การติดตั้งระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
การติดตั้งระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถใช้ข้อมูล หรือทรัพยากรร่วมกันได้ตลอดจนประโยชน์ด้านอื่นๆ ซึ่งระบบเครือข่ายส่วนใหญ่จะเป็นระบบ เครือข่ายอีเทอร์เน็ตแบบสตาร์ทำงานในลักษณะเวิร์คกรุ๊ป โดยใช้โพรโตรคอล TCP/IP เป็นหลัก การทำงานบนโพรโตรคอล TCP/IP จะต้องกำหนด IP Address เป็นหมายเลขประจำให้กับเครื่อง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ บนเครือข่าย โดยหมายเลขที่กำหนดจะต้องไม่ซ้ำกัน รายละเอียด ดังนี้
1 ไอพีแอดเดรส (IP Address)
ไอพีแอดเดรสเป็นหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อ อยู่ในเครือข่าย เพื่อใช้ระบุที่อยู่หรือตำแหน่งของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โดยไม่ซ้ำกัน ทำให้ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สามารถติดต่อสื่อสารหรือรับส่งข้อมูลได้ ไอพีแอดเดรสมีลักษณะเป็น ตัวเลข 4 กลุ่มแต่ละกลุ่มจะคั่นด้วยเครื่องหมายจุด (.) เช่น 192.160.1.22 ไอพีแอดเดรส เปรียบได้กับเลขที่บ้าน ซึ่งบ้านแต่ละหลังจะต้องมีเลขที่บ้านไม่ซ้ำกัน สำหรับมาตรฐานการกำหนด ไอพีแอดเดรสจะมีหน่วยงานกลางคือ InterNIC (Inter Network Information Center) ทำหน้าที่ จัดสรรไอพีแอดเดรสให้กับผู้ใช้ทั่วโลก ไอพีแอดเดรสในปัจจุบันยังคงใช้เวอร์ชั่น 4 แต่ในอนาคตจะนำเวอร์ชั่น 6 มาใช้เรียกว่า Ipv6 ตามปกติสำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตตามบ้านทั่วไปจะได้ไอพีแอดเดรสก็ต่อเมื่อใช้โมเด็ม เชื่อมต่อไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือ ISP ซึ่งจะได้ไอพีแอดเดรสมาใช้ชั่วคราว 1 หมายเลข ที่ใช้ได้จริงบนอินเทอร์เน็ต (Public IP Address) หากจะว่าไปแล้วไอพีแอดเดรสนี้ไม่ได้นำมากำหนดที่คอมพิวเตอร์โดยตรง แต่จะถูกกำหนดไว้ที่อุปกรณ์ในการเชื่อมต่อ เช่น โมเด็มหรือเร้าเตอร์ และ เมื่อตัดการเชื่อมต่อจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแล้ว หมายเลขไอพีแอดเดรสที่ได้รับมานี้ก็จะถูก ยกเลิก ถ้าเชื่อมต่อครั้งใหม่ก็จะได้ไอพีแอดเดรสชุดใหม่เป็นแบบนี้เรื่อยไป โดยสามารถตรวจดูไอพี แอดเดรสที่ได้รับมาจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตได้จากการใช้คำสั่ง ipconfig บน command prompt ยังมีการใช้ไอพีแอดเดรสอีกแบบหนึ่ง คือการกำหนดไอพีแอดเดรสประจำแบบคงที่ โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหมายเลขเหมือนผู้ใช้ตามบ้าน ซึ่งจะได้มาจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เช่นเดียวกัน เช่นได้ไอพีแอดเดรสคลาส C จำนวน 1 คลาส มีจำนวนไอพีแอดเดรสที่สามารถนำไป กำหนดบนคอมพิวเตอร์ได้ 254 เลขหมาย