ห้องอบตัวด้วยสมุนไพรบ้านถ้ำสิงห์

ห้องอบตัวด้วยสมุนไพรบ้านถ้ำสิงห์

ห้องอบตัวด้วยสมุนไพรบ้านถ้ำสิงห์ สถานที่ตั้ง ในวัดถ้ำสิงห์ หมู่ที่ 1 ตำบลถ้ำสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเกิดจากการรวมกลุ่มของชาวบ้านกับวัดสร้างห้องอบตัวด้วยสมุนไพร โดยจะเปิดบริการทุกวันพุธ ตั้งแต่เวลา 15.00 – 18.00 น. บริการฟรี ดำเนินงานบริการโดยนายสุรินทร์ อินทร์วัฒนา นายเล็ก เรืองราย นายน้อย พราหมณ์สังข์ และนายไพบูลย์ คูประเสริฐ ได้รับการสนับสนุนโดย ชมรมผู้สูงอายุตำบลถ้ำสิงห์ องค์การบริหารส่วนตำบลถ้ำสิงห์ และวัดถ้ำสิงห์

การอบสมุนไพร เป็นวิธีการบำบัดรักษาและส่งเสริมสุขภาพ ตามหลักของการแพทย์แผนไทย โดยใช้หลักการอบสมุนไพร คือ ต้มสมุนไพรหลาย ๆ ชนิดรวมกัน ซึ่งประกอบด้วยสมุนไพรที่มีน้ำมันหอมระเหยและสมุนไพรรักษาตามอาการ สมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวนำมาต้มจนเดือด ไอน้ำ น้ำมันหอมระเหย และสารระเหยต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ในสมุนไพรจะออกสัมผัสถูกผิวหนังทำให้มีผลเฉพาะที่ และสูดดมเข้าไปกับลมหายใจ มีผลต่อระบบทางเดินหายใจและผลทั่วร่างกาย ดังนั้นผลการรักษาด้วยการอบสมุนไพรที่ซึมผ่านผิวหนัง และเข้าไปกับลมหายใจซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพดังนี้

- ช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก

- ช่วยบรรเทาอาการหอบหืดเรื้อรัง

- ทำให้ปอดขยายตัวได้ดี ระบบหายใจปลอดโปร่ง มีความคล่องตัวมากขึ้นไม่อึดอัด

- ทำให้ผดผื่นคัน และอาการอักเสบของผิวหนังกายไปได้

- ช่วยฆ่าเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย อันก่อให้เกิดโรคกลากเกลื้อน ทำให้ผิวหนังเกลี้ยงเกลา สะอาด มีน้ำมีนวล ไม่หมองคล้ำ

- ช่วยลดความดันโลหิตสูง เพราะเส้นโลหิตจะขยายออกทำให้โลหิตไหลเวียนสะดวกขึ้น ผิวพรรณจึงผุดผ่อง เปล่งปลั่ง มีเลือดฝาด

- ช่วยฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วยที่กำลังพักฟื้น ให้คืนกลับมาแข็งแรงเป็นปกติเร็วขึ้น เสริมสร้างสุขภาพของผู้ที่อ่อนแอ ขี้โรค ให้กลายเป็นคนที่มีสุขภาพดี กระปรี้กระเปร่า มีเรี่ยวแรงดีขึ้น สุขภาพจิตผ่องใส สุขภาพกายแข็งแรง

- ทำให้มดลูกของสตรีหลังคลอดเข้าอู่ได้เร็วขึ้น ช่วยขับน้ำคาวปลา การอบสมุนไพรจะทำให้สุขภาพร่างกายของสตรีหลังคลอดดีขึ้น แต่จะต้องทำการอบสมุนไพรหลังการคลอดประมาณ 10 วัน จึงจะได้ผลดี ว่ากันว่าสตรีหลังคลอดที่ผ่านการอบสมุนไพรมาแล้วนั้น ผิวพรรรจะผุดผ่องเป็นยองใยยิ่งกว่าเด็กสาว ๆ เสียอีก เพราะการอบสมุนไพร จะทำให้เกิดเลือดฝาดที่มีสีแดงบริสุทธิ์ขึ้นมานั่นเอง

- ทำให้ใบหน้านิ่มนวล เกลี้ยงเกลา ผิวหน้าปราศจากความมัน และความหยาบกร้าน

- ช่วยรักษาสิว ฝ้า ขจัดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ลบรอยตีนกา ริ้วรอยที่หัวคิ้ว ขอบตา และหน้าผาก

- ช่วยแก้อาการเหน็บชา อาการชาตามปลายเท้า ปลายนิ้วมือ แขน และขา

- ช่วยทุเลาอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต และทำให้หายขาดได้

- ช่วยขจัดความเมื่อยล้า บรรเทาอาการปวดเมื่อย กล้ามเนื้อ เส้น และเอ็น ให้เบาบางลง จนกระทั่งเป็นปกติในที่สุด

- ลดไขมันส่วนเกินของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

การใช้สมุนไพร จะใช้เป็นสมุนไพรสดที่หาได้ในท้องถิ่น การใช้สมุนไพรสดมักไม่จำกัดชนิด อาจเพิ่มหรือลดชนิดตามความต้องการในการใช้ประโยชน์ และยากง่ายในการจัดหา แต่ถือหลักว่าควรมีสมุนไพรครบทั้ง 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 สมุนไพรที่มีกลิ่นหอม กลุ่มนี้มีสาระสำคัญที่ออกฤทธิ์เป็นน้ำมันหอมระเหย ซึ่งช่วยรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคผิวหนัง ปวดเมื่อย หวัด คัดจมูก ตัวอย่างเช่น ไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ มะกรูด กลุ่มที่ 2 สมุนไพรที่มีรสเปรี้ยว กลุ่มนี้มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ซึ่งช่วยชะล้างสิ่งสกปรก และเพิ่มความต้านทานโรคให้กับผิวหนัง ตัวอย่างเช่น ใบมะขาม และฝักส้มป่อย กลุ่มที่ 3 เป็นสารประกอบที่ระเหิดได้เมื่อถูกความร้อนและมีกลิ่นหอม เช่น การบูร พิมเสน กลุ่มที่ 4 สมุนไพรที่ใช้รักษาเฉพาะโรค เช่น ต้องการรักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน

การอบไอน้ำสมุนไพร เป็นการล้างพิษอีกวิธีหนึ่งที่ใช้กันมานานแล้ว มีสรรพคุณเป็นที่ยอมรับมาแต่ครั้งโบราณจวบจนถึงปัจจุบัน แล้วว่าเป็นเลิศในการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างดีเยี่ยม การอบไอน้ำสมุนไพร เป็นการใช้ประโยชน์ของ "ความร้อนบำบัด" นั่นเอง "การอบไอน้ำสมุนไพร" เป็นกรรมวิธีในการรักษาสุขภาพอนามัยแบบพื้นบ้าน

ตำแหน่งที่ตั้ง : ในวัดถ้ำสิงห์ หมู่ที่ 1 ตำบลถ้ำสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

การเดินทาง : วิธีที่ 1: เดินทางโดย รถยนต์

เดินทางจากศาลหลักเมืองชุมพรไปทางแยกหมอเล็กระยะทาง500เมตรใช้ถนนเส้น327ชุมพร-วังไผ่จนถึงสี่แยกปฐมพรระยะทาง10กม.จากนั้นขึ้นสะพานต่างระดับเพ่อตรงไปใช้เส้นทางชุมพร-ระนองระยะทางประมาณ3.5กม.จากนั้นขับตรงไปจนถึงปากทางเข้าวัดถ้ำสนุกเลี้ยวซ้ายใช้ระยะทางประมาณ9กม.ก็จะถึงบ้านถ้ำสิงห์

วิธีที่ 2: เดินทางโดย รถสองแถว

ขึ้นรถสองแถวหน้าศาลหลักเมืองชุมพรคิวชุมพร-กองพัน-เขาวงไปลงที่คิวปากทางเข้าวัดถ้ำสนุก ค่าโดยสารประมาณ 30 บาทไปลงที่บ้านถ้ำสิงห์

ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย นางสาวอลิษา คงจูด

ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นางสาวอลิษา คงจูด