คุณอภิวรรษ สุขพ่วง (คุณพอต) ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ผู้น้อมนำคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างยอดเยี่ยม คุณพอต เล่าว่า หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรี จากคณะการจัดการอุตสาหกรรม ได้เดินทางกลับบ้านเพื่อจะมาทำอาชีพเกษตรกรรมทันที ไม่ได้มองสายงานที่เรียนมา เนื่องจากที่บ้านมีพื้นที่มรดกไว้แต่ไม่มีใครสร้างประโยชน์ ปล่อยให้เป็นพื้นที่รกร้าง และด้วยนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนรักธรรมชาติ และมีความคิดที่อยากเป็นนายตัวเอง ไม่อยากเป็นลูกน้องใคร จึงตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะมาเริ่มต้นชีวิตการเป็นเกษตรกร

ทำเกษตรพอเพียงแบบไม่รู้ตัว
คุณพอต เล่าว่า การเริ่มทำเกษตรอินทรีย์ไม่ได้ใช้เงินเป็นตัวตั้ง แต่เริ่มทำเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากความหิวโหย เพราะหลังจากที่เรียนจบกลับบ้าน ไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท รู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระของครอบครัว จึงคิดว่าเราคงต้องหาอะไรทำเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง และทำอย่างไรก็ได้ให้ครอบครัวมีรายจ่ายน้อยที่สุด
“ตอนนั้นคิดว่า การทำเกษตรเพื่อแลกเงินเป็นเรื่องที่เหนื่อย แต่ถ้าคิดว่าจะทำอย่างไร ให้คนในครอบครัวมีรายจ่ายน้อยลง มันเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า จึงเริ่มสังเกตพฤติกรรมการกินของคนในครอบครัว มองดูแล้วว่าพวกเขาไม่ได้กินอะไรที่มากไปกว่าน้ำพริกผัก อาหารหลักคือ ข้าว คิดว่าถ้าลงมือทำคงไม่ยาก จึงเริ่มลงมือปฏิบัติใช้พื้นที่มรดกเป็นห้องเรียนและเรียนการทำเกษตรด้วยตัวเอง โดยอาศัยภูมิปัญญาของคุณตาคุณยาย”

เจ้าของไร่สุขพ่วง ซึ่งมีประสบการณ์ทำไร่มา 10 ปี อธิบายว่า ความพอเพียงคือระบบเศรษฐกิจที่รวมข้อดีของระบบสังคมนิยมและทุนนิยม โดยเชื่อในเรื่องของการให้ ซึ่งใน “ทฤษฎีบันได 9 ขั้น สู่ความพอเพียง” แบ่งเป็น 2 ช่วงคือ “ขั้นพื้นฐาน” และ “ขั้นก้าวหน้า”
ขั้นพื้นฐาน ก็คือการทำให้ “ฐานราก” นั้นแข็งแรง ซึ่งในที่นี้ก็คือ พอกิน พอใช้ พออยู่ และพอร่มเย็น (ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง) สามารถพึ่งพาตัวเองได้ ก็คือที่เขาพึ่งพาตัวเองให้ได้ไม่เป็นภาระของครอบครัว
จากนั้นจึงเป็น
“ขั้นก้าวหน้า” เมื่อไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกแล้ว สุขพอแล้วก็พร้อมที่จะแบ่งปัน โดย “ทำบุญ” กับ ศาสนา พ่อแม่ และครอบครัว ให้กินอิ่มเสียก่อน แล้วจึง “ทำทาน” เมื่อเหลือ ค่อยนำไปแบ่งปันก่อนนำมา “เก็บรักษา” ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น เก็บเอาไว้ใช้เมื่อขาด และสุดท้ายค่อยนำไป “ค้าขาย”
เจ้าของไร่สุขพ่วงกล่าวว่า เศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เวลามีพูดที่ไหนคนฟังแรกๆ อาจจะไม่เข้าใจ คิดว่าทำยาก แต่หากได้ “ลงมือทำ” แล้วจะเข้าใจและมองเห็นถึงวิสัยทัศน์และคำสอนของพระองค์ท่านในนี้ เพราะฉะนั้นตัวอย่างความสำเร็จจึงมีค่ามากกว่าคำสอน
“ไม่เคยมีใครคิดมาก่อนว่าจะใช้ไบโอดีเซลในรถยนต์ได้จริง แต่พระองค์ท่านก็ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ในรถยนต์ส่วนพระองค์” อภิวรรษกล่าวด้วยรอยยิ้มและว่า
ในช่วงที่มีวิกฤตโควิด-19 คือหลักฐานว่าเศรษฐกิจพอเพียงไม่มีวันล้าหลัง ช่วยบรรเทาปัญหาได้จริง เพราะแม้แต่แบรนด์ใหญ่ก็ล้มได้ ยุคนี้จึงเป็นยุคของคนตัวเล็กที่พึ่งพาตัวเองได้ พระองค์ท่านไม่ได้สอนให้ยึดติดรูปแบบว่าต้องเป็นแบบไหน แต่พระราชทานหลักการพอเพียงมาให้คนไทยได้แตกไลน์นำไปปรับใช้แก้ปัญหาของแต่ละพื้นที่ได้ ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืน ผมรู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้เกิดเป็นคนไทย

แหล่งเรียนรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี
ชื่อแหล่งเรียนรู้ ศูนย์การเรียนรู้อินทรีย์วิถีไทย Earth Safe “ไร่สุขพ่วง”
สถานที่ ที่ตั้ง บ้านเลขที่ 107 หมู่ที่ 10 ตำบลจอมบึง อำเภอจอมบึง
จังหวัดราชบุรี

ผู้บันทึกข้อมูล นางศันสุนีย์ ศรีพรหมทอง