ส่วนใหญ่แล้วการได้รับไอพีแอดเดรสแบบคงที่นี้มักจะเป็น องค์กรขนาดกลางที่มีการเชื่อมต่อไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตโดยใช้Leased Line หรือ ADSL แต่ สำหรับเครือข่ายอินทราเน็ตนั้นจะกำหนดไอพีแอดเดรสได้เองตามต้องการโดยใช้ไอพีแอดเดรสแบบ ภายใน (Private IP Address) และการกำหนดจากผู้ดูแลระบบเครือข่ายในองค์กร ไอพีแอดเดรสเขียนอยู่ในรูปแบบเลขฐานสิบที่มีเครื่องหมายจุด (.) คั่น เช่น 192.168.0.1 แต่เวลาเก็บค่าในคอมพิวเตอร์จะเป็นเลขฐานสอง มีทั้งหมด 32 บิต แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 8 บิต ตัวเลขแต่ละกลุ่มจะเก็บค่าที่เป็นตัวเลขฐานสองได้ถึง 256 ค่า คือตั่งแต่ 0 ถึง 255
ไอพีแอดเดรสประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ Network ID กับ Host ID สำหรับ Network ID เป็นตัวบอกขอบเขตของเครือข่าย โดยไอพีแอดเดรสที่มี Network ID เหมือนกัน หมายความว่าอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ส่วน Host ID เป็นตัวกำหนดที่อยู่หรือตำแหน่งของ คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์นั้นๆ เช่น คอมพิวเตอร์สองเครื่องถูกกำหนดไอพีแอดเดรสในคลาส C ซึ่ง เครื่องที่หนึ่งมีไอพีแอดเดรส 192.168.10.1 ส่วนเครื่องที่สองมีไอพีแอดเดรส 192.168.10.2 เห็นได้ ว่าคอมพิวเตอร์ทั้งสองเครื่องนี้อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน เพราะมี Network ID เหมือนกัน คือ 192.168.10.x แต่ Host ID ต่างกันคือ 1 และ 2 ที่ระบุว่าเป็นเครื่องที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ส่วนที่ เป็น Network ID จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ส่วนที่เปลี่ยนแปลงได้คือ Host ID ซึ่งนำไปกำหนดให้กับ เครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย ไอพีแอดเดรสมีการแบ่งขอบข่ายออกหลายระดับหรือที่เรียกว่า คลาส (Class) โดย ถูกแบ่งไว้ 5 คลาส คือ คลาส A, B, C, D และ E แต่ที่ใช้กันในระบบเครือข่ายทั่วไปจะใช้กัน 3 คลาส คือ A, B, C ส่วนคลาส D นำไปใช้ในเครือข่าย Multicast เช่น Tele-Conference และคลาส E ถูก สงวนไว้ไม่มีการใช้งาน รายละเอียดตามตารางดังนี้
คลาส A มีไอพีแอดเดรสทั้งหมด 126 คลาส ในแต่ละคลาสจะกำหนดไอ พีแอดเดรสได้ 16 ล้านเครื่อง ส่วนที่เป็น Network ID คือตัวเลข 1 ชุดทาง
ซ้าย ( 8 บิต) ส่วนตัวเลข 3 ชุดหลังทางขวาคือ Host ID (24 บิต) ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยผู้ดูแลระบบเครือข่ายจะ กำหนดส่วนที่เป็น Host ID เพื่อ
แจกจ่ายให้กับคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย ไอพีแอดเดรสคลาส A จะ ใช้กับองค์กรขนาดใหญ่
