โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน เป็นตัวอย่างของบทความที่ดีที่เสนอข้อคิดเกี่ยวกับปัญหาบ้านเมืองในเรื่องค่านิยมที่เป็นอุปสรรคท่าให้ประเทศเจริญได้ช้า โดยเสนอข้อคิดเกี่ยวกับปัญหาของบ้านเมืองในเรื่องค่านิยมที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศให้เจริญ โคลนติดล้อ หมายถึง เครื่องถ่วงรั้งความเจริญของประเทศชาติในตอนความนิยมเป็นเสมียน ต้องการสื่อถึงค่านิยมผิด ๆ เกี่ยวกับเลือกการประกอบอาชีพ และให้แนวคิดที่เป็นประโยชน์ว่าอาชีพอื่นก็สามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้
๑) รูปแบบ บทความเรื่องโคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียนเป็นงานเขียนประเภทร้อยแก้วที่ให้ทั้งความรู้และความคิด มีเนื้อหาสร้างสรรค์ทรงคุณค่า ซึ่งเป็นการใช้รูปแบบงานเขียนได้อย่างเหมาะสมกับเนื้อหา
๒) วิเคราะห์แนวคิดของผู้เขียน
๑) ทุกอาชีพมีความสำคัญเหมือนกัน อาชีพทุกอาชีพเป็นอาชีพที่มีเกียรติยศเท่า ๆ กัน สามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้เหมือนกัน
๒) ความนิยมเป็นเสมียน ความนิยมเป็นเสมียนเปรียบเหมือนโคลนอีกก้อนที่ติดล้อรถ เป็นตัวถ่วงความเจริญ เพราะค่านิยมของคนที่เห็นอาชีพเสมียนเป็นอาชีพที่มีเกียรติกว่าอาชีพอื่น ๆ ในสังคม ทำให้ ผู้มีความรู้ความสามารถจำนวนมากมายึดติดอยู่กับตำแหน่ง ยศศักดิ์ ทั้ง ๆ ที่ถ้าไปประกอบอาชีพอื่นจะได้ประโยชน์มากกว่า
๓) การใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ ผู้ที่นิยมเป็นเสมียนในยุคสมัยนั้น มักมีฐานะความเป็นอยู่ที่เกินฐานะ โดยเฉพาะการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพื่อรักษาเกียรติยศและหน้าตาของตน
๔) ความสำคัญของการเกษตร ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน เป็นผู้ผลิต มีความสำคัญอย่างยิ่งในประเทศเกษตรกรรมแบบไทย
๕) การมองข้ามความสำคัญของท้องถิ่น ชายหนุ่มที่เข้ามาทำงานในเมืองมักลืมถิ่นฐานบ้านเกิด ไม่ยอมกลับไปทำงานในภูมิลำเนาของตน
๖) ค่านิยมเกี่ยวกับอาชีพ คนทั่วไปมักยกย่องข้าราชการและผู้ที่ทำงานในสำนักงาน จนมองข้ามความสำคัญของอาชีพอื่น
๗) อิทธิพลของสื่อมวลชน สื่อมวลชนและสาธารณชนมีอิทธิพลอย่างมากในการเผยแพร่ความคิด โดยการยกย่องให้เกียรติชาวนาจะทำให้เกิดกระแสของคนทั่วไปตามมา
๘) ความไม่มั่นคงในอาชีพทำให้เกิดปัญหาในสังคมตามมา ผู้ที่ต้องออกจากอาชีพที่ตนทำเมื่ออายุมากขึ้น มักถูกชักจูงให้ประพฤติทุจริตได้ง่าย เมื่อจับแนวคิดของผู้เขียนได้ดังกล่าวแล้ว จะต้องหาเหตุประกอบการพิจารณา ได้แก่สภาพของสังคมไทยในสมัยรัชกาลที่ ๖
๑) การสรรคำ ในแง่ของศิลปะการประพันธ์ ทรงพระราชนิพนธ์โดยสำนวนภาษาที่เรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยศิลปะการใช้ภาษา ทำให้บทความน่าอ่านและน่าติดตาม
๒) การใช้โวหารภาพพจน์ ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพและเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น
๑. สะท้อนภาพชีวิตและค่านิยมของสังคมไทยในอดีต เมื่อผู้อ่านได้อ่านบทความแล้ว จะมองเห็นภาพสังคมและค่านิยมของผู้คนในสมัยรัชกาลที่ ๖ ได้เป็นอย่างดี
๒. ทราบปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นในอดีต บทความนี้ทำให้เราทราบว่าสมัยรัชกาลที่ ๖ ปัญหาที่คอบขัดขวางถ่วงความเจริญของบ้านเมืองในขณะนั้นว่ามีอะไรบ้าง
๓. สะท้อนข้อคิดที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต บทความเรื่องโคลนติดล้อ ให้ข้อคิดแก่คนในสังคมไทยได้เป็นอย่างดี
การนำข้อคิดจากบทความเรื่อง โคลนติดล้อไปใช้ในชีวิตประจำวันจึงเป็นการเปลี่ยนโลกทัศน์และแนวคิดแบบใหม่ ซึ่งถ้าผู้อ่านเห็นด้วย คนไทยก็จะไม่ทิ้งภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทยที่เคยเป็นมา และควรส่งเสริมให้เยาชนไทยในสมัยปัจจุบันไม่ให้ลืมถิ่นกำเนิดของตนและต้องสนับสุนนให้ผู้มีความรู้ความสามารถกลับไปช่วยพัฒนาท้องถิ่นของตน