หลวงปู่ทอง สุสังวโร กับศรัทธาของชาวต่างชาติ (ตอนที่ ๓)

หลวงปู่ทอง สุสังวโร เป็นภิกษุผู้มีจริยวัตรงดงามแห่งภาคใต้ ประชาชนเชื่อว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้บรรลุมรรคผลและทรงอภิญญา ท่านคือผู้มีญาณวิเศษติดต่อกับหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดได้..ดังนั้นจึงมีสานุศิษย์เลื่อมใสศรัทธากล่าวขานกันมาก นับตั้งแต่ท่านยังไม่ละสังขาร และก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พุทธบริษัทชาวมาเลเซีย ชาวสิงคโปร์ เดินทางมาแสวงบุญยังวัดป่ากอฯ...หลวงปู่ทอง สุสังวโร อายุ 92 ปี พรรษา 54 อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกวัดป่ากอสุวรรณาราม ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา หลวงปู่มรณภาพด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2543 เวลา 12.08 น. ณ กุฎิของหลวงปู่ทองเอง ปัจจุบันร่างสังขารของหลวงปู่ทองบรรจุในสถานที่ปลอดภัย สภาพสังขารของหลวงปู่ทองแห้งกลายเป็นหิน เส้นผม เล็บมือ เล็บเท้า งอกยาวขึ้น เห็นได้ชัดเจนมาก ทุกวันจะมีบรรดาศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่น ชาวมาเลเซีย ชาวจีน ...ชาวสิงคโปร์ เดินทางมาเคารพร่างสังขารของหลวงปู่ทอง สุสังวโร จำนวนมากมาย เปรียบเสมือนท่านยังมีชีวิตอยู่.....หลวงปู่ท่านมรณภาพด้วยโรคชราภาพ.... เช้าวันที่ท่านละสังขาร ท่านได้กล่าววาจาครั้งสุดท้ายกับศิษยานุศิษย์ที่มาเฝ้าอาการอาพาธของท่าน...และเป็นการเตือนภัยแก่ชาวหาดใหญ่ สงขลา ว่า...ให้ระวังจะเกิดวาตภัย และอุทกภัยใหญ่ภายในหลังจากที่อาตมาภาพละสังขารไปแล้ว ภัยธรรมชาติจะสร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงมีผู้คนล้มตายจำนวนมาก ประชาชนจะอดอยาก น้ำตานองหน้าไปทั่วทุกหนแห่ง...หลวงปู่ทองกล่าวจบแล้ว ได้มีศิษย์ซักถามแต่ท่านไม่ได้พูดอะไร และอีกไม่กี่ชั่วยาม...ท่านก็ละสังขารอย่างสงบดับสิ้นเวทนาทั้งปวง...

ในวันนั้นทางวัดได้จัดพิธีอาบน้ำศพหลวงปู่ทอง...พอทำพิธีแล้วเสร็จเท่านั้นแหละ...ฝนฟ้าก็ตกลงมาอย่างหนัก และหนักขึ้นเรื่อย ๆ ติดต่อกันจนเกิดน้ำป่าไหลหลากจมเมืองหาดใหญ่เป็นอุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่เป็นครั้งประวัติศาสตร์ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมาก...เรื่องนี้ชาวหาดใหญ่และชาวสงขลาต่างร่ำลือกันยกใหญ่ว่า...หลวงปู่ทองมีตาทิพย์สามารถรู้อนาคตกาลกลายเป็นเรื่องกล่าวขานสืบต่อกันมาจนทุกวันนี้...หลวงปู่ท่านแผ่บารมีสร้างบุญมาตลอดชีวิตแม้จะลาโลกท่านก็ยังได้แสดงอภินิหารบอกกล่าวเตือนลูกหลานลูกศิษย์ให้ทราบก่อนที่ท่านจะสิ้นบุญ...ภายหลังที่หลวงปู่มรณภาพทางวัดได้สวดพระอภิธรรมและเก็บศพไว้จนกาลเวลาดำเนินถึงร้อยวันการมรณภาพ...สังขารหลวงปู่ที่อยู่บนโลงแก้วบนศาลาการเปรียญ เกิดสิ่งเหนือโลกสามัญเหนือธรรมชาติที่ทำให้บรรดาลูกศิษย์ต้องมุงดูและวิพากษ์วิจารณ์อย่างทึ่ง..ระทึกใจในสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า...นั่นคือ..หลวงปู่ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้สรีระธรรมของท่านไม่เน่าเปื่อย สังขารของท่านนิ่งสงบไม่ต่างกับตอนที่ท่านยังทรงสังขาร...เนื้อหนังมังสายังคงสภาพไม่แห้งติดกระดูกโดยเฉพาะใบหน้าของหลวงปู่ยังแลดูอิ่มเอิบเหมือนท่านมีชีวิตลมหายใจแต่เพียงแค่นอนหลับ...ยิ่งกว่านั้น

คือ เส้นผมของท่านยาวออกมาได้ทั้ง ๆ ที่ศิษย์ใกล้ชิดยืนยันว่า...หลวงปู่ทองท่านได้ปลงเกศาก่อนมรณภาพเพียงวันเดียว..นอกจากนี้เล็บมือเล็บเท้าก็งอกยาวยื่นออกมาด้วย...จึงเป็นที่ร่ำลือไปทั่วภาคใต้ถึงความเป็นอริยสงฆ์ของหลวงปู่ทอง การมรณภาพแล้งศพไม่เน่าเปื่อย เส้นผม และเล็บงอกยาวได้โด่งดังไปถึงมาเลเซียและสิงคโปร์ซึ่งคอยฟังดูข่าวคราวของท่านโดยตลอด...เพราะที่มาเลเซีย และสิงคโปร์มีศิษยานุศิษย์เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่ทองเป็นจำนวนมากและเขาเหล่านั้นก็มักมานิมนต์ท่านไปประกอบพิธีทางศาสนาอยู่เสมอในยามที่ท่านยังไม่สิ้นบุญ

ความศรัทธาของชาวต่างชาติที่มีต่อ...หลวงปู่ทอง สุสังวโร เป็นพระปฏิบัติเช่นเดียวกับพระนักปฏิบัติโดยทั่วไป ความศรัทธาของประชาชน ชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ได้ฟังธรรมะของหลวงปู่ทอง ท่านจะแสดงธรรมง่ายๆ ให้นำไปปฏิบัติ เมื่อผู้ฟังนำไปปฏิบัติแล้วก็เกิดผล จึงทำให้ประชาชนชาวต่างชาติได้ทราบกิตติศัพท์ ของหลวงปู่ทอง สุสังวโร พากันเดินทางไปนมัสการและฟังธรรมกันจนวัดป่ากอสุวรรณารามเปลี่ยนแปลงจากสำนักสงฆ์ที่ไม่มีถาวรวัตถุจนเวลานี้มีกุฎิ ศาลา และอาคารก่อสร้างต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมายด้วยแรงศรัทธา จากประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งชาวต่างชาติที่เข้ามากราบไหว้หลวงปู่ทอง ได้แก่ ชาวมาเลเซีย ชาวสิงคโปร์ ชาวจีนและชาวอินโดนีเซีย