แบบสรุปการเยี่ยมบ้าน
แบบบันทึกการเยี่ยมวัด
แบบสรุปการเยี่ยมวัด
สรุปเยี่ยมวัดเยี่ยมบ้าน Online ระดับโรงเรียน
บันทึกการเยี่ยมวัด Online
บันทึกการเยี่ยมบ้าน Online
Addmin : huaykam2020.01@gmail.com
คู่มือแนวทางการจัดกิจกรรมกิจของสงฆ์
**********************
เสขิยวัตร ประกอบด้วย 4 หมวด
หมวด “สารูป” มี 26 สิกขาบท - ว่าด้วยกิริยามารยาที่ควรประพฤติในเวลาเข้าไปในหมู่บ้าน เริ่มตั้งแต่การนุ่งห่ม การสำรวม ระวังอิริยาบถ การพูดคุย ให้อยู่ในอาการที่เหมาะสม
หมวด “โภชนปฏิสังยุต” มี 30 สิกขาบท - ว่าด้วยกิริยามารยาทที่ควรประพฤติในการรับบิณฑบาต และการฉันภัตตาหาร
หมวด “ธรรมเทสนาปฏิสังยุต” มี 16 สิกขาบท - ว่าด้วยกิริยามารยาทในการแสดงธรรมแก่ผู้อื่น
หมวด “ปกิณกะ” มี 3 สิกขาบท - ว่าด้วยกิริยามารยาท ในการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
รายละเอียด เสขิยวัตร
หมวด “สารูป” มี 26 สิกขาบท : ว่าด้วยกิริยามารยาทที่ควรประพฤติในเวลาเข้าไปในหมู่บ้าน เริ่มตั้งแต่การนุ่งห่ม การสำรวม ระวังอิริยาบถ การพูดคุย ให้อยู่ในอาการที่เหมาะสม
1. นุ่งให้เป็นปริมณฑล (ล่างปิดเข่า บนปิดสะดือไม่ห้อยหน้าห้อยหลัง)
2. ห่มให้เป็นปริมณฑล (ให้ชายผ้าเสมอกัน)
3. ปกปิดกายด้วยดีไปในบ้าน
4. ปกปิดกายด้วยดีนั่งในบ้าน
5. สำรวมด้วยดีไปในบ้าน
6. สำรวมด้วยดีนั่งในบ้าน
7. มีสายตาทอดลงไปในบ้าน (ตาไม่มองโน่นมองนี่)
8. มีสายตาทอดลงนั่งในบ้าน
9. ไม่เวิกผ้าไปในบ้าน
10. ไม่เวิกผ้านั่งในบ้าน
11. ไม่หัวเราะดังไปในบ้าน
12. ไม่หัวเราะดังนั่งในบ้าน
13. ไม่พูดเสียงดังไปในบ้าน
14. ไม่พูดเสียงดังนั่งในบ้าน
15. ไม่โคลงกายไปในบ้าน
16. ไม่โคลงกายนั่งในบ้าน
17. ไม่ไกวแขนไปในบ้าน
18. ไม่ไกวแขนนั่งในบ้าน
19. ไม่สั่นศีรษะไปในบ้าน
20. ไม่สั่นศีรษะนั่งในบ้าน
21. ไม่เอามือค้ำกายไปในบ้าน
22. ไม่เอามือค้ำกายนั่งในบ้าน
23. ไม่เอาผ้าคลุมศีรษะไปในบ้าน
24. ไม่เอาผ้าคลุมศีรษะนั่งในบ้าน
25. ไม่เดินกระโหย่งเท้า ไปในบ้าน
26. ไม่นั่งรัดเข่าในบ้าน
หมวด “โภชนปฏิสังยุต” มี 30 สิกขาบท : ว่าด้วยกิริยามารยาทที่ควรประพฤติในการรับบิณฑบาต และการฉันภัตตาหาร
1. รับบิณฑบาตด้วยความเคารพ
2. ในขณะบิณฑบาต จะแลดูแต่ในบาตร
3. รับบิณฑบาตพอสมส่วนกับแกง (ไม่รับแกงมากเกินไป)
4. รับบิณฑบาตแค่พอเสมอขอบปากบาตร
5. ฉันบิณฑบาตโดยความเคารพ
6. ในขณะฉันบิณฑบาต แลดูแต่ในบาตร
7. ฉันบิณฑบาตไปตามลำดับ (ไม่ขุดให้แหว่ง)
8. ฉันบิณฑบาตพอสมส่วนกับแกง ไม่ฉันแกงมากเกินไป
9. ฉันบิณฑบาตไม่ขยุ้มแต่ยอดลงไป
10. ไม่เอาข้าวสุกปิดแกงและกับด้วยหวังจะได้มาก
11. ไม่ขอเอาแกงหรือข้าวสุกเพื่อประโยชน์แก่ตนมาฉัน หากไม่เจ็บไข้
12. ไม่มองดูบาตรของผู้อื่นด้วยคิดจะยกโทษ
13. ไม่ทำคำข้าวให้ใหญ่เกินไป
14. ทำคำข้าวให้กลมกล่อม
15. ไม่อ้าปากเมื่อคำข้าวยังมาไม่ถึง
16. ไม่เอามือทั้งมือใส่ปากในขณะฉัน
17. ไม่พูดในขณะที่มีคำข้าวอยู่ในปาก
18. ไม่ฉันโดยการโยนคำข้าวเข้าปาก
19. ไม่ฉันกัดคำข้าว
20. ไม่ฉันทำกระพุ้งแก้มให้ตุ่ย
21. ไม่ฉันพลางสะบัดมือพลาง
22. ไม่ฉันโปรยเมล็ดข้าว
23. ไม่ฉันแลบลิ้น
24. ไม่ฉันดังจับๆ
25. ไม่ฉันดังซูด ๆ
26. ไม่ฉันเลียมือ
27. ไม่ฉันเลียบาตร
28. ไม่ฉันเลียริมฝีปาก
29. ไม่เอามือเปื้อนจับภาชนะน้ำ
30. ไม่เอาน้ำล้างบาตรมีเมล็ดข้าวเทลงในบ้าน
หมวด “ธรรมเทสนาปฏิสังยุต” มี 16 สิกขาบท : ว่าด้วยกิริยามารยาทในการแสดงธรรมแก่ผู้อื่น
1. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่มีร่มในมือ
2. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่มีไม้พลองในมือ
3. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่มีของมีคมในมือ
4. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่มีอาวุธในมือ
5. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่สวมเขียงเท้่า (รองเท้าไม้)
6. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่สวมรองเท้า
7. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่ไปในยาน
8. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่อยู่บนที่นอน
9. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่นั่งรัดเข่า
10. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่โพกศีรษะ
11. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่คลุมศีรษะ
12. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่อยู่บนอาสนะ (หรือเครื่องปูนั่ง) โดยภิกษุอยู่บนแผ่นดิน
13. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่นั่งบนอาสนะสูงกว่าภิกษุ
14. ไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่นั่งอยู่ แต่ภิกษุยืน
15. ภิกษุเดินไปข้างหลังไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่เดินไปข้างหน้า
16. ภิกษุเดินไปนอกทางไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ที่ไปในทาง
หมวด “ปกิณกะ” มี 3 สิกขาบท : ว่าด้วยกิริยามารยาท ในการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
1. ภิกษุไม่เป็นไข้ไม่ยืนถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
2. ภิกษุไม่เป็นไข้ไม่ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ หรือบ้วนน้ำลายลงในของเขียว (พันธุ์ไม้ใบหญ้าต่างๆ)
3. ภิกษุไม่เป็นไข้ไม่ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ หรือบ้วนน้ำลายลงในน้ำ