คลาส B มีไอพีแอดเดรสทั้งหมด 16,384 คลาส ในแต่ละคลาสจะ กำหนดไอพีแอดเดรสได้ 65,534 เครื่อง ส่วนที่เป็น Network ID คือตัวเลข 2 ชุดทางซ้าย (16 บิต) ส่วนตัวเลข 2 ชุดทางขวาคือ Host ID (16 บิต) ไอพีแอดเดรสคลาส B เหมาะสำหรับองค์กรขนาด กลาง
คลาส C มีไอพีแอดเดรสทั้งหมด 2,097,152 คลาส ในแต่ละคลาสจะ กำหนดไอพีแอดเดรสได้ 254 เครื่อง ส่วนที่เป็น Network ID คือตัวเลข 3 ชุด
แรกทางซ้าย (24 บิต) ส่วนตัวเลข 1 ชุดที่เหลือทางขวาคือ Host ID (8 บิต) ไอพีแอดเดรสคลาส C เหมาะสำหรับองค์กร ขนาดเล็ก
หมายเลขเครือข่ายและบรอดคาสต์แอดเดรส
ในช่วงหมายเลขไอพีแอดเดรสที่ใช้จะมีหมายเลขพิเศษอยู่ 2 ค่า คือ หมายเลขเครือข่ายกับบรอดคาสต์แอดเดรส (Broadcast Address) ซึ่งไอพีแอดเดรสทั้งสองค่านี้ ห้ามนำไปกำหนดให้กับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ในเครือข่าย - หมายเลขเครือข่าย เป็นไอพีแอดเดรสที่ใช้อ้างอิงเครือข่าย ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตได้ไอพีแอดเดรสหมายเลข 192.168.1.0 ซึ่งอยู่ในคลาส C ก็ หมายความว่าสามารถกำหนดไอพีแอดเดรสให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายได้ตั้งแต่หมายเลข 192.168.1.1 จนถึงหมายเลข 192.168.1.254 ดังนั้นหมายเลขของไอพีแอดเดรสคลาสนี้ก็คือ 192.168.1.0 - บรอดคาสต์แอดเดรส ใช้สำหรับส่งข้อมูลกระจายไปยัง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ทั้งหมดในเครือข่าย โดยจะเป็นไอพีแอดเดรสหมายเลขสุดท้ายของคลาส เช่น 192.168.1.255
สรุปได้ว่าไอพีแอดเดรสที่ลงท้ายด้วย 0 และ 255 ห้ามกำหนดให้กับ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ทั้งหมดในเครือข่าย ตัวอย่างการแจกไอพีแอดเดรสคลาส C ซึ่งมีหมายเลข เครือข่าย 192.169.0.0 ให้คอมพิวเตอร์ ดังนี้
192.168.0.0 เป็นหมายเลขเครือข่าย ห้ามนำไปกำหนดใช้งาน
192.168.0.1 กำหนดให้คอมพิวเตอร์เครื่องที่ 1
192.168.0.2 กำหนดให้คอมพิวเตอร์เครื่องที่ 2
192.168.0.x กำหนดให้คอมพิวเตอร์เครื่องที่…
192.168.0.253 กำหนดให้คอมพิวเตอร์เครื่องที่ 253
192.168.0.254 กำหนดให้คอมพิวเตอร์เครื่องที่ 254
192.168.0.255 เป็นบรอดคาสต์แอดเดรส ห้ามนำไปกำหนดใช้งาน
เมื่อใช้เครือข่าย 192.168.0.0 หมดแล้วต้องใช้เครือข่ายถัดไปคือ
192.168.1.0 เป็นหมายเลขเครือข่าย ห้ามนำไปกำหนดใช้งาน
192.168.1.1 กำหนดให้คอมพิวเตอร์เครื่องที่ 1
192.168.1.x กำหนดให้คอมพิวเตอร์เครื่องที่…
192.168.1.254 กำหนดให้คอมพิวเตอร์เครื่องที่ 254
192.168.1.255 เป็นบรอดคาสต์แอดเดรส ห้ามนำไปกำหนดใช้งาน
ซับเน็ตมาสก์ (Subnet Mask)
