การปลูกฝั่งกิมจู
จุดเริ่มต้นของการเป็นเกษตรกรว่า ก่อนที่จะมาประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร ซึ่งในช่วงแรกที่กลับมาต้องยอมรับตรงๆ เลยว่า รู้สึกเคว้งคว้าง เพราะไม่ได้มีการเตรียมตัวหางานรองรับไว้ล่วงหน้า จนบังเอิญได้ไปเจอหนังสือโครงการพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 ก็ได้ลองหยิบมาอ่านจนเกิดแรงบันดาลใจและเริ่มมองเห็นอนาคตว่าจะเดินไปต่ออย่างไร ซึ่งอนาคตที่มองเห็นนั้นคือ การทำเกษตร ที่ถือเป็นการสร้างแหล่งอาหารขั้นต้น ประจวบเหมาะกับที่บ้านมีพื้นที่ว่างอยู่ 3 ไร่ จึงตัดสินใจทดลองทำเกษตรตั้งแต่นั้นมา
โดยเริ่มต้นจากการทดลองปลูกฝรั่ง จำนวน 30 ต้น ด้วยพื้นฐานความรู้ด้านการเกษตรเป็นศูนย์ รู้เพียงแค่ว่าปลูกแล้วต้องดูแลรดน้ำ ส่วนการดูแลใส่ปุ๋ย หรือการกำจัดโรคแมลงนั้นไม่มีเลย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นไปตามคาด คือปลูกแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะโดนแมลงศัตรูพืชเล่นงาน นี่จึงเป็นประสบการณ์ล้มเหลวครั้งแรกของการทำเกษตร แต่ก็ยังไม่หมดความพยายามไว้แค่นี้ เพียงแค่ต้องหยุดพักการปลูกไว้ก่อน แล้วกลับมาตั้งหลักใหม่ ด้วยการเข้าหาหน่วยงานราชการ เข้าไปขอคำปรึกษาจากเกษตรอำเภอ และแจ้งความจำนงกับทางเจ้าหน้าที่ไว้ว่า หากมีการจัดอบรมที่เกี่ยวกับการปลูกพืชอย่างปลอดภัย การทำสารชีวภัณฑ์ การทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง การจัดการระบบน้ำในแปลง รวมถึงการเรียนรู้การจัดการดิน รบกวนให้ทางเจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบ เพื่อที่จะเข้าอบรมนำความรู้ที่ได้มาพัฒนา เริ่มปรับปรุงทำสวนใหม่ และหลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ก็ติดต่อมาว่า มีจัดอบรมในหัวข้อที่ต้องการเรียนรู้ แล้วนำกลับมาทำลองผิดลองถูกกว่า 3 ปี จนประสบผลสำเร็จกับการปลูกพืชผักผลไม้แบบอินทรีย์
“จากที่เคยปลูกฝรั่ง 30 ต้น ได้ผลผลิตไม่ถึง 10 กิโลกรัม ก็เริ่มได้ผลผลิตมากขึ้น เริ่มมีความรู้ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้อง ผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก 10 เป็น 100 จนถึงปัจจุบันมีการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มกว่า 200 ต้น และที่สำคัญสินค้าได้รับรองมาตรฐานสินค้าปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
เผยเทคนิคปลูกฝรั่งกิมจูแบบอินทรีย์
ให้ได้ผลผลิตคุณภาพ ตรงใจลูกค้า
เจ้าของบอกว่า รูปแบบการทำเกษตรของตนนั้นทำในรูปแบบของเกษตรอินทรีย์ ปลูกพืชผสมผสานทั้งไม้ผลและพืชผักสลัด ในส่วนของไม้ผลเลือกปลูกมะละกอฮอลแลนด์ กล้วยหอม กล้วยไข่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และมีฝรั่งกิมจู เป็นสินค้าเด่นของสวน แล้วใช้พื้นที่ว่างใต้ต้นไม้ผลชนิดอื่นๆ ปลูกผักสลัดแซมลงไป ถือเป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ด้านเทคนิคการปลูกฝรั่งนั้น ก่อนปลูกต้องมีการวางแผนจัดสรรพื้นที่ก่อนปลูก เว้นระยะห่างที่พอเหมาะ มีการตัดแต่งกิ่ง แต่งคัดลูกก่อนห่อผล ด้วยวิธีการห่อแบบประณีต ผลผลิตออกมาจะได้คุณภาพ ตรงใจลูกค้า
เทคนิคการห่อผลแบบประณีต
1.ลักษณะของผลที่จะห่อ ต้องมีสีเขียว มัน สด ไม่มีตำหนิ
2.ให้เริ่มห่อตั้งแต่ขนาดผลเท่าเหรียญสิบ
3.ก่อนห่อต้องตัดแต่งกิ่ง คัดลูกให้เรียบร้อยก่อนห่อ จากนั้นห่อผลชั้นแรกด้วยถุงพลาสติกใหม่ แล้วห่อทับด้วยถุงกระดาษอีกชั้น เพียงเท่านี้ก็จะได้ผลผลิตฝรั่งที่ผิวสวย ลูกไม่เป็นลาย และยังช่วยป้องกันแมลงศัตรูพืชเบื้องต้นได้ด้วย
ฝากถึงเกษตรกรทั้งมือเก่าและมือใหม่
“อยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ใครที่มีพื้นที่ทำเกษตรอยู่แล้วแต่ยังทำเป็นเคมีอยู่ก็อยากให้ค่อยๆ ลองปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ดูบ้าง แล้วจะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่าง การทำเกษตรอินทรีย์สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่าง ที่สวนผมปลูกฝรั่งแบบอินทรีย์ทุกขั้นตอน ต้นทุนการผลิตฝรั่งอยู่ที่กิโลกรัมละไม่เกิน 10 บาท แต่สามารถขายผลผลิตได้ กิโลกรัมละ 30-50 บาท แค่นี้ก็มองเห็นกำไรแล้ว และที่นอกเหนือจากเรื่องของรายได้ที่เพิ่มขึ้นกว่าการใช้สารเคมีแล้ว เกษตรกรและผู้บริโภคจะได้สุขภาพที่ดีกลับคืนมาด้วย จึงอยากให้เกษตรกรทั้งมือเก่าและมือใหม่หันมาให้ความสำคัญกับเกษตรอินทรีย์กันให้มากขึ้น”