อ้างอิง:
เสขิยกัณฑ์ พระไตรปิฎกฉบับหลวง เล่มที่ 2 ข้อที่ 800-879 หน้า 659-715
**********************
2. กิจวัตร 10 อย่างของภิกษุ
1. ลงอุโบสถ
2. บิณฑบาตเลี้ยงชีพ
3. สวดมนต์ไหว้พระ
4. กวาดอาวาสวิหารลานพระเจดีย์
5. รักษาผ้าครอง
6. อยู่ปริวาสกรรม
7. โกนผมปลงหนวดตัดเล็บ
8. ศึกษาสิกขาบทและปฏิบัติพระอาจารย์
9. เทศนาบัติ
10. พิจารณาปัจจเวกขณะทั้ง 4
ประโยชน์ของกิจวัตร ๑๐ ประการ ที่พระสงฆ์พึงกระทำ ดังนี้
ลงอุโบสถ
ประโยชน์ของการลงอุโบสถ ๖ อย่างคือ
1. ส่งเสริมพระวินัย
2. ทำให้เกิดความสามัคคี
3. มีความบริสุทธิ์
4. มุตตกนิสัย(คือพ้นนิสัย)
5. คนเลื่อมใสศรัทธา
6. พาให้เป็นอย่างที่ดี
บิณฑบาต
ประโยชน์ในการบิณฑบาต
1. ได้เจริญตามรอยพระยุคลบาทของพระพุทธเจ้า
2. ได้โอกาสออกกำลังกายตอนเช้า
3. ได้สำนึกในพระคุณของแม่
4. ได้เห็นทุกข์ในการแสวงหาอาหาร
5. ได้สงเคราะห์ทานการกุศล
6. ได้ทำตนเป็นเนื้อนาบุญดียิ่งขึ้น
ทำวัตรสวดมนต์
ประโยชน์ของการทำวัตรสวดมนต์ ๖ อย่าง
1. ได้เฝ้าพระพุทธเจ้า
2. เข้าใจศาสนพิธี
3. มีจิตที่เป็นกุศล
4. ทำตนให้กล้าหาญ
5. ชาวบ้านศรัทธา
6. รักษาพระสัทธรรม
กวาดวิหารลานเจดีย์
ประโยชน์ของการกวาดวิหารลานเจดีย์
1. ได้ออกกำลังกาย
2. ทำให้สถานที่สะอาด
3. ปราศจากโรคภัย
4. จิตใจคลายเครียด
5. ขี้เกรียจจะลดลง
6. คงไว้ซึ่ศรัทธา
รักษาผ้าครอง
ประโยชน์แก่การรักษาผ้าครอง
1. ทำให้ตื่นแต่เช้า
2. เอาใจใส่ในกิจวัตร
3. ฝึกหัดจิตใจ
4. ทำให้สุขภาพดี
5. มีความจำเป็นเยี่ยม
6. เตรียมตารางชีวิต
ยู่ปริวาสกรรม
ประโยชน์ในการอยู่ปริวาส
1. ได้ปฏิบัติตามกิจวัตร
2. ได้กำจัดอาบัติโทษ
3. ได้โปรดญาติโยม
4. ได้ข่มมานะละทิฏฐิ
5. ได้ปิติปราโมทย์
6. ได้ประโยชน์เผยแพร่พระพุทธศาสนา
โกนผมปลงหนวด
ประโยชน์ของการโกนผมปลงหนวด
1. เป็นการประหยัด
2. ขจัดความสกปรก
8. ยกย่องธรรมเนียมภิกษุศึกษาพระธรรมวินัย ปฏิบัติครูอาจารย์
ประโยชน์ของการศึกษาปฏิบัติครูอาจารย์
1. เข้าใจหลักของตน
2. พ้นความสงสัย
3. ป้องกันภัยจากอาบัติ
4. ยืนหยัดกตัญญู
5. เคารพครูอาจารย์
9. เทศนาบัติ
ประโยชน์ของการแสดเทศนาบัติ
1. เป็นผู้ไม่ประมาท
2. ปราศจากมลทิน
3. มีศีลบริสุทธิ์
4. หยุดความวิปฏิสาร
5. ได้บอกอาบัติ (ครุกาบัติ)
10. พิจารณาปัจจเวกขณะ
ประโยชน์ของการพิจารณาปัจจเวกขณะ
1. ไม่เป็นหนี้ชาวบ้าน
2. ฉันอาหารไม่มีโทษ
3. เป็นประโยชน์แก่กรรมฐาน
3. การเข้าค่ายปฏิบัติธรรม
3.1 การเข้าค่ายปฏิบัติธรรมประจำปี
- จำนวน 5 วัน 4 คืน โดย
- ทำวัตรเช้า เย็น เจริญกรรมฐาน
- กิจกรรมเวียนฐาน
- กิจกรรมบิณฑบาตร
- กิจกรรมจิตอาสา อื่นๆ (ตามความเหมาะสมสถานการณ์)