 คน แยกเป็น ชาย 475 คน หญิง 614 คน
10. จำนวนครัวเรือน 1,678 ครัวเรือน
11. การประกอบอาชีพ
เกษตรกรทําการเกษตรโดยปลูกลําไย พันธุ์อีดอ เป็นหลัก รองลงมาปลูกข้าว มีเกษตรกรผู้ปลูกลําไยจํานวน 613 ครัวเรือน พื้นที่ 2,039 ไร่ และข้าวพันธุ์ กข 6 (ปลูกเป็นข้าวนาปี ปลูกไว้บริโภคเอง)สันป่าตอง 1 (ปลูกเป็นพื้นที่นาปรัง ปลูกเพื่อจําหน่าย ใน ต.บ้านเรือน มีเกษตรกรทํานาปรังไม่มากนัก) มีเกษตรกรปลูกข้าว จํานวน 139 ครัวเรือน พื้นที่ 727 ไร่ และปลูกพืชอื่นๆ 324 เช่น มะม่วง ข้าวโพด ถั่วฝักยาว แตงกวา พริก กระเทียม หอมแดง และผักต่าง ๆ การเลี้ยงสัตว์ ส่วนใหญ่จะเลี้ยงไว้เพื่อบริโภคและเสริมรายได้ เช่น วัว ควาย หมู เป็ด และไก่ เป็นต้น รวมถึงการเลี้ยงปลาในบ่อดิน (รายงานสํานักงานเกษตรอําเภอป่าซาง ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565)
อุตสาหกรรมด้านเป็นการแปรรูปผลผลิตทางเกษตร โดยมีโรงสีข้าวกระจายอยู่ประมาณ 2 แห่งนอกจากนั้นยังมีอุตสาหกรรมในครัวเรือน เช่น จักสาน ผ้าฝ้ายทอมือ อาหารแปรรูปและผลิตภัณฑ์กระดาษสา เป็นต้น เกษตรกรในพื้นที่ยังมีการรวมกลุ่มอาชีพ เช่น กลุ่มทอผ้าฝ้าย ตัดเย็บเสื้อผ้า กลุ่มแปรรูปอาหาร กลุ่มเครื่องเทศปรุงอาหาร และกลุ่มขนมจีนข้าวหมักแบบชาวมอญ เป็นต้นด้านอุตสาหกรรมของตําบลบ้านเรือน มีดังนี้
อู่ซ่อมรถยนต์ 11 แห่ง
อู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ 4 แห่ง
โรงสีข้าวขนาดเล็ก 2 แห่ง
อุตสาหกรรมในครัวเรือน 4 แห่ง
12. จำนวนกลุ่มกิจกรรม/อาชีพ
ผลิตภัณฑ์โอทอป ที่สําคัญมีดังนี้
1. ผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายทอมือ ที่บ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว
2. ข้าวควบ(ข้าวเกรียบว่าว) ที่บ้านหนองดู่
3. ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป(ข้าวแต๋น) ที่บ้านเรือนและบ้านทรายทอง
4. ผลิตภัณฑ์กระดาษสา ที่บ้านเรือน
5. ผลิตภัณฑ์เครื่องเทศปรุงอาหาร ที่บ้านศรีชุมและบ้านทรายทอง
6. การทําข้าวกล้องและผลิตภัณฑ์จักสาร ที่บ้านเหล่าสันปิง
7.เส้นขนมจีนข้าวหมัก ข้าวควบ และข้าวเกรียบเห็ดหอม ที่บ้านบ่อคาว
13. กองทุนในตำบล มีจำนวน 3 กองทุน ดังนี้
16.1 กองทุนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต มีจำนวน 3 กองทุน
16.2 กองทุนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน มีจำนวน 3 กองทุน
16.3 กองทุนหมู่บ้าน มีจำนวน 6 กองทุน
14. ข้อมูลคมนาคม/สาธารณูปโภค
14.1 การเดินทางเข้าตำบล
ตำบลบ้านเรือนมีการคมนาคมขนส่งการคมนาคมในพื้นที่เป็นการคมนาคมทางบก ติดต่อระหว่างอำเภอและจังหวัด รวมทั้งการคมนาคมภายในตำบลและหมู่บ้าน มีรายละเอียดดังนี้
1. ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1156 แยกสบทา – ท่าลี่
2. ทางหลวงชนบทแยกบ้านหนองดู่ – ตลาดป่าซาง
3. ทางหลวงชนบทแยกบ้านเรือน – บ้านเหล่าสันปิง – ท่าตุ้ม
4. ทางหลวงชนบทปั๊มน้ำมันบ้านเรือน – ทรายทอง – ศรีชุม - เจดีย์สามยอด
5. ทางหลวงชนบทแยกบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว – บ้านดอนตอง ต.แม่แรง
6. ถนน คอนกรีต - ลาดยาง บ้านบ่อคาว – บ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว
7. ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 116 แยกสะปุ๋ง – อำเภอสันป่าตอง
14.2 สาธารณูปโภค
14.2.1 การไฟฟ้า
การขยายเขตไฟฟ้า ปัจจุบันมีไฟฟ้าใช้ทุกครัวเรือน คิดเป็น ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
14.2.2 การประปา
แต่ละหมู่บ้านมีน้ำประปาใช้ทุกหมู่บ้าน คิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ และมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี
14.2.3 โทรศัพท์
- จำนวนโทรศัพท์ส่วนบุคคล 91.79 เปอร์เซ็นต์
- หอกระจายข่าวในพื้นที่ให้บริการได้ครอบคลุมร้อยละ 100 ของพื้นที่
14.2.4 การพาณิชย์
ขายปุ๋ย ยาฆ่าแมลง 2 แห่ง
ขายแก๊ส 5 แห่ง
ฟาร์มวัว 2 แห่ง
ร้านตัดผม/ร้านเสริมสวย 4 แห่ง
ร้านขายวัสดุก่อสร้าง 2 แห่ง
ลานทราย 1 แห่ง
ฟาร์มหมู 1 แห่ง
ปั๊มน้ำมัน (ปั๊มใหญ่) 1 แห่ง
ปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญ 1 แห่ง
ร้านขายของชำ 32 แห่ง
14.2.6 สาธารณสุข
ตำบลบ้านเรือน มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเรือน 1 แห่ง ตั้งอยู่ที่ รพสต.ตำบลบ้านเรือน ม.4 บ้านศรีชุม
14.2.7 แหล่งน้ำตามธรรมชาติ
1) ลำน้ำปิง ที่ไหลผ่านตำบลบ้านเรือนและเป็นแนวเขตกั้นระหว่างจังหวัดลำพูนและจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มไหลจากด้านทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตกของตำบลบ้านเรือนเข้าสู่ตำบลท่าตุ้มบริเวณบ้านท่าตุ้ม ทางด้านทิศตะวันนตก
2) ฝายหนองสลีก ตั้งอยู่พื้นที่บ้านหนองสลีก ตำบลปากบ่อง จังหวัดลำพูน เป็นฝายชลประทานที่กั้นลำน้ำปิงและส่งน้ำมายังพื้นที่ตำบลบ้านเรือน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของตำบลบ้านเรือน
15. ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม
15.1 การนับถือศาสนา
ประชาชนนับถือศาสนาพุทธ 100% มีวัดทั้งหมด 8 วัด มีศาล ศาลพ่อบ้าน 9 แห่ง
1. วัดหนองดู่ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 1
2. วัดบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2
3 .วัดบ้านเรือน ตั้งอยู่ หมู่ที่ 3
4. วัดศรีชุม (โพธิ์ธาราม) ตั้งอยู่ หมู่ที่ 4
5. วัดต้นแก้ว (อธิวราราม) ตั้งอยู่ หมู่ที่ 5
6. วัดหนองบุญชุม ตั้งอยู่ หมู่ที่ 5
7. วัดเจดีย์สามยอด ตั้งอยู่ หมู่ที่ 6
8. วัดเกาะกลาง ตั้งอยู่ หมู่ที่ 8
15.2 ประเพณีและงานประจำปี
ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม เทศกาลประจําปี มีดังนี้
เทศกาลปี๋ใหม่เมือง(สงกรานต์แบบชาวล้านนา) ประเพณีรดน้ําดําหัว ช่วงวันที่ 13 เมษายนของทุกปี
ประเพณียี่เป็ง(ลอยกระทง) ประเพณีตานก๋วยสลาก จะจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ํา เดือน 12 ของ
ทุกปี
ประเพณีสรงน้ําพระธาตุวัดบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว สรงน้ําพระพุทธรูปพระเจ้าตาเขียวประเพณีสรงน้ําโบราณสถานเวียงเกาะกลาง(แบบชาวมอญ) จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมของทุกปี
ประเพณีฟ้อนผีมดผีเม็ง เป็นประเพณีของชาวมอญหรือที่ชาวภาคเหนือเรียกว่า “เม็ง” ที่มีการสืบทอดมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลานในปัจจุบัน ประเพณีนี้จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมของทุกปี
ประเพณีฟ้อนเจ้าฟ้อนผีหมู่บ้าน จะจัดขึ้น ณ บริเวณต้นโพธิ์ใหญ่ประจําหมู่บ้านศรีชุม ในเดือนพฤษภาคมของทุกปี
สถานที่ท่องเที่ยว ที่สําคัญมีดังนี้
โบราณสถานเวียงเกาะกลาง ปฐมอารยธรรมล้านนา 1,400 ปี ตามประวัติแจ้งว่า เวียงเกาะกลางสร้างก่อน พ.ศ. 1176 โดยตระกูลของท่านเศรษฐีอินตา พระบิดาของพระนางจามเทวี กษัตรีย์ผู้ครองนครหริภุญชัย พื้นที่วัดเป็นเกาะอยู่กลางหนองน้ํา จึงเรียกชื่อว่าเกาะกลาง เวลาผ่านไปวัดเกาะกลางกลายเป็นวัดร้างอยู่หลายร้อยปี ต่อมาได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ให้เป็นวัดที่มีพระสงฆ์อยู่จําพรรษา และกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศยกฐานะวัดร้างแห่งนี้ขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2544 ขณะนี้โบราณสถานต่างๆ ภายในเวียงเกาะกลางกําลังได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากร จังหวัด ลําพูน ซึ่งมีการขุดพบวัตถุโบราณที่มีค่ามากมาย
วัดบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว เป็นวัดที่มีวิหารงดงามด้วยลายปูนปั้นที่วิจิตรบรรจง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2315 เดิมชื่อว่า วัดมะจั๋นดงพระเจ้านั่งโขง มีสภาพเป็นวัดร้าง ต่อมาครูบากึ่งม้าได้ธุดงค์มาจากประเทศพม่าข้ามลําน้ําปิงมายังพื้นที่ตั้งวัด และได้พบพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในอุโมงค์มีลักษณะงดงาม จึงได้บูรณะขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2395 โดยมีศรัทธาชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นร่วมใจกันพัฒนาขึ้นและได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดบ้านเหล่าพระเจ้าตาเขียว มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ขณะที่สร้างพระวิหารใหม่ของวัดได้เกิดเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ขึ้น เมื่อคนงานเกิดพลาดทําลวดสลิงขาดขณะลําเลียงคานและพื้นสําเร็จรูปขึ้นไปว่างบนหลังคา พื้นสําเร็จรูปพุ่งลงมาบนเศียรพระพุทธรูปแต่ได้หยุดชะงักลงแค่นั้น ด้วยความศรัทธาในองค์พระพุทธรูป จึงมีศิษย์ญานุศิษย์และญาติโยมคอยเกื้อหนุนมากมายและได้พระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2519 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร พระเจ้าตาเขียวหมายถึงระพุทธรูปที่มีพระเนตรสีเขียวคมและงาม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่มากที่เป็นพระประธานในพระวิหารของวัด
วัดหนองดู่ เป็นวัดประจําหมู่บ้านหนองดู่ ภายในวัดมีอุโบสถซึ่งมีพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะเป็นพระประธาน นอกจากนั้นภายในบริเวณวัดยังมีพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนศิลปะล้านนา และพุทธเจดีย์ศรีล้านนารามัญ
15.3 ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประชาชนในตำบลทาสบเส้าได้อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ การแต่งกายพื้นเมือง การประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแบบท้องถิ่นล้านนา ภาษาถิ่น ส่วนมากร้อยละ ๙๐% ภาษามอญ และภาษายอง