แก่งสาวน้อย
1. การป้องกันไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเสียหาย อย่างเช่น เกิดไฟไหม้ป่า เกิดจากการกระทำของมนุษย์ที่เข้าไปถากถางนำเอาพื้นที่บางส่วนมาใช้ทำการเพาะปลูก การลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ การปล่อยน้ำเสียต่าง ๆ ลงไปในแหล่งน้ำซึ่งทำให้น้ำเกิดมลภาวะขึ้นมา และการขีดเขียนข้อความต่าง ๆตามต้นไม้ โขดหิน โดยสิ่งเหล่านี้จะเป็นการทำให้สถานที่ท่องเที่ยวได้รับความเสียหายเกิดขึ้นดังนั้นการป้องกันสิ่งแวดล้อมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญการรักษาสถานที่ท่องเที่ยวให้คงไว้ตามธรรมชาติจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะคงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนั้นๆ ให้คงอยู่ตลอดไป ทั้งควรมีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างที่จะมีขึ้นในสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ
2.การรักษาความสะอาด นับว่ามีความสำคัญมากเพราะสถานที่ท่องเที่ยวจะน่าเที่ยวหรือไม่จะขึ้นอยู่กับความสะอาดเป็นปัจจัยที่สำคัญ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก โอกาสที่นักท่องเที่ยวจะสร้างความสกปรกเกิดขึ้นจึงมีมาก ดังนั้นผู้รับผิดชอบจึงต้องจัดหาเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดโดยตรงเพื่อเก็บกวาดเศษขยะ นอกจากนี้ทางสถานที่ท่องเที่ยวยังต้องหาสถานที่ทิ้งขยะอย่างเพียงพอ เพื่อที่นักท่องเที่ยวจะได้นำเอาสิ่งที่ไม่ต้องการไปทิ้ง เพราะขยะนอกจากจะทำให้สถานที่ท่องเที่ยวสกปรกแล้วยังอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าในบริเวณนั้นด้วย
3.ไม่ควรสร้างสิ่งก่อสร้างละปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวมากเกินไป เพราะจะทำให้ความเป็นธรรมชาติของสถานที่ท่องเที่ยวสูญเสียไป
4.การปฏิบัติตามระเบียบของสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเคร่งครัด เพื่อต้องการที่จะรักษาหรืออนุรักษ์สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติเอาไว้ ผู้ใช้บริการจึงต้องปฏิบัติตามระเบียบที่สถานที่ท่องเที่ยวนั้น
5.จัดเจ้าหน้าที่ในการดูแลและรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันความ เสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับสถานที่ท่องเที่ยว
6. การประชาสัมพันธ์ เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปใช้บริการและการขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปเพื่อป้องกันมิให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปมากเกินกว่าสถานที่ท่องเที่ยวจะรับได้ และสามารถที่จะควบคุมให้นักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสถานที่ท่องเที่ยวได้ การเดินทาง แก่งสาวน้อย” อยู่ห่างจากตัวจังหวัดหนองคาย เพียง 10 กิโลเมตร มาได้ 2 ทาง โดยใช้เส้นทางมุ่งหน้าอำเภอท่าบ่อ ใช้ถนนหมายเลข 242 เรียบถนนพนังชลประทานมาทางบ้านหนองบัว – สะเงียว อีกทาง ถนนหมายเลข 2024 ทางหลวงชนบทผ่านบ้านหนองแจ้ง – ท่าดอกคำ โดยทั้งสองทางระยะทางเท่าๆกัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
โดยที่ตำบลเมืองหมี อำเภอเมืองหนองคาย พบว่า น้ำโขงลดลงจนเห็นสันดอน และโขดหิน เกิดตะไคร่น้ำสีเขียวเกาะตามโขดหิน น้ำโขงใส และไหลช้า ซึ่งตามปกติน้ำโขงจะมีสีขุ่นแดงเป็นสีอิฐและไหลแรง ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นกับแม่น้ำโขงมาก่อน โดยตั้งแต่มีการสร้างเขื่อนในประเทศจีนและประเทศลาว ระดับน้ำโขงก็เปลี่ยนแปลงไป กระทบต่อระบบนิเวศน์ในแม่น้ำโขง
ชาวบ้านในพื้นที่ที่ออกหาปลาโดยการหว่านแห มีอุปสรรคในการจับปลา น้ำโขงลด โขดหินเกิดขึ้น เมื่อหว่านแหลงไปในน้ำ ก็มีปัญหาแหติดโขดหิน และจับปลาไม่ได้ ซึ่งนอกจากปลาลดจำนวนลง และจับได้ยากขึ้น ในส่วนของผู้เลี้ยงปลานิลในกระชังก็ได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะเศษตะไคร่น้ำไปเกาะกับกระชังจนคล้ายน้ำนิ่ง ปลาที่เลี้ยงตายได้ง่ายขึ้น และน่าเป็นห่วงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา