คริสเตียโน โรนัลโด กับ รุด ฟานนิสเตอรอย เคยทะเลาะกันอย่างรุนแรง
คริสเตียโน โรนัลโด กับ รุด ฟานนิสเตอรอย เคยทะเลาะกันอย่างรุนแรงเมื่อครั้งอดีต
คริสเตียโน โรนัลโด ร้องไห้หลังจากถูกแสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรงเกี่ยวกับบิดาผู้ล่วงลับของเขา ช่วงเวลาของโรนัลโด้ที่แมนฯยูไนเต็ดคือระหว่างปี 2003 ถึง 2009 ในระหว่างนั้นเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับยูไนเต็ดสามสมัย , แชมป์เอฟเอคัพสามสมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ระหว่างที่เขาค้าแข้งอยู่กับทีมนั้น Jose Dinis Aveiro พ่อของเขาเสียชีวิตด้วยโรคตับที่เกี่ยวข้องกับโรคพิษสุราเรื้อรังเมื่อเดือนกันยายน 2005 ในตอนนั้นโรนัลโดอายุเพียง 20 ปี จากนั้นมาจึงทำให้โรนัลโด้ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปฏิบัติตามแบบแผนของการออกกำลังกายอย่างเข้มงวดเพื่อให้เขามีรูปร่างที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอมา
คริสเตียโน โรนัลโด ร้องไห้หลังจากถูกแสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรงเกี่ยวกับบิดาผู้ล่วงลับของเขา ช่วงเวลาของโรนัลโด้ที่แมนฯยูไนเต็ดคือระหว่างปี 2003 ถึง 2009 ในระหว่างนั้นเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับยูไนเต็ดสามสมัย , แชมป์เอฟเอคัพสามสมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ระหว่างที่เขาค้าแข้งอยู่กับทีมนั้น Jose Dinis Aveiro พ่อของเขาเสียชีวิตด้วยโรคตับที่เกี่ยวข้องกับโรคพิษสุราเรื้อรังเมื่อเดือนกันยายน 2005 ในตอนนั้นโรนัลโดอายุเพียง 20 ปี จากนั้นมาจึงทำให้โรนัลโด้ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปฏิบัติตามแบบแผนของการออกกำลังกายอย่างเข้มงวดเพื่อให้เขามีรูปร่างที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอมา
หลุยส์ ซาฮา อดีตสตาร์ของแมนฯ ยูไนเต็ด เล่าถึงการโต้เถียงกันในสนามซ้อมที่โรนัลโดเคยมีกับ รุด ฟาน นิสเตอรอย เพื่อนร่วมทีมหลังจากปีกดาวรุ่งล้มเหลวในการจ่ายบอลง่ายๆ และยืนยันว่ากองหน้าชาวดัตช์รายนี้ทำให้คู่หูชาวโปรตุเกสของเขาร้องไห้ เขากล่าวว่า “รุด มีลักษณะนิสัยแบบนั้นในตอนนั้นเขาต้องการให้ทุกอย่างออกมาดีตลอดและบางครั้ง สำหรับการพัฒนาของ คริสเตียโน โรนัลโด และ เวย์น รูนี่ย์ มันเป็นเรื่องยากสำหรับผู้จัดการทีมที่จะรับมือด้วย” เมื่อถูกถามว่ารุดทำให้โรนัลโดร้องไห้เหรอ? “ใช่ มีเรื่องเล่าเพราะผมคิดว่าพวกเขาจบลงด้วยการทะเลาะกันตอนที่พ่อของคริสเตียโนเสียชีวิต ดังนั้นจึงไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นสองคนมีสปิริตมากมาย แต่ผมแน่ใจว่ารุดเสียใจกับคำพูดของเขาบ้าง” อดีตทีมงานของยูไนเต็ด และเป็นเพื่อนที่ดีของ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหนังสือของเขา “ฟางเส้นสุดท้ายคือตอนที่เขาบอก คริสเตียโน โรนัลโดว่าเขาได้พบพ่อคนใหม่ คือ Carlos Queiroz ที่เป็นผู้ช่วยของ เซอร์ อเล็ก หลังจากที่พ่อของ โรนัลโด ซึ่งติดเหล้าเสียชีวิตลง คาร์ลอสขอให้เขาแสดงความเคารพและเขาบอกว่าเขาไม่เคารพใครที่นั่น อเล็กซ์ได้ส่ง ฟาน นิสเตอรอย กลับบ้านเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้ในภายหลัง เขาไม่แน่ใจว่าเขาจะทำอะไรกับเขา”
หลุยส์ ซาฮา อดีตสตาร์ของแมนฯ ยูไนเต็ด เล่าถึงการโต้เถียงกันในสนามซ้อมที่โรนัลโดเคยมีกับ รุด ฟาน นิสเตอรอย เพื่อนร่วมทีมหลังจากปีกดาวรุ่งล้มเหลวในการจ่ายบอลง่ายๆ และยืนยันว่ากองหน้าชาวดัตช์รายนี้ทำให้คู่หูชาวโปรตุเกสของเขาร้องไห้ เขากล่าวว่า “รุด มีลักษณะนิสัยแบบนั้นในตอนนั้นเขาต้องการให้ทุกอย่างออกมาดีตลอดและบางครั้ง สำหรับการพัฒนาของ คริสเตียโน โรนัลโด และ เวย์น รูนี่ย์ มันเป็นเรื่องยากสำหรับผู้จัดการทีมที่จะรับมือด้วย” เมื่อถูกถามว่ารุดทำให้โรนัลโดร้องไห้เหรอ? “ใช่ มีเรื่องเล่าเพราะผมคิดว่าพวกเขาจบลงด้วยการทะเลาะกันตอนที่พ่อของคริสเตียโนเสียชีวิต ดังนั้นจึงไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นสองคนมีสปิริตมากมาย แต่ผมแน่ใจว่ารุดเสียใจกับคำพูดของเขาบ้าง” อดีตทีมงานของยูไนเต็ด และเป็นเพื่อนที่ดีของ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหนังสือของเขา “ฟางเส้นสุดท้ายคือตอนที่เขาบอก คริสเตียโน โรนัลโดว่าเขาได้พบพ่อคนใหม่ คือ Carlos Queiroz ที่เป็นผู้ช่วยของ เซอร์ อเล็ก หลังจากที่พ่อของ โรนัลโด ซึ่งติดเหล้าเสียชีวิตลง คาร์ลอสขอให้เขาแสดงความเคารพและเขาบอกว่าเขาไม่เคารพใครที่นั่น อเล็กซ์ได้ส่ง ฟาน นิสเตอรอย กลับบ้านเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้ในภายหลัง เขาไม่แน่ใจว่าเขาจะทำอะไรกับเขา”
สำหรับ รุด ฟานนิสเตอรอย ยิงประตูให้กับแมนยูไนเต็ด 95 ลูก ได้ออกจากสโมสรในปี 2006 เพื่อเซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด เขาเลิกสัญญากับเอเย่นต์ส่วนตัวของเขาหลังจากที่เขาถูกดร็อปในเกมที่เอาชนะวีแกน แอธเลติกในศึกคาร์ลิ่ง คัพ ปี 2006 ต่อมา ฟาน นิสเตอรอย ยอมรับว่าพฤติกรรมของเขาในเหตุการณ์ระหว่างเขากับโรนัลโด้นั้นผิด ในการพูดคุยกับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ระหว่างงาน Vibe with FIVE เขากล่าวว่า “ผมรู้ว่าผมคิดผิดในสถานการณ์นั้น ผมเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวทันทีและนั่งถัดจากเขาในห้องแต่งตัวและขอโทษสำหรับพฤติกรรมของผมเมื่อผมสงบลง ความหงุดหงิดนั้นมาจากที่ไหนสักแห่ง และตอนนี้เมื่อคุณอายุ 44 ปี คุณมองย้อนกลับไปในสิ่งต่าง ๆ และคุณรู้เมื่อสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นรอบตัวคุณในช่วงชีวิตส่วนตัวของคุณ สิ่งต่างๆกำลังเกิดขึ้น และบางครั้งอาจทำให้คุณหงุดหงิด เหตุการณ์นั้นนำไปสู่การพูดคุยกับคริสเตียโน แน่นอน คุณต้องตระหนักในตอนนั้น และคุณต้องหนักแน่นพอที่จะยอมรับสิ่งนั้น” ถึงแม้ว่า ฟาน นิสเตอรอย จะออกจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ดด้วยเงื่อนไขที่ไม่ดีนักกับเฟอร์กี้ แต่เขายืนยันในปี 2011 เขาได้เข้ามาขอโทษเป็นการส่วนตัว เขาอธิบายกับ Voetbal International ว่าเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ปีละสองหรือสามครั้ง” และพูดคุยกับภรรยาของเขา เขากล่าวว่า “ภรรยาของผมแนะนำให้ผมส่งข้อความหาเฟอร์กูสันเพื่อดูว่าเขาเต็มใจคุยหรือไม่ และเมื่อผมส่งข้อความถึงเขาเพื่อถามว่าผมสามารถโทรหาเขาได้หรือไม่เขาก็ตอบว่า ตกลงโทรหาเขาตามวันและเวลานี้ ผมโทรหาเขาแล้วเขาก็ตอบและพูดว่า ชีวิตเราต้องเดินต่อไปข้างหน้า ผมบอกว่าผมอยากจะขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นและเขาตอบว่า ได้ ฉันซาบซึ้งใจ เมื่อเราพบกันอีกครั้งก็จะไม่เป็นไร มันเยี่ยมมากที่ผมได้รู้”
สำหรับ รุด ฟานนิสเตอรอย ยิงประตูให้กับแมนยูไนเต็ด 95 ลูก ได้ออกจากสโมสรในปี 2006 เพื่อเซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด เขาเลิกสัญญากับเอเย่นต์ส่วนตัวของเขาหลังจากที่เขาถูกดร็อปในเกมที่เอาชนะวีแกน แอธเลติกในศึกคาร์ลิ่ง คัพ ปี 2006 ต่อมา ฟาน นิสเตอรอย ยอมรับว่าพฤติกรรมของเขาในเหตุการณ์ระหว่างเขากับโรนัลโด้นั้นผิด ในการพูดคุยกับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ระหว่างงาน Vibe with FIVE เขากล่าวว่า “ผมรู้ว่าผมคิดผิดในสถานการณ์นั้น ผมเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวทันทีและนั่งถัดจากเขาในห้องแต่งตัวและขอโทษสำหรับพฤติกรรมของผมเมื่อผมสงบลง ความหงุดหงิดนั้นมาจากที่ไหนสักแห่ง และตอนนี้เมื่อคุณอายุ 44 ปี คุณมองย้อนกลับไปในสิ่งต่าง ๆ และคุณรู้เมื่อสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นรอบตัวคุณในช่วงชีวิตส่วนตัวของคุณ สิ่งต่างๆกำลังเกิดขึ้น และบางครั้งอาจทำให้คุณหงุดหงิด เหตุการณ์นั้นนำไปสู่การพูดคุยกับคริสเตียโน แน่นอน คุณต้องตระหนักในตอนนั้น และคุณต้องหนักแน่นพอที่จะยอมรับสิ่งนั้น” ถึงแม้ว่า ฟาน นิสเตอรอย จะออกจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ดด้วยเงื่อนไขที่ไม่ดีนักกับเฟอร์กี้ แต่เขายืนยันในปี 2011 เขาได้เข้ามาขอโทษเป็นการส่วนตัว เขาอธิบายกับ Voetbal International ว่าเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ปีละสองหรือสามครั้ง” และพูดคุยกับภรรยาของเขา เขากล่าวว่า “ภรรยาของผมแนะนำให้ผมส่งข้อความหาเฟอร์กูสันเพื่อดูว่าเขาเต็มใจคุยหรือไม่ และเมื่อผมส่งข้อความถึงเขาเพื่อถามว่าผมสามารถโทรหาเขาได้หรือไม่เขาก็ตอบว่า ตกลงโทรหาเขาตามวันและเวลานี้ ผมโทรหาเขาแล้วเขาก็ตอบและพูดว่า ชีวิตเราต้องเดินต่อไปข้างหน้า ผมบอกว่าผมอยากจะขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นและเขาตอบว่า ได้ ฉันซาบซึ้งใจ เมื่อเราพบกันอีกครั้งก็จะไม่เป็นไร มันเยี่ยมมากที่ผมได้รู้”