ประวัติวัด

วัดทับกฤชกลาง สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2453 ระยะแรกเริ่มสร้างวัดได้ขนานนามว่า วัดสังฆะรังสฤดิยาราม เดิมทีพระภิกษุสังวรได้จำพรรษาอยู่ที่วัดทับกฤชใต้มีพี่น้อง 4 คน ได้บวชเป็นพระภิกษุพร้อมหน้ากัน จนอยู่มาวันหนึ่งพระภิกษุทั้ง 4 พี่น้องจึงปรึกษากันขึ้นว่า อยากจะสร้างวัด เมื่อมีความเห็นตรงกันดังนั้นแล้ว ภิกษุทั้ง 4 พี่น้องจึงได้ออกสืบเสาะหาที่ดินที่เหมาะสม พอที่จะสร้างวัดได้ จึงได้มาพบที่ดินแปลงหนึ่งเห็นว่าเป็นทำเลที่เหมาะสม พอที่จะสร้างวัดได้ จึงติดต่อขอซื้อจากนางเอี้ยง แม่ของนางมะลิ ปัจจุบันคือ ร้านสุวรรณประดิษฐ์ ตลาดทับกฤช กับนายเงินเหมือนศรี เดิมทีที่ดินแปลงนี้นางเอี้ยงได้ขายให้กับนายเงิน เหมือนศรี แต่นายเงิน เหมือนศรี ยังชำระค่าที่ไม่หมด และนายเงินเหมือนศรี ได้ขายต่อให้พระภิกษุทั้ง 4 รูป พระภิกษุทั้ง 4 รูปก็ยังชำระเงินไม่หมด ยังขาดอยู่อีก 40 บาท ฉะนั้น นางเอี้ยงพร้อมด้วยนายเงิน เหมือนศรี มีจิตศรัทธา เลื่อมใส จึงพร้อมใจกันถวายเงินที่เหลืออยู่นั้นให้กับวัด จำนวนที่ดินทั้งหมดมีเนื้อ ที่ 17 ไร่ 2 งาน 84 ตารางวา เป็นเงิน 300 ร้อยบาท ในสมัยนั้นถือมากเป็นจำนวนมากทีเดียว เมื่อตกลงซื้อขายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระภิกษุสังวาล นนฺทโก ผู้เป็นพี่ จึงได้ให้ภิกษุทั้ง 3 รูป ไปร่วมกันถางป่าเพราะในขณะนั้นเป็นป่าดงรกมาก เมื่อขณะพระภิกษุทั้ง 4 รูป ได้ถากถางป่าอยู่นั้น ได้พบจอมปลวกหนึ่งปลวก บนปลวกนั้นมีงูใหญ่อาศัยอยู่หนึ่งตัว พระภิกษุทั้ง 4 รูปจะทำการไล่อย่างไร พญางูใหญ่นั้นก็ไม่ยอมไป เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้น พระภิกษุทั้ง 4 รูป จึงปรึกษากันว่า เราควรจะทำให้ถูกพิธีการ จากนั้นพระภิกษุกุทั้ง 4 รูปจึงตั้งสัตย์อธิษฐานว่า ถ้าหากแม้นว่าข้าพเจ้าทั้ง 4 รูป จะทำการสร้างวัดนี้สำเร็จ เจริญรุ่งเรืองไปภายภาคหน้าแล้วไซร้ ขอพญางูจงเคลื่อนย้ายออกจากที่นี้ เมื่อเสร็จจากการอธิษฐานแล้ว ปรากฏดังปาฏิหาริย์พญางูได้เคลื่อนย้ายไปจากที่นั่นในทันทียังความขนพองสยองเกล้า ให้กับพระภิกษุทั้ง 4 รูปเป็นที่สุด จากนั้นจึง จากนั้นจึงได้ทำการถากถางป่ากันจนเสร็จ เมื่อฤกษ์งาม ยามดีจึงได้วางศิลาฤกษ์ เมื่อขึ้น ๙ ค่ำ เดือน 6 วันจันทร์ อธิบดี เวลาเช้าย่ำรุ่ง คือ 6 โมง เช้า กับ 50 นาที ตรงกับ ปีกุล พ.ศ. 2466 และจึงได้นามว่า วัดสังฆะรังสฤดิยาราม ปัจจุบันชื่อว่า วัดทับกฤชกลาง วัดนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาวันที 23 สิงหาคม พ.ศ. 2477 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตรมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาปีละประมาณ 40 รูป ทางวัดให้ทางราชการจัดสร้างโรงเรียนประถมศึกษาขึ้นในวัดเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ และให้ทางราชการตัดถนนผ่านวัดเนื้อทีประมาณ 1 ไร่เศษอีกด้วย