I. ในการที่น้ำพระทัยของพระเจ้าจะสำเร็จบนแผ่นดินโลกและพระประสงค์ที่นิรันดร์ของพระองค์จะสำเร็จเป็นจริงนั้น พระเจ้าทรงจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากเรา — 1กธ.6:17; มธ.7:11; 12:50:
1. พระเจ้าจะทำให้สิ่งที่พระองค์ทรงวางโครงการไว้ในสวรรค์สำเร็จลุล่วงบนแผ่นดินโลกได้ก็ต่อเมื่อพระองค์ทรงมีพลไพร่ที่มาร่วมมือกับพระองค์ — ยฮ.7:17; 12:50:
(1) พระเจ้าทรงจำเป็นต้องได้รับพลไพร่บนแผ่นดินโลกที่ร่วมมือกับพระองค์และร่วมงานกับพระองค์ตามความคิดของพระองค์ — ฟป.3:15; กซ.3:2.
(2) ขอเพียงมีคนที่มีความคิดอย่างเดียวกันกับพระเจ้าและยินดีร่วมงานกับพระองค์ การงานของพระเจ้าก็จะสำเร็จลุล่วงบนแผ่นดินโลก — 1กธ.15:58; 16:10.
2. ตาของเราต้องถูกเปิดออกเพื่อจะมองเห็นว่าพระเจ้าทรงมีข้อจำกัดของพระองค์ และมองเห็นว่าเราควรร่วมมือกับพระองค์อย่างไร — มธ.6:10; 18:18–19; 2กธ.6:1:
(1) พระเจ้าทรงทำได้ทุกอย่าง แต่ความสามารถในการทำได้ทุกอย่างของพระองค์ก็มีข้อจำกัด เพราะพระองค์จะต้องมีเงื่อนไขบางอย่างที่เหมาะสมกับการทำงานของพระองค์ — ยฮ.7:17; มธ.7:21.
(2) มนุษย์ถูกเนรมิตสร้างให้มีความตั้งใจที่อิสระ; ข้อจำกัดของพระเจ้าก็เริ่มจากจุดนี้เอง — ยนซ.1:26:
ก. ในการเนรมิตสร้าง พระองค์ทรงวางความสามารถที่ทรงฤทธานุภาพทุกประการของพระองค์ไว้ภายใต้ข้อจำกัดแห่งความตั้งใจของมนุษย์ — ข้อ 28; 2:9, 16–17.
ข. พระเจ้าทรงต้องการให้ความตั้งใจของมนุษย์มาอยู่ฝ่ายพระองค์ ดังนั้นพระองค์จึงทรงยอมรับข้อจำกัดที่เกี่ยวพันกับความปรารถนานี้ — ยฮ.4:34; 5:30; 6:38; รม.12:2–3.
(3) ในฐานะอวัยวะแห่งพระกายอินทรีย์ที่ลับลึกของพระคริสต์ ถ้าเราไม่สำแดงพระองค์ เราก็จำกัดพระองค์อยู่ — 1กธ.12:12–13, 18–20, 27:
ก. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงจำเป็นต้องนำเราไปสู่จุดที่เราไม่มีสิ่งใดขัดขวางพระองค์ในการทำทุกสิ่งที่พระองค์ทรงตั้งใจไว้ — 6:17; มธ.6:10; 7:21; 12:50; อฟ.1:1, 9; 5:17.
ข. เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำเราไปสู่จุดที่เราตอบรับพระองค์ไปทั้งหมดแล้ว พระองค์จึงจะมีหนทางที่ทำให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จสมบูรณ์ได้อย่างอิสระและไม่ถูกขัดขวางไว้; ในเวลานั้นพระเจ้าจึงจะทรงทำทุกอย่างเพื่อให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จบนแผ่นดินโลกได้ โดยไม่มีสิ่งใดที่พระองค์ทรงทำไม่ได้อีก — มธ.6:10; 26:39, 42; ฮร.13:21.
II. พระเจ้าทรงจำเป็นต้องมีมนุษย์ในการฟื้นฟูแผ่นดินโลก — ยนซ.1:26, 28; มธ.6:10; วว.5:10:
1. มนุษย์ถูกพระเจ้าเนรมิตสร้างให้มีอำนาจครอบครองเหนือแผ่นดินโลก, พิชิตแผ่นดินโลก, เอาชนะเหนือแผ่นดินโลก, และฟื้นฟูแผ่นดินโลกคืนสู่พระเจ้า — ยนซ.1:26, 28.
2. จุดมุ่งหมายของพระเจ้าในการประทานอำนาจครอบครองให้มนุษย์คือการสยบศัตรูของพระเจ้า ซึ่งก็คือซาตานผู้ได้เป็นกบฏต่อพระเจ้า — ข้อ 26, 28:
(1) “พิชิต” ใน ยนซ.1:28 เปิดเผยเป็นนัยถึงสงครามที่กำลังดำเนินไประหว่างพระเจ้ากับศัตรูของพระองค์ ซึ่งก็คือซาตาน; ฝ่ายใดได้รับแผ่นดินโลก ฝ่ายนั้นก็มีชัยชนะ.
(2) พระเจ้าทรงมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง และปัญหานี้ก็คือซาตานผู้เป็นหัวหน้าทูตสวรรค์ที่เป็นกบฏต่อพระเจ้าและกลายเป็นศัตรูของพระองค์ในจักรวาลนี้ โดยเฉพาะบนแผ่นดินโลก — ยซย.14:12–14; ยอค.28:12–18:
ก. ในการสยบศัตรูของพระองค์เพื่อจะแก้ปัญหาของพระองค์ พระเจ้าได้ประทานอำนาจให้มนุษย์ปกครองเหนือสิ่งสารพัดที่พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างไว้ — ยนซ.1:26.
ข. สิ่งที่มนุษย์ต้องปกครองเป็นพิเศษคือแผ่นดินโลก กระทั่งต้องพิชิตแผ่นดินโลก เพราะแผ่นดินโลกถูกศัตรูที่เป็นกบฏของพระเจ้าฉกชิงไป — ข้อ 28.
ค. พระเจ้าทรงจำเป็นต้องให้มนุษย์ใช้อำนาจของพระองค์ปกครองเหนือสรรพสัตว์ที่เลื้อยคลาน ตลอดจนพิชิตและเอาชนะเหนือแผ่นดินโลกที่เป็นกบฏ เพื่อพระองค์จะทรงฟื้นฟูแผ่นดินโลกสำหรับอาณาจักรของพระองค์ — มธ.6:9–10; วว.5:10.
(3) พระเจ้าทรงต้องการใช้มนุษย์มาจัดการกับศัตรูของพระองค์ และพระองค์ก็ทรงเนรมิตสร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่อพระประสงค์นี้; พระเจ้าทรงประสงค์ให้มนุษย์ที่เป็นสิ่งทรงสร้างของพระองค์มาจัดการกับซาตานที่เป็นสิ่งทรงสร้างที่ตกต่ำของพระองค์ — ยนซ.1:28.
(4) ถ้าเราไม่ฟื้นฟูแผ่นดินโลกกลับคืนมาจากเงื้อมมือของซาตาน เราก็ยังไม่บรรลุถึงพระประสงค์ที่พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างมนุษย์ให้มาพิชิตแผ่นดินโลกและให้มีอำนาจครอบครอง; เราจำเป็นต้องจัดการกับซาตานและฟื้นฟูแผ่นดินโลกเพื่อสิทธิประโยชน์ของพระเจ้าและสนองความต้องการของพระองค์ — ข้อ 28; มธ.6:9–10.
III. พระเจ้าทรงจำเป็นต้องสิ้นสุดยุคสมัยนี้ — รม.12:2; อฟ.2:2; 2กธ.4:4; ตต.2:12:
1. ก่อนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาจะมีสถานการณ์ที่เหมือนกับในวันของโนฮา — มธ.24:37–39:
(1) โนฮาใช้ชีวิตอยู่ในยุคสมัยที่คดโกงและบิดเบือน — ยนซ.6:1–22.
(2) ในมัดธาย 24:37–39 และลูกา 17:26–27 องค์พระเยซูเจ้าทรงเปรียบยุคสมัยของเราเหมือนวันของโนฮา:
ก. สภาพการณ์ของการดำเนินชีวิตที่ชั่วร้ายที่ทำให้คนในสมัยของโนฮามึนชาก่อนที่น้ำจะท่วมโลกเป็นภาพบรรยายถึงสภาพการณ์ที่จะนำไปสู่ความพินาศในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ก่อนที่ภัยพิบัติใหญ่และพารุสเซียขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะเริ่มขึ้น — มธ.24:21, 3, 27, 37, 39.