เป็นค่าที่ระบุว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้อยู่ในเครือข่ายใด หรือเป็นค่าที่ แบ่งกลุ่มเครือข่ายโดยตรงสอดคล้องกับคลาสของไอพีแอดเดรส ซับเน็ตมาสก์จะเป็นตัวเลข 4 ชุด เช่นเดียวกับไอพีแอดเดรสแต่มีค่าเป็น 0 กับ 255 เท่านั้น (แต่บางกรณีก็เป็นค่าอื่นได้ เมื่อถูกแบ่งซับเน็ต) ซับเน็ตมาสก์มีการแบ่งไว้สำหรับไอพีแอดเดรสทั้ง 3 คลาส ดังตาราง
ซับเน็ตมาสก์สำหรับคลาส A มีเลข 255 จำนวน 1 ชุดคือ 255.0.0.0 หมายความว่าในเครือข่ายนี้จะมีไอพีแอดเดรส 1 ชุดแรกที่เหมือนกัน เช่น 10.0.0.1, 10.1.50.6, 10.2.33.4 จึงถือว่าไอพีแอดเดรสทั้งหมดนี้อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน
ซับเน็ตมาสก์สำหรับคลาส B มีเลข 255 จำนวน 2 ชุดคือ 255.255.0.0 หมายความว่าในเครือข่ายนี้จะมีไอพีแอดเดรส 2 ชุดแรกที่เหมือนกัน เช่น 172.30.91.18, 172.30.92.77, 172.30.93.2 จึงถือว่าไอพีแอดเดรสทั้งหมดนี้อยู่ในเครือข่าย เดียวกัน
ซับเน็ตมาสก์สำหรับคลาส C มีเลข 255 จำนวน 3 ชุดคือ 255.255.255.0 หมายความว่าในเครือข่ายนี้จะมีไอพีแอดเดรส 3 ชุดแรกที่เหมือนกัน เช่น
192.168.1.11, 192.168.1.12, 192.168.1.13 จึงถือว่าไอพีแอดเดรสทั้งหมดนี้อยู่ในเครือข่าย เดียวกัน
สรุปได้ว่าวิธีการดูค่าไอพีแอดเดรสอยู่ในคลาสใด สามารถทำได้ 2 วิธี
1. ดูจากตัวเลขชุดแรกของไอพีแอดเดรส คือ
- คลาส A ใช้หมายเลขชุดแรกตั้งแต่ 1 ถึง 126
- คลาส B ใช้หมายเลขชุดแรกตั้งแต่ 128 ถึง 191
- คลาส C ใช้หมายเลขชุดแรกตั้งแต่ 192 ถึง 223
2. ดูจากค่าซับเน็ตมาสก์
2 การแบ่งซับเน็ต
ในการใช้งานจริงบนระบบเครือข่าย บางครั้งอาจต้องแบ่งเครือข่ายออกให้เป็น เครือข่ายย่อย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลที่ส่งผ่านระบบเครือ
ข่าย และป้องกันไม่ให้ข้อมูลถูกส่งไปยังหน่วยงานอื่น หรือลดการกระจายข้อมูลในเครือข่ายให้น้อยลง (Broadcast) เช่น ถ้าได้รับไอ พีแอดเดรสคลาส C ชุด192.168.1.0 มาจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และกำหนดให้กับ คอมพิวเตอร์ในองค์กร ประกอบด้วยแผนกบัญชีที่มีคอมพิวเตอร์จำนวน 20 เครื่อง แผนกบุคคลมี คอมพิวเตอร์จำนวน 10 เครื่อง โดยเราจะแจกจ่ายไอพีแอดเดรสให้กับแต่ละแผนกในลักษณะที่จะแยกเครือข่ายออกจากกัน ซึ่งแน่นอนว่าไอพีแอดเดรสคลาส C ที่ได้นั้นไม่เพียงพอที่จะแจกให้กับ คอมพิวเตอร์ในองค์กร (คือใช้ได้ตั้งแต่หมายเลข 192.168.1.1 ถึง 192.168.1.254) แต่จุดประสงค์ คือต้องการจะแยกเครือข่ายออกอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงต้องมีการแบ่งเครือข่ายโดยใช้การแบ่งไอพี แอดเดรสในคลาสเดียวกันออก เรียกว่าการแบ่งซับเน็ต โดยมีวิธียืมค่าบิตของ Host ID มาทำเป็น ซับเน็ต ส่วนสิ่งที่ตามมาภายหลังแบ่งซับเน็ตคือตัวเลขซับเน็ตมาสก์จะเปลี่ยนไปเพราะขนาดของ เครือข่ายถูกแบ่งออกตัวอย่างการแบ่งซับเน็ตของไอพีแอดเดรสหมายเลขเครือข่าย 192.168.1.0 ได้ ในตาราง