ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการริเริ่มสร้างหลักสูตรและโครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 โดยวิเคราะห์ ปรับประยุกต์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด เพื่อนำไปออกแบบหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ผู้เรียน และท้องถิ่น
1.2 ออกแบบการจัดการเรียนรู้
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะทางวิทยาศาสตร์ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะตามหลักสูตร ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ Active Learning เน้นกระบวนการสืบเสาะ 5E เพื่อกระตุ้นการส่วนร่วมในชั้นเรียน โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ผู้เรียน และท้องถิ่น
1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ โดยอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ และส่งเสริมผู้เรียนได้พัฒนาเต็มศักยภาพได้เรียนรู้และทำงานร่วมกัน มีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียน ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning มีการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ และบันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการสร้างและพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียน เผยแพร่ลงบน YouTube Facebook เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน “เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา” Anywhere Anytime และมีทักษะการคิดและสามารถสร้างนวัตกรรมได้
1.5 วัดและประเมินผลการเรียนรู้
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง ตามศักยภาพและความแตกต่างของผู้เรียนให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ และพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
1.6 ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ไขปัญหา หรือพัฒนาการเรียนรู้
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการพัฒนาทักษะการใช้อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4–6 ออกแบบกิจกรรม “ฐานปฏิบัติการทดลองสนุก”
4 ฐาน ได้แก่ การใช้เทอร์มอมิเตอร์, เครื่องชั่ง, เครื่องแก้ว, และตะเกียงแอลกอฮอล์ ผลการดำเนินการพบว่า นักเรียนมีคะแนนพฤติกรรม
การใช้อุปกรณ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน นักเรียนส่วนใหญ่สามารถใช้อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง ปลอดภัย และมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น
1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิด ทักษะชีวิต ทักษะการทำงาน ทักษะการเรียนรู้นวัตกรรม ทักษะด้านสื่อและเทคโนโลยี เน้นสร้างการเรียนรู้ทางสังคมและอารมณ์ Social Emotional Learning (SEL)
1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการอบรมบ่มนิสัยให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และค่านิยมความเป็นไทยที่ดีงาม เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้เรียนได้บนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคล ผ่านกิจกรรม "พลเมืองดีวิถีปางแดง" กิจกรรม "1 ห้องเรียน 1 โครงงานคุณธรรม" เป็นต้น
1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร
1.2 ออกแบบการจัดการเรียนรู้
1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้
หากไม่เห็นอะไรที่ด้านบน ตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้ง
หากไม่เห็นอะไรที่ด้านบน ตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้ง
หากไม่เห็นอะไรที่ด้านบน ตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้ง
1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้
1.5 วัดและประเมินผลการเรียนรู้
การสอบแล็บ Lab Exam
ประเมินคลิปวิดีโอ "การเกิดเงา" ผ่าน Padlet
1.6 ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้
การใช้เทอร์มอมิเตอร์
การใช้เครื่องชั่งดิจิตอล
การใช้เครื่องชั่งสปริง
การใช้ตะเกียงแอลกอฮอล์
1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
1.8 อบรมและพัฒนาลักษณะที่ดีของผู้เรียน
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการจัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียน จัดทำเอกสารข้อมูลของผู้เรียนเป็นรายบุคคล อำนวยความสะดวกให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน เพื่อใช้ในการส่งสเริมสนับสนุนการเรียนรู้พัฒนาคุณภาพของผู้เรียน
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการเยี่ยมบ้านของผู้เรียน ร้อยละ 100 จัดทำข้อมูลและใช้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เรียนเป็นรายบุคคลในการช่วยเหลือขอทุนการศึกษา และประสานความร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาผู้เรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการ และงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการปฏิบัติงานทางวิชาการขอบข่ายงาน 17 ด้าน ร่วมเป็นคณะทำงานการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาของทุก ๆ ปี
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และหรือสถานประกอบการ
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการเข้าร่วมการประชุมผู้ปกครองทุกภาคเรียน ภาคเรียนละ 1 ครั้ง และเชิญวิทยากรภายนอกมาให้ความรู้กับผู้เรียน เพื่อร่วมพัฒนาผู้เรียน
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการ และงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และหรือสถานประกอบการ
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
ผลการดำเนินงาน
พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการศึกษาสมรรถนะวิชาชีพครูและความรอบรู้ในเนื้อหาวิชาและวิธีการสอน
อบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาความฉลาดรู้ด้าน Generative AI สำหรับการศึกษา (Generative AI Literacy for Education) สพป.เชียงใหมม่ เขต 1 วันที่ 22-23 กันยายน 2568
อบรมภาษาอังกฤษเพื่อวิชาชีพครู English for Teacher Profession มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
วันที่ 2 กันยายน 2568
อบรมหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับครูประถม (English for Elementary Teacher) มหาวทิยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
วันที่ 27-28 พศจิกายน 2568
3.2 มีส่วนร่วม และเป็นผู้นำในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทางวิชาชีพ
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการการมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ และเป็นวิทยากรการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการจัดการเรียนรู้และการจัดการข้อมูลสารสนเทศ
เข้าร่วมงานนวัตกรรมการศึกษา สพป.เชียงใหม่ เขต 1 2025 วันที่ 6 กันยายน 2568
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเอง
ผลการดำเนินงาน
ได้ดำเนินการนำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนา กิจกรรมการเรียนรู้ Active Learning เพื่อแก้ไขปัญหาของผู้เรียน
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
3.2 มีส่วนร่วมและเป็นผู้นำในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเอง และวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้ และพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียน
การสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ สู่การพัฒนาสมรรถนะการคิดขั้นสูง
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
1.ที่มาและความสำคัญ
ระบบนิเวศการเรียนรู้ เป็นคำสำคัญที่ได้ระบุไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยให้ความสำคัญกับปัจจัยและสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้สามารถได้รับการพัฒนาและยกระดับได้เต็มศักยภาพและเหมาะสม โดยเข้าถึงความรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา สอดคล้องกับเป้าหมาย การพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของคนไทย 4.0 หรือนักเรียนในศตวรรษที่ 21 คุณลักษณะใหม่ที่ผู้เรียนจำเป็นต้องพัฒนาคือ ความเป็นพลเมืองโลก ทักษะข้ามวัฒนธรรม (Cross Cultural Understanding) และการเป็นพลเมืองดิจิทัล (Digital Citizen) ดังนั้นผู้เรียนจำเป็นต้องมีสมรรถนะหลักสำคัญที่ใช้ในการดำเนินชีวิต การศึกษา การทำงาน และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข สมรรถนะที่กล่าวถึง คือผลรวมของความรู้ ทักษะ เจตคติ คุณลักษณะและความสามารถอื่น ๆ ที่ช่วยให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลประสบความสำเร็จในการทำงาน ซึ่งสมรรถนะที่ต้องการพัฒนาผู้เรียน คือ สมรรถนะการคิดขั้นสูง (Higher Order Thinking : HOT) ผู้เรียนสามารถคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีมีวิจารญาณบนหลักเหตุผลด้วยความเข้าใจถึงความเชื่อมโยงของสรรพสิ่งที่อยู่ร่วมกันอย่างเป็นระบบ เมื่อศึกษาบริบทของโรงเรียนและชุมชนแล้วมีส่วนของที่ตั้งและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียน โดยการมุ่งนำเอาความงามของสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ในธรรมชาติการเรียนรู้ เช่น อาคาร สถานที่ สื่อการเรียนรู้ พื้นที่พักผ่อน พื้นที่ชุมชน มาเป็นส่วนประกอบในการจัดนิเวศการเรียนรู้ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ ระบบนิเวศการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญคือ ผู้เรียน ผู้สอน และผู้ปกครอง โดยมีสถานศึกษาและชุมชนเป็นหน่วยสนับสนุนสำคัญ ในการจัดระบบนิเวศการเรียนรู้ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้ผ่านการใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) 6 ขั้นตอน โดยมีลำดับขั้นตอน ดังนี้ 1) กำหนดปัญหา 2) ทำความเข้าใจกับปัญหา 3) ดำเนินการศึกษาค้นคว้า 4) สังเคราะห์ความรู้ 5) สรุปและประเมินค่าของคำตอบ และ 6) นำเสนอและประเมินผลงาน ดังนั้น จึงได้นำระบบนิเวศการเรียนรู้ ผ่านการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) เพื่อพัฒนาสมรรถนะการคิดขั้นสูงของผู้เรียน
2.วิธีการดำเนินการ
1. ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ โดยศึกษาและวิเคราะห์ แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับแนวทางการจัดการเรียนรู้ตามระบบนิเวศการเรียนรู้ (Learning Ecosystem)
2. พัฒนาและดำเนินจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ระบบนิเวศการเรียนรู้ (Learning Ecosystem) ผ่านการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) และแบบประเมินสมรรถนะการคิดขั้นสูง
3. ส่งแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ (ท่านผู้อำนวยการและคณะครูในสถานศึกษา)
4. นำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ไปปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
5. นำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ระบบนิเวศการเรียนรู้ (Learning Ecosystem) ไปใช้กับผู้เรียน
6. ทำการทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน ประเมินสมรรถนะการคิดขั้นสูง และเก็บรวบรวมข้อมูล
7. วิเคราะห์ สรุปผล
3.ผลการดำเนินการ
เชิงปริมาณ
1. ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 87.50 มีสมรรถนะการคิดขั้นสูงในระดับ สามารถ ขึ้นไป โดยมีสมรรถนะการคิดขั้นสูงอยู่ใน ระดับกำลังพัฒนา 1 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5 ระดับสามารถ 4 คน คิดเป็นร้อยละ 50 และระดับเหนือความคาดหวัง 3 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5 สรุปได้ว่า นักเรียนชั้นป.6 ที่มีสมรรถนะ ระดับ สามารถขึ้นไป คิดเป็น 7 คน ร้อยละ 87.50
เชิงคุณภาพ
1.ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และปรับประยุกต์ใช้กับรายวิชาอื่นได้
การฝัด
การรินออก
การร่อน
การระเหยแห้ง
การกรอง
การใช้แม่เหล็กดูด
https://padlet.com/sirimoncharassantijit/6-4v753yqp92vjlrmn
บอร์ดแสดงความคิดเห็น
ผลการดำเนินงาน
ผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 87.50 มีสมรรถนะการคิดขั้นสูงในระดับ สามารถ ขึ้นไป
โดยมีสมรรถนะการคิดขั้นสูงอยู่ใน ระดับกำลังพัฒนา 1 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5 ระดับสามารถ 4 คน
คิดเป็นร้อยละ 50 และระดับเหนือความคาดหวัง 3 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5 สรุปได้ว่า นักเรียนชั้นป.6 ที่มีสมรรถนะ ระดับ สามารถ ขึ้นไป คิดเป็น 7 คน ร้อยละ 87.50