ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน

ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ  คือ  ริเริ่ม พัฒนา  การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)

ประเด็นท้าทาย เรื่อง  การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สังคมศึกษาแบบสืบเสาะหาความรู้ ๕ ขั้น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน รายวิชาสังคมศึกษา ๕  สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓

       1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

สภาวะปัจจุบัน  การจัดการเรียนการสอนเรื่อง  กฎหมายในชีวิตประจำวัน รายวิชาสังคมศึกษาฯ     รหัสวิชา

ส ๒๓๑๐๑ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓  โรงเรียนธาตุทองอำนวยวิทย์ ยังไม่บรรลุผลตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่ตั้งไว้ นักเรียนไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน อยู่ในระดับปรับปรุงเป็นจำนวนมากทำให้ครูผู้สอนมีความสนใจเพื่อริเริ่ม พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษา ๓  โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สังคมศึกษาแบบสืบเสาะหาความรู้ ๕ ขั้น เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาสำหรับ เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน

          2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

                          2.1 ขั้นวางแผน (Plan)

                                   1) ศึกษาสภาพปัญหาในการเรียนการสอนรายวิชาสังคมศึกษาฯ และศึกษารูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E (Inquiry Cycle : 5E)

2) ศึกษาหลักสูตรกลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ วิเคราะห์ผลการเรียนรู้ และออกแบบหน่วยการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน

                                   3) สร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้การสืบเสาะหาความรู้ 5E (Inquiry Cycle : 5E)

                                   ๔) สร้างเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน           แบบบันทึกความคิดเห็น แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

                      2.2 ขั้นตอนการปฏิบัติ (Do)

                                   1) นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 5-6 คน คละความสามารถ เก่ง กลาง อ่อน ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ลงมือทำกิจกรรมและวัดและประเมินการเรียนรู้ท้ายชั่วโมง

                                   ๒) ครูแนะนำ ให้คำปรึกษา นิเทศ ติดตาม อำนวยความสะดวกเกี่ยวกับวัสดุ -อุปกรณ์ที่ใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้

                                   ๓) นักเรียนสรุปและอภิปรายผลการศึกษาในกิจกรรมการเรียนรู้

 

                          2.3 ขั้นตรวจสอบ (Check)

                                   ๑) การบันทึกแบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน ที่เกิดขึ้นในกระบวนการเรียนการสอน  โดยผู้สอนเป็นผู้บันทึก

                              ๒) การบันทึกความคิดเห็นของนักเรียนและครู ที่เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในกิจกรรม

                              ๓) วัดและประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังจากใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้  5E (Inquiry Cycle : 5E)

                          2.๔ ขั้นปรับปรุงการดำเนินการ (Act)

                                   ผู้สอนนำข้อมูลที่ได้จากการสังเกตพฤติกรรมระหว่างเรียนจากการบันทึกความคิดเห็น  การบันทึกแบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน  และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมาศึกษาวิเคราะห์  ตีความ  เพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ไข  และปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและวางแผนการสอนในครั้งต่อไป

             3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง

                3.1 เชิงปริมาณ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน 2๐ คน ได้รับการพัฒนาเกี่ยวกับระบบทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษาฯ เรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle : 5E) เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาฯ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด

                3.2 เชิงคุณภาพ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ได้รับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษา ๓ เรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle : 5E) เรื่องกฎหมายในชีวิตประจำวัน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ส่งผลให้ผู้เรียนมีมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด คิดเป็นร้อยละ 80