หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
ประเภทแหล่งเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ที่เป็นธรรมชาติ
ชื่อแหล่งเรียนรู้ที่อยู่ในชุมชน หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
สถานที่ ที่ตั้งของแหล่งเรียนรู้ บ้านท่ามะไฟ หมู่ที่ 9 ตำบลป่ามะคาบ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยได้พัฒนา "หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ" โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนและส่งเสริมให้ทุกชมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้หลักเกณฑ์ "หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ" มี 3 ระดับ คือ
1. พออยู่พอกิน คือ ครัวเรือนที่พัฒนาจนพึ่งพาตนเองได้ ทำกิน ทำใช้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และมีการออม
2. อยู่ดี กินดี คือ หมู่บ้าน/ชุมชนที่บริหารจัดการพัฒนาในรูปแบบกลุ่ม และพัฒนารายได้และขยายโอกาสให้คนในชุมชน
3. มั่งมี ศรีสุข คือ หมู่บ้าน/ชมชน ที่บริหารพัฒนาด้วยองค์กรเครือข่ายยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มโอกาสในอาชีพ และมีสวัสดิการชุมชน
สมาชิกในครัวเรือนทำสวนครัวมีการปลูกผักสวนครัว การปลูกผักปลอดสารพิษ เช่น กะเพรา ตะไคร้ พริก มะเขือ ถั่วฝึกยาว ตำถึง ฟัก ฟักทอง ชะอม และครัวเรือนปลูกผักสวนครัวบริเวณและหัวไร่ปลายนา ครัวเรือนปลอดอบายมุข โดยได้คำเนินการรณรงค์จากชุดปฏิบัติการฯ เพื่อให้เรียนรู้ ความชื้นใจกับครัวเรือน ในการใช้ชีวิตอย่างมีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันของตนเองโดยลด ละ เลิก อบายมุข ทุกประเภท มีการออมทรัพย์ เช่น มีการออมทรัพย์กับกลุ่มสตรี กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ การออมเงินสัจจะรายเดือนในการฝากเงินออมของสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ฯในหมู่บ้าน มีการเพิ่มหุ้นกองทุนหมู่บ้าน มีการวางแผนการใช้ง่ายเงิน โดยการทำบัญชีรับจ่าย มีแผนการใช้จ่าย และการถือสัจจะในการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ชุมชนมีการออมทรัพย์ชุมชนมีการออมจากสถาบันการเงิน เช่น กองทุนหมู่บ้านจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ฯ และสร้างเครือข่ายกับกองทุนอื่น นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นฯ เช่น มีศูนย์สาธิตการตลาด ธนาคารข้าว ร้านค้าชุมชน เป็นต้น
หมู่บ้านมีครัวเรือนทำอาชีพเสริม กล่าวคือ 1) ด้านเกษตรกรรม ได้แก่การเลี้ยงปลาในบ่อพลาสติก เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงปลาในกระชัง การเลี้ยงหมูหลุม การเลี้ยงปลา การปลูกไผ่หวาน ฯลฯ 2) ด้านอุตสาหกรรมในครัวเรือน ได้แก่ จำหน่ายอาหารแปรรูป ทอผ้า การทำแชมพูสระผม ปลูกไผ่เป็นอาชีพเสริม ปลูกพืชผักสวนครัวครัวเรือนมีอาชีพเสริม 3) ด้านพาณิชกรรมค้าขาย ได้แก่ รวมกลุ่มอาชีพเพื่อพัฒนาทักษะในอาชีพให้มีประสิทธิภาพครัวเรือนใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ตลอดจนมีครัวเรือนใช้เครื่องมือที่หาได้ในท้องถิ่นเพื่อใช้ในการเกษตรและกิจการอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรายได้
ชุมชนมีการดูแลช่วยเหลือคนจน คนด้อยโอกาสและคนประสบปัญหา ได้แก่ จัดสรรเงินสวัสดิการแก่ผู้พิการ / คิดเชื้อ ขัดเบี้ยชีพแก่คนชรา จัดสวัสดิการแก่ผู้พิการ ผู้สูงอาตุ และผู้ยากไร้ จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารคนสูงอายุ คนยากจน การจัดสวัสดิการด้านการศึกษา การตรวจเยี่ยมผู้สูงอายุ การจัดสวัสดิการในชุมชน การจัดกิจกรรมศูนย์เด็กเล็ก การจัดตั้งศูนย์สงเคราะห์ราษฎร การแบ่งปันผลผลิตที่ปลูกและเลี้ยงสัตว์ให้แก่เพื่อนบ้านใกล้เคียง หรือคูแลคนสูงอายุและคนพิการ เช่น ผักสวนครัวที่ปลูก ปลาที่เลี้ยงไว้ การจัดครั้งกลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ในชุมชน การส่งเสริมอาชีพครัวเรือนยากจน และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ชุมขน "รู้รักสามัคคี" เช่น จัดเวทีแผนชุมชน / ทบทวนแผนจัดตั้งธนาคารข้าวทำบุญตามประเพณีชุมชน มีการมอบทุนทางการศึกษา จัดหากองทุนดูแลผู้ด้อยโอกาส ปัญหาเดือดร้อนในชุมชน มีกิจกรรมสำคัญร่วมกัน เช่น การลงแขกในการเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรสร้างความสามัคคี และช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ใช้งานประเพณีเป็นสื่อในการให้ชุมชนรู้จักสามัคคีดี การสร้างบ้านเอื้ออาทรและสมาชิกในครัวเรือนร่วมทำกิจกรรมปลอดภัยในชีวิต
ผู้เขียน นางสาวปภัสรา ขวัญหอม