หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
เรื่อง ผ้าและการตัดเย็บ
ความสำคัญของการดูแลรักษาเสื้อผ้า
ถนอมเนื้อผ้าให้คงทน : ไม่เสื่อมสภาพง่าย มีอายุการใช้งานยาวนาน
ได้สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด : ปราศจากคราบสิ่งสกปรก กลิ่นไม่เหม็น
ปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ดี : เช่น การรักษาความสะอาด มีระเบียบวินัย
ประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัว : ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น มีเงินเก็บเพิ่มขึ้น
เกิดความมั่นใจในตนเอง : เกิดความภาคภูมิใจที่ได้ดูแลเสื้อผ้าด้วยตนเอง
ป้องกันไม่ให้เกิดโรคผิวหนัง : เช่น ผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา กลาก เกลื้อน
ความสำคัญของการดูแลรักษาเครื่องประกอบการแต่งกาย
- ส่งเสริมบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ให้ดูดียิ่งขึ้น
- ช่วยให้ผู้ที่สวมใส่เสื้อผ้าเกิดความมั่นใจในตนเอง
- สร้างความโดดเด่นให้แก่ร่างกาย เช่น เครื่องประดับ
- เก็บรักษาของมีค่า หรือของสำคัญต่าง ๆ เช่น กระเป๋า
- ป้องกันอันตรายจากแสงแดดและฝุ่นละออง เช่น แว่นตา
- ถนอม ป้องกัน และดูแลรักษาอวัยวะต่าง ๆ เช่น รองเท้า
- ปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ดี เช่น การรักษาความสะอาด
หลักการดูแลรักษาเครื่องประกอบการแต่งกาย
- ระวังไม่ให้เปรอะเปื้อนสิ่งสกปรกหรือถูกของมีคมเกี่ยวจนขาด
- หากพบร่องรอยการชำรุดให้รีบนำไปซ่อมแซมทันที ก่อนนำไปใช้งาน
- เก็บให้เป็นหมวดหมู่และเป็นระเบียบ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
- หากเปรอะเปื้อนควรรีบทำความสะอาดทันที เพราะจะทำความสะอาดได้ง่าย
วิธีการซ่อมแซมเสื้อผ้า
การสอย คือ เป็นการเย็บด้วยมือที่มองเห็นรอยเย็บทางด้าน นอกน้อยที่สุด นิยมใช้สอยชายเสื้อ ชายกระโปรง ชายขากางเกง
การเนา คือ เป็นการเย็บผ้าให้ติดกันชั่วคราว เพื่อไม่ให้ผ้านั้นเคลื่อนที่จากจุดหมาย
การปะ คือ การนําผ้ามาปิดทับรอย ชํารุด สามารถทําได้ 2 วิธี คือ การ ปะด้านนอกและปะด้านใน
การเย็บตะเข็บแบบต่างๆ ตะเข็บ คือ แนวของฝีเข็มซึ่งยึดผ้า 2 ชิ้น เข้าด้วยกันใช้สำหรับเย็บริมผ้า หรือต่อผ้าสองผืนให้เป็นผืนเดียวกัน
การด้น คือ การเย็บผ้าอย่างถาวรด้วยมือแทนการเย็บด้วยจักร
การชุน คือ เป็นการซ่อมแซม เสื้อหรือผ้าชำรุด ที่เนื้อผ้าขาดหายไปเหมาะกับรอยขาดที่ไม่กว้างมาก
การสวมเสื้อผ้าที่สะอาดมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างบุคลิกภาพให้แก่ตนเองได้อย่างไร
- ช่วยให้เกิดความมั่นใจในตนเอง
- สร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็น
- เสริมสร้างบุคลิกภาพของตนให้ดูดี
- มีสุขอนามัยที่ดีปราศจากโรคผิวหนัง
- เป็นที่ชื่นชมของคนที่อยู่รอบข้าง