ข. ถ้าเราอยากมีส่วนในการถูกรับขึ้นไปของเหล่าผู้มีชัยชะเพื่อจะรับสุขพารุสเซียขององค์พระผู้เป็นเจ้าและหลบหนีจากภัยพิบัติใหญ่ เราต้องมีชัยชนะต่อผลกระทบที่ทำให้มึนชาจากการดำเนินชีวิตมนุษย์ในวันนี้ — ลก.21:34–36.
2. บนแผ่นดินโลกในวันนี้มีเพียงสองสิ่งเท่านั้น — คนในสมัยที่คดโกงและบิดเบือน และคริสตจักรอันเป็นการสำแดงแห่งกลุ่มชนของพระคริสต์ — กจ.2:40; ฟป.2:15; 1กธ.1:2; 12:12, 27.
3. ถ้าเราอยากเป็นการสำแดงแห่งกลุ่มชนของพระคริสต์ในการดำเนินชีวิตคริสตจักร เราก็จำเป็นต้องเป็น “ครอบครัวของโนฮา” ในวันนี้ที่ก่อสร้างพระคริสต์แห่งกลุ่มชนอันเป็นนาวาที่จะช่วยเราให้รอดจากคนในสมัยที่คดโกงและบิดเบือนและนำเราเข้าสู่ยุคแห่งอาณาจักรของพระเจ้าที่จะมาถึง — ยนซ.6:8—8:3; 1กธ.12:12; ฟป.2:12–13; 1ปต.3:20–21.
4. นาวาที่โนฮาก่อสร้างขึ้นมาคือแบบเล็งของพระคริสต์ผู้เป็นความรอดของพลไพร่ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร; นาวาที่เรากำลังก่อสร้างในวันนี้คือพระคริสต์แห่งกลุ่มชน ซึ่งก็คือคริสตจักรอันเป็นการช่วยเราให้รอดจากคนในสมัยที่คดโกง, บิดเบือน, และชั่วร้ายในทุกวันนี้ — ข้อ 20–21; 1กธ.12:12, 27.
5. ชีวิตคริสตจักรคือนาวาในวันนี้ซึ่งจะสิ้นสุดยุคปัจจุบันและนำมาซึ่งอาณาจักรของพระเจ้า — 1:2; 12:12, 27; 1ธซ.1:1, 9–10:
(1) องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปรารถนา “ครอบครัวของโนฮา” ที่จะก่อสร้างนาวาและเป็นพยานต่อต้านแนวโน้มของยุคสมัยนี้ เพื่อพระองค์จะสามารถใช้พวกเขาในการสิ้นสุดยุคสมัยนี้และนำมาซึ่งยุคสมัยแห่งอาณาจักร — ฮร.11:7; วว.11:15.
(2) สิ่งที่เรากำลังก่อสร้างอยู่ในการดำเนินชีวิตคริสตจักรคือพระคริสต์แห่งกลุ่มชนในฐานะนาวาซึ่งมีเพื่อความรอดของเราและความรอดของคนทั้งปวงที่อยู่ภายใต้การดูแลของเรา — 1กธ.12:12; 14:26; ฟป.2:12–13.
6. พระเจ้าทรงต้องการคริสตจักรหรือนาวา อันเป็นสถานที่ซึ่งให้เราสามารถถูกช่วยให้รอดจากคนในสมัยที่ชั่วร้ายในวันนี้ — กจ.2:40–47:
(1) พระเจ้าทรงประสงค์ที่จะช่วยเราให้รอดจากคนในสมัยที่คดโกงและนำเราเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าเพื่อจะทำให้พระประสงค์ที่นิรันดร์ของพระองค์สำเร็จเป็นจริงผ่านนาวานี้ — มธ.6:33; 13:43; ลก.12:32; วว.11:15.
(2) พระเจ้าทรงคำนึงว่าเราอยู่ในนาวา ซึ่งก็คืออยู่ในการดำเนินชีวิตคริสตจักรที่ถูกต้องหรือไม่; พระองค์ทรงประสงค์ให้เราเป็นส่วนหนึ่งของพระคริสต์แห่งกลุ่มชน เป็นส่วนหนึ่งแห่งพยานของพระเยซู — 1กธ.12:12; วว.1:2, 9, 11, 20; 22:16.
7. เมื่อนาวานี้ถูกก่อสร้างขึ้นแล้ว องค์พระเยซูเจ้าก็จะเสด็จกลับมา — 19:7; 22:7, 12, 20:
(1) องค์พระผู้เป็นเจ้ายังไม่เสด็จกลับมาเพราะพระองค์ยังคงรอคอยให้นาวาถูกก่อสร้างให้สำเร็จ — มธ.16:18, 27.
(2) เมื่อพยานของคริสตจักรที่อยู่ในการฟื้นฟูขององค์พระผู้เป็นเจ้ามีความสุกงอมแล้ว องค์พระเยซูเจ้าจะเสด็จกลับมา — วว.19:7; 22:7, 12, 20.
IV. พระเจ้าทรงจำเป็นต้องมีบุตรชาย (man-child) เพื่อการเคลื่อนไหวแห่งกาลสมัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์ — 12:1–5, 7–12:
1. บุตรชายชี้ถึงเหล่าผู้มีชัยชนะที่อยู่ในคริสตจักร ชี้ถึงพลไพร่ของพระเจ้าในส่วนที่เป็นผู้มีชัยชนะ — 2:26–27; 12:5.
2. เหล่าผู้มีชัยชนะคือสื่อกลางซึ่งทำให้พระเจ้าบรรลุถึงพระประสงค์ของพระองค์; บุตรชายทำให้พระเจ้าสามารถเคลื่อนไหวได้ — ข้อ 10–11:
(1) บุตรชายประกอบไปด้วยเหล่าผู้มีชัยชนะที่ยืนหยัดเพื่อเห็นแก่คริสตจักร, ยึดมั่นในฐานะที่ทั้งคริสตจักรควรยึดมั่นไว้, และทำการงานเพื่อคริสตจักร — 2:7ข, 11ข, 17ข, 26–28; 3:5, 12, 21; 12:5, 11.
(2) เมื่อพระเจ้าทรงได้รับมาซึ่งผู้มีชัยชนะเหล่านี้ พระองค์ก็บรรลุถึงพระประสงค์ของพระองค์ และพระองค์ก็ทรงอิ่มหนำพระทัย.
3. ผู้หญิงที่สว่างไสวแห่งจักรวาลเป็นตัวแทนของการรวมยอดแห่งพลไพร่ของพระเจ้า และบุตรชายก็คือส่วนที่เข้มแข็งกว่าซึ่งอยู่ในตัวของผู้หญิงคนนี้ — ยนซ.3:15; วว.12:1–2, 5:
(1) ในพระคัมภีร์ถือว่าเหล่าผู้ที่เข้มแข็งกว่าในท่ามกลางพลไพร่ของพระเจ้าคือหน่วยที่เป็นส่วนรวมซึ่งคอยสู้รบเพื่อพระเจ้าและนำอาณาจักรของพระเจ้าลงมาสู่แผ่นดินโลก — ข้อ 5, 10–11.
(2) พระเจ้าจะทรงใช้บุตรชายในการทำให้แผนการบริหารของพระองค์สำเร็จเป็นจริงและทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จสมบูรณ์ — 1ตธ.1:4; 2ตธ.
1:9; อฟ.1:9, 11; 3:11:
ก. พระเจ้าทรงจำเป็นต้องให้บุตรชายมาปราบศัตรูของพระองค์ให้พ่ายแพ้และนำมาซึ่งอาณาจักรของพระองค์ เพื่อทำให้พระประสงค์ที่นิรันดร์ของพระองค์สำเร็จสมบูรณ์ — วว.12:10.
ข. การฟื้นฟูขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็คือภาคปฏิบัติที่เป็นจริงของแผนการบริหารของพระเจ้าในวันนี้ และทางเดียวที่จะทำให้แผนการบริหารของพระองค์สำเร็จลุล่วงได้ก็คือโดยบุตรชาย — ข้อ 5.
(3) บุตรชายมีความเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวแห่งกาลสมัยที่สำคัญที่สุดของพระเจ้า — มธ.6:9–10; วว.12:10; 11:15:
ก. พระเจ้าทรงต้องการที่จะสิ้นสุดยุคสมัยนี้และนำมาซึ่งยุคอาณาจักร และพระองค์ทรงต้องมีบุตรชายเป็นสื่อกลางแห่งกาลสมัยของพระองค์เพื่อเรื่องนี้.
ข. การรับบุตรชายขึ้นไปได้สิ้นสุดยุคคริสตจักรและนำเข้าสู่ยุคอาณาจักร — 12:5, 10.
ค. การรับบุตรชายขึ้นไปสู่สวรรค์, การเหวี่ยงซาตานมาสู่แผ่นดินโลก, และการประกาศในสวรรค์เป็นเครื่องหมายเล็งว่าบุตรชายจะนำอาณาจักรมาสู่แผ่นดินโลก; นี่คือการเคลื่อนไหวแห่งกาลสมัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้า — ข้อ 5, 9–10; 11